เช็กจังหวัดรับมือฝนตกหนัก ‘พายุวิภา’ เสี่ยงน้ำท่วม คลื่นลมแรง 20-24 ก.ค.นี้
กรมอุตุฯ เตือนฉุกเฉินพายุวิภา เช็กจังหวัดได้รับผลกระทบ ฝนตกหนักถึงหนักมากทั่วไทย 20-24 ก.ค.นี้ รับอิทธิพลพายุ-มรสุม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-คลื่นลมแรง เฝ้าระวังเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 2 เฝ้าระวังพายุโซนร้อนกำลังแรง พายุวิภา ที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 21-22 กรกฎาคมนี้ อิทธิพลของพายุจะผนึกกำลังกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่รุนแรง ส่งผลให้ประเทศไทยในหลายภูมิภาคจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันนี้ (20 ก.ค.) ไปจนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเตรียมรับมือภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
วันนี้เวลา 04.00 น. พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา มีศูนย์กลางอยู่ในทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบน ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำแล้วเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมประเทศลาวและภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยต่อไป
ปรากฏการณ์ดังกล่าว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่
เช็กรายชื่อจังหวัดคาดว่าได้รับผลกระทบพายุวิภา
กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก แบ่งตามช่วงวันดังนี้
วันที่ 20 กรกฎาคม 2568
- ภาคเหนือ : เชียงราย, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, กำแพงเพชร และตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : หนองคาย, บึงกาฬ, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, ยโสธร, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : ลพบุรี, สระบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และนครปฐม
- ภาคตะวันออก : นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, ชุมพร, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต และกระบี่
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568
- ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์ และตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม และมุกดาหาร
- ภาคกลาง: นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, นครปฐม, สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก: นครนายก, ปราจีนบุรี, จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, ระนอง และพังงา
ช่วงวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2568
- ภาคเหนือ : แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน, ลำปาง, พะเยา, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, พิษณุโลก, พิจิตร, เพชรบูรณ์, กำแพงเพชร และตาก
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เลย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ, กาฬสินธุ์, มุกดาหาร, ยโสธร, อำนาจเจริญ, นครราชสีมา และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, ลพบุรี, สระบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา
- ภาคตะวันออก : นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ระนอง และพังงา
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันดังกล่าว
ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ และติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดผ่านเว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือสายด่วน 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง