Apple ปิดร้านค้าปลีกในจีนเป็นครั้งแรก สะท้อนแรงกดดันยอดขายตกต่ำ-สภาพเศรษฐกิจซบเซา
Apple ปิดร้านค้าปลีกในจีนเป็นครั้งแรกที่ห้าง Parkland Mall เมืองต้าเหลียน สะท้อนแรงกดดันยอดขายตกต่ำ-สภาพเศรษฐกิจซบเซา
วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.44 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Apple Inc. ประกาศปิดร้านค้าปลีกแห่งหนึ่งในประเทศจีนเป็นครั้งแรก นับเป็นสัญญาณการถอยครั้งสำคัญในตลาดที่บริษัทกำลังพยายามฟื้นฟูยอดขาย iPhone
บริษัท Apple เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่าจะปิดร้านในห้างสรรพสินค้า Parkland Mall เขตจงซาน เมืองต้าเหลียน ในวันที่ 9 สิงหาคม โดยให้เหตุผลว่าสภาพแวดล้อมของศูนย์การค้าดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบัน Apple มีร้านค้าปลีกประมาณ 56 แห่งในภูมิภาคจีนแผ่นดินใหญ่ คิดเป็นมากกว่า 10% ของจำนวนร้านค้าทั่วโลกที่มีมากกว่า 530 สาขา
“เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าทั้งทางออนไลน์และที่ร้าน Apple Store กว่า 50 แห่งทั่วภูมิภาคจีนแผ่นดินใหญ่” Apple กล่าวในแถลงการณ์ และเสริมว่า “จากการที่มีร้านค้าหลายแห่งถอนตัวออกจาก Parkland Mall เราจึงตัดสินใจปิดร้านของเราที่นั่น”
การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด การบริโภคที่ลดลง และผลกระทบจากมาตรการภาษีของประเทศต่าง ๆ ที่ถ่วงภาคการส่งออกซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจอันดับสองของโลก ยอดขายปลีกในจีนเติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และราคาบ้านในเดือนมิถุนายนก็ลดลงในอัตราที่เร็วขึ้น
ร้านที่กำลังจะปิดนี้เป็น 1 ใน 2 แห่งของApple ในเมืองต้าเหลียน โดยอีกร้านตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า Olympia 66 และจะยังคงเปิดให้บริการต่อไป ทั้งสองแห่งตั้งอยู่ห่างกันเพียงประมาณ 10 นาที Appleระบุว่า พนักงานจากสาขาที่จะปิดจะได้รับโอกาสในการย้ายไปทำงานในตำแหน่งอื่นภายในบริษัท
ในภาพรวม Appleกำลังพยายามฟื้นตัวในตลาดจีน โดยยอดขายในประเทศจีนในไตรมาสที่ 2 ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 29 มีนาคม ลดลง 2.3% เหลือ 16,000 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ซึ่งอยู่ที่ 16,800 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ Appleมีกำหนดเปิดร้านใหม่ที่ Uniwalk Qianhai เมืองเซินเจิ้นในวันที่ 16 สิงหาคม และมีแผนจะเปิดร้านใหม่เพิ่มเติมในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ในปีหน้า ตามรายงานของ Bloomberg News โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทยังได้เปิดร้านใหม่ในมณฑลอันฮุย
นอกจากจีน Appleยังขยายสาขาในประเทศอื่น ๆ ด้วย เช่น ดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย ร้านใหม่ในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม และร้านแฟล็กชิปแห่งใหม่ในไมอามี สหรัฐ ก็เพิ่งเปิดตัวในเดือนมกราคม ขณะที่ร้านแรกในมาเลเซียเปิดเมื่อปีที่แล้ว
แม้ว่า Appleจะยังคงเปิดร้านใหม่ในบางประเทศ แต่โดยรวมการขยายสาขาใหม่ชะลอตัวลงตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทหันไปให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางออนไลน์ในประเทศใหม่ ๆ เช่น อินเดียและซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการย้ายหรือปรับปรุงร้านเดิมแทน
Appleยังดูเหมือนจะเลือกมากขึ้นในการต่ออายุสัญญาเช่าร้านค้าต่าง ๆ โดยในวันเดียวกับที่ประกาศปิดร้านในจีน บริษัทก็ประกาศแผนปิดร้านที่เมืองบริสตอล สหราชอาณาจักรด้วย ร้านอื่น ๆ ที่เตรียมปิดในอนาคต ได้แก่ Partridge Creek ในรัฐมิชิแกน และ Hornsby ใกล้เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
Appleไม่ใช่แบรนด์ใหญ่รายเดียวที่ถอนตัวจาก Parkland Mall ของจีน โดยก่อนหน้านี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของศูนย์การค้าได้เข้าควบคุมการดำเนินงานเต็มรูปแบบ และมีแบรนด์ชั้นนำอย่าง Coach, Sandro และ Hugo Boss ที่ไม่ได้ต่อสัญญาเช่าพื้นที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเช่นกัน
อ้างอิง : bloomberg.com