เศรษฐา เชื่อแพทองธารเจตนาบริสุทธิ์ หนุนชัยเกษมหากเปลี่ยนนายกฯ
นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ผ่านรายการคมชัดลึก "ผ่าทางตันประเทศไทย" (คลิ๊กชมรายการ) เน้นย้ำถึง “ความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง” และเชื่อมั่นใน“เจตนาบริสุทธิ์” ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อกรณีคลิปเสียงฮุนเซนจนนำไปสู่มติศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อรอคำวินิฉัย "หากการทำงานตั้งอยู่บนความบริสุทธิ์ใจและความถูกต้อง ก็ไม่ควรถูกตัดสินจากผลลัพธ์ทางการเมืองหรือกระแสกดดันใดๆ"
นายเศรษฐา แสดงความไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา ถูกจัดเป็นเรื่องไม่ควรเร่งรีบในสถานการณ์ปัจจุบันเพราะประเทศยังมีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องจัดการ อาทิ การพิจารณางบประมาณแผ่นดิน และการรับมือกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย การยุบสภาจะสร้างสุญญากาศทางการเมืองและกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายเศรษฐาระบุว่า กระบวนการเปลี่ยนผ่านต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยพรรคร่วมรัฐบาลจะร่วมกันเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ารับตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐาให้การสนับสนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีความเหมาะสมที่จะนําประเทศเดินหน้าต่อในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
หากนายชัยเกษมได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หน้าที่สำคัญลำดับแรกคือการดำเนินการให้ร่างงบประมาณและมาตรการภาษีต่างประเทศแล้วเสร็จ ก่อนวางกรอบเวลาชัดเจนในการคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไป
อดีตนายเศรษฐายอมรับว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีความเปราะบาง ทั้งจากจำนวนเสียงในสภาที่ไม่มั่นคง และจากการมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีถึง 3 รายจากพรรคเดียวกัน ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลในสายตาประชาชน
"สิ่งที่ควรมาก่อนในสถานการณ์นี้คือการบริหารด้วยสติและความจริงใจ” โดยขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักรัฐธรรมนูญ ไม่ใช้ความเร่งรีบหรือการเมืองเล่นเกมเพื่อผลประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมเสนอให้จัดลำดับความสำคัญแห่งรัฐ เร่งเดินหน้างบประมาณ เจรจานโยบายต่างประเทศ แล้วจึงค่อยเปิดทางให้ประชาชนตัดสินอนาคตประเทศด้วยตนเอง" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว