“ภูมิธรรม” ย้ำมาดู มท.เอาจริงต่อเนื่อง ปราบยาเสพติด
"ภูมิธรรม" เผยในรายการ "โอกาสไทย" ถึงการปราบปรามยาเสพติด ย้ำ เอาจริงต่อเนื่อง จะลงพื้นที่แบบไม่แจ้งล่วงหน้า ใช้ทั้ง"กำปั้นเหล็กและถุงมือกำมะหยี่"
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าว ในรายการ "โอกาสไทย" โดยระบุ ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ว่า
การแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศต้องท้าวความกลับไปถึงรัฐบาลทักษิณ เพราะถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน จากนั้นปัญหาก็ล่วงเลยมาตลอดและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงรัฐบาลของ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งตนก็มีส่วนร่วมในคณะรัฐมนตรีชุดแรก ก็ได้มีการเน้นย้ำว่ายาเสพติดเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ เพราะกำลังคนที่ควรจะเป็นกำลังคนในการพัฒนา
ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านชุมชนต่างๆทุกลำดับชั้น ที่ควรจะมีศักยภาพในการสร้างเศรษฐกิจ เพราะการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีคือต้องพัฒนาจากเศรษฐกิจฐานรากตรงนี้สำคัญ แต่กำลังคนส่วนใหญ่มีปัญหาไม่สามารถเป็นทรัพยากรที่ทำให้เกิดประโยชน์ได้
นายกฯ แพทองธาร จึงได้สั่งการให้แก้ปัญหากำชับ แต่ก็พบว่ายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร สุดท้ายที่ตนเข้ามาในมหาดไทยก็ตัดสินใจใช้กลไกของมหาดไทย เข้ามาในการแก้ไขปัญหา นายกฯรับรู้เรื่องราวตั้งแต่ช่วงหาเสียง สมัยอุ้มท้องมีประชาชนเข้ามากอดร้องไห้ว่าด้วยสูญเสียลูก สูญเสียสามีไปจากยาเสพติด นายกฯมองเห็นปัญหา ได้ไปคุยกับทุกหน่วยงาน ทั้ง ป.ป.ส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มหาดไทย หลายหน่วยงานยังไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
ปัญหาที่นำมาของยาเสพติด ถือเป็นหัวใจ ตอนไปเจอประชาชน ประชาชนรู้อยู่เต็มอกว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และที่ได้ยินมา มีเจ้าหน้าที่บางส่วนร่วมมือกัน ในการปล่อยยาเสพติดข้ามด่านผ่านแดนมา ทำให้ทำลายสังคมทำลายประเทศชาติวันนี้ตนรับรู้ประชาชนรู้ แต่ทำไมในพื้นที่ถึงไม่รู้ แสดงว่าตรงนี้คือปัญหา และผู้มีอำนาจในการใช้กฎหมายไม่ทำ หากตนพบจะย้ายออกนอกพื้นที่ก่อน หากยังมีอยู่ต้องได้เห็นสั่งย้ายแน่นอน ยกตัวอย่างช่วงแก้ปัญหา Call Center ก็มีการสั่งย้ายผู้กำกับมาแล้ว คนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากมีการข่าวรายงานจะย้ายออกเลย เชื่อว่าปัญหาจะดีขึ้น เชื่อว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ไม่ได้พูดจาอะไรเกินเลย ผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้ถ่ายทอดมาให้รับฟังเอง
วันนี้ในเรื่องของ"ตาสับปะรด"ตรวจสอบแจ้งรู้ทั้งหมดอยู่แล้ว ทำให้เกิดการจับกุมเป็นจำนวนมาก
นโนบาย "Seal Stop Safe" เป็นปัญหาที่มาจากภายนอกเป็นแหล่งผลิตเราเป็นทางผ่านหากจะสกัดแก้ปัญหาจะต้องทำตั้งแต่ต้นตอในสิ่งที่เป็นอยู่ให้หมดไป ชายแดนไม่ได้จัดการอย่างจริงจังเป็นระบบ เวลานี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สามารถจัดการ ใช้อุปกรณ์ในการแก้ปัญหาได้ ใช้โดรนบินสำรวจก่อนใช้กำลังคนเข้าไปจัดการ สกัดทั้งของที่ผลิตแล้วจะนำเข้ามาสกัดทั้งสารตั้งต้นที่จะนำออกไป ข้างในฝ่ายปกครองจะต้องดูแล ฝ่ายปกครองอำเภอที่อยู่ชายแดน ไม่ให้มีการใช้ไทยเป็นจุดพักยา ต้องSealให้ได้จริงๆต้องหยุดให้ได้
ให้ถือเป็นภารกิจหน้าที่โดยตรงของทุกกระทรวงหน่วยงานผลักดันให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขอความร่วมมือทุกส่วนหากปล่อยไปแบบนี้จะเป็นการทำลายบ้านเมือง หากเราร่วมมือกัน วันนี้ทุกฝ่ายขยับเขยื้อนแล้ว ปัญหายาเสพติดแก้ไม่ได้ด้วยคนใดคนหนึ่ง ทุกส่วนต้องช่วยกันพึ่งพากันรวมถึงประชาชนด้วย
ตรงไหนยังมีปัญหาจะใช้ทั้ง "กำปั้นเหล็กและถุงมือกำมะหยี่" การทำงานของตนจะออกพื้นที่ตลอดเวลาโดยไม่บอกว่าจะไปไหน ย้ายจริงทำจริง ของดีจะต้องดีตลอดเวลา หากมีปัญหาที่จุดไหน จุดนั้นต้องรับผิดชอบ ในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน รวมทั้งการขยายผลให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร และในภูมิภาค ทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอ ไปสู่การปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนอื่น ๆ ด้วย
กลไกของรัฐทั้งหมดต้องกลับมาทำหน้าที่เป็นกลไกสนับสนุนส่งเสริมแก้ไขปัญหาสังคมทำให้ประชาชน สถาบันครอบครัวเข้มแข็งสร้างบทบาทช่วยผลักดันภาครัฐ หน่วยที่สำคัญที่สุดอีกหน่วย คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นพลังที่สำคัญที่ดีในการขับเคลื่อนตรวจสอบ การแก้ปัญหายาเสพติดที่ดีที่สุดคือการข่าว "ตาสับปะรด" ยังมีความจำเป็น และย้ำว่า รับนโยบายมาแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะอยู่นานหรือไม่นาน จนวันสุดท้ายก็จะทำหน้าที่ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews