หลายพันคนอพยพออกจากพื้นที่ หนีไฟป่าลุกลามในกรีซและตุรเคีย
เจ้าหน้าที่บนเกาะครีตทางตอนใต้ของกรีซอพยพประชาชนหลายพันคนออกจากสถานการณ์ไฟป่า ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 2 รายในตุรเคียซึ่งเผชิญไฟป่าลุกลามทางตะวันตกของประเทศ
นักผจญเพลิงกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่เกิดขึ้นในเมืองอีเอราเปตรา บนเกาะครีต ทางตอนใต้ของกรีซ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม (Photo by Costas Metaxakis / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม 2568 กล่าวว่า ประเทศกรีซและตุรเคียซึ่งมีพื้นที่อยู่ข้างเคียงกัน กำลังเผชิญกับสถานการณ์ไฟป่าที่น่ากังวล ทั้งความเสียหายของทรัพยากรและความปลอดภัยของผู้คน
เจ้าหน้าที่ของกรีซเปิดเผยว่า เกิดเหตุไฟป่าปะทุที่บริเวณใกล้ท่าเรือราฟินา ห่างจากกรุงเอเธนส์ไปทางทิศตะวันออกราว 30 กิโลเมตร
สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งในกรีซซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับช่วงเวลานี้ของปี ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟไหม้ป่าซ้ำรอยเดิมที่เคยเกิดขึ้นในประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ยอร์โกส ซาราคิส ประธานสมาคมโรงแรมระดับภูมิภาคบนเกาะครีตให้ข้อมูลว่าผู้คนราว 5,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุไฟป่าลุกลามเมื่อเย็นวันก่อนหน้า
เขาระบุว่านักท่องเที่ยวราว 3,000 คนและผู้อยู่อาศัยราว 2,000 คนต้องอพยพออกไปทางเหนือและส่วนใหญ่ต้องเดินทางข้ามคืน เพื่อหลีกหนีเหตุไฟป่าในพื้นที่ใกล้กับเมืองตากอากาศอีเอราเปตราทางตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ภูมิประเทศที่เข้าถึงไม่ได้ในเกาะครีตซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของกรีซถือเป็นอุปสรรคขัดขวางการทำงานของนักผจญเพลิงในความพยายามหยุดการลุกลามของไฟป่า
ไฟป่าอีกจุดหนึ่งใกล้กรุงเอเธนส์ได้เผาผลาญบ้านเรือนไปแล้ว 5 หรือ 6 หลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประมาณ 170 นาย, เครื่องบินดับเพลิง 17 ลำ, รถดับเพลิง 48 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 7 ลำกำลังต่อสู้กับการลุกลามเพื่อไม่ให้เข้าสู่ศูนย์กลางชุมชน
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้อพยพผู้คนออกไปแล้ว 300 คน และช่วยชีวิตไว้ได้ 51 คน
แต่ภารกิจของพวกเขาอาจซับซ้อนขึ้นเนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและลมแรงซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเธนส์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทั้งนี้ ความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่านั้นค่อนข้างรุนแรงอยู่แล้วในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปีในกรีซ
ขณะที่ตุรเคียอาจรอดพ้นจากคลื่นความร้อนที่ปกคลุมยุโรปตอนใต้เมื่อไม่นานนี้ แต่ประเทศกลับต้องต่อสู้กับผลกระทบจากภัยแล้งระยะยาวที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
เกิดไฟป่าสองแห่งใกล้กับเมืองอิซเมียร์ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ โดยในแต่ละกรณี มีการอพยพหมู่บ้านสามแห่ง
มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นคนไข้ติดเตียงและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า
สุไลมาน เอลบัน ผู้ว่าการอิซเมียร์กล่าวว่า ปัญหาหลักคือกระแสลมแรงที่พัดด้วยความเร็วสูงถึง 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (53 ไมล์ต่อชั่วโมง) และเปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอดเวลา
"การแทรกแซงจากทั้งทางบกและทางอากาศจึงเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง" เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว และเสริมว่าเปลวไฟได้ตัดถนนสายหลักจากศูนย์กลางของเมือง ขณะที่นักผจญเพลิงพร้อมด้วยรถดับเพลิงและเครื่องบินดับเพลิงระดมกำลังต่อสู้กับเปลวไฟอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม นักอุตุนิยมวิทยาอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงป่าไม้ตุรเคีย บอกกับเอเอฟพีว่า "ไฟป่าร้อยละ 90 ล้วนเกิดจากฝีมือมนุษย์ โดยเฉพาะสายไฟฟ้าที่มีความเสี่ยงหากไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม"
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ทำให้เกิดไฟป่าและภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆ บ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น.