โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ยกเลิก ‘ยศพระ’ ดีไหม เมื่อสิ่งที่ทำลายพระสงฆ์มากที่สุด หนีไม่พ้น ‘สมณศักดิ์

The Momentum

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE MOMENTUM

กรณี ‘สีกากอล์ฟ’ สั่นสะเทือนวงการพระ พระผู้ใหญ่นับสิบรูปต้องลาสิกขา เนื่องจากพัวพันทั้งในเชิงชู้สาว ทั้งในเรื่องเงินทอง ครั้งนี้ไม่ใช่แค่พระที่มีลูกศิษย์ลูกหามากเข้าไปพัวพันเท่านั้น หากแต่เป็นระดับเจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดใหญ่ บางรูปจบเปรียญธรรม 9 ประโยค บางรูปเป็นเจ้าคณะจังหวัด บางรูปเป็นศาสตราจารย์อายุน้อยที่สุด กลายเป็นการสะกิดแผลใหญ่วงการสงฆ์ไทย จนกลายเป็นเรื่อง ‘โจ๊ก’ ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน

จริงอยู่ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระไปพัวพันกับกรณีชู้สาว เราเคยมีกรณีของพระยันตระ กรณีของพระครูใบฎีกานิกร กรณีของหลวงปู่เณรคำ แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่วุ่นวายที่สุด เพราะพระทุกรูปล้วนมี ‘สมณศักดิ์’ มี ‘พัดยศ’ ที่ได้รับพระราชทานติดตัว ขณะที่อดีตพระหลายรูปก็มียศ ‘วชิร’ นำหน้า เป็นเชิงสัญลักษณ์ถึงความใกล้ชิดกับ ‘วัง’ และ ‘วัง’ ก็ใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนา

‘สมณศักดิ์’ กลายเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดในวงการสงฆ์ เมื่อมีสมณศักดิ์ทุกคนก็อยากขึ้นเป็นใหญ่ เป็นชั้นราช ชั้นเทพ ชั้นธรรม ชั้นพรหม ชั้นสมเด็จ และแน่นอน ยิ่งไต่เต้ามากขึ้น ก็ยิ่งได้เข้าสู่ ‘ศูนย์กลางอำนาจ’ มากขึ้น

ระบบเช่นนี้ถูกคิดขึ้นมาเกิน 100 ปี ที่แล้ว เพื่อให้คณะสงฆ์ควบคุมและกำกับดูแลกันเอง มีเส้นการบังคับบัญชาที่ชัดเจน ทว่ากรณีสีกากอล์ฟสะท้อนชัดว่า ระบบควบคุมกันเองในคณะสงฆ์นั้น กลับไม่สามารถควบคุมได้แม้แต่รูปเดียว

มากไปกว่านั้น หากระบบเลื่อนตามความสามารถ ตามประสิทธิภาพ กระทั่งระบบอาวุโสก็ยังดี แต่ในความเป็นจริงกลับแย่กว่านั้น

ผมเคยได้ยินเมื่อหลายปีก่อนว่า หากขุดให้ลึกกันจริงๆ ตำแหน่งเหล่านี้ซื้อขายกันไม่แพ้ ‘ตำรวจ’ ต่างคนต่างขึ้นเป็นใหญ่ แย่งกันเป็นพระราชาคณะ เพราะสิ่งที่ตามมาคือ เมื่ออำนาจเพิ่ม ‘เงิน’ ก็เพิ่ม ‘บริวาร’ ก็เพิ่ม สังเกตกันให้ดี พระยุคนี้นั่งรถหรู เบนซ์ บีเอ็มฯ วอลโว อัลพาร์ด มาประชันกัน กลายเป็น ‘ระบบอุปถัมภ์’ ไม่ต่างจากวงการอื่นๆ ที่มีระบบนี้

ทว่ามียศมากขึ้น อำนาจมากขึ้น แต่กลับไม่ได้มี Job Description ชัดเจนเหมือนกับในระบบราชการ ตลกร้ายก็คือ ยิ่งยศสูงขึ้น ชาวบ้านก็ยิ่งเข้าหายากขึ้น ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง กุฏิพระเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรู นอนห้องแอร์ หากจะต้องนิมนต์พระผู้ใหญ่บางรูปไปกิจนิมนต์ก็ต้อง ‘ใส่ซอง’ มากขึ้น เพราะถือว่ากลายเป็น ‘พระผู้ใหญ่’ โดยสมบูรณ์

คำถามก็คือแล้วทำไมต้องมี ‘สมณศักดิ์’

อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เคยให้สัมภาษณ์ The Momentum เมื่อหลายปีก่อนว่า การมี ‘สมณศักดิ์’ แบบที่เห็นกันวันนี้ เริ่มต้นในสมัยรัชกาลที่ 5 พระที่ได้รับการแต่งตั้งเหล่านั้นได้เข้าวังมาเทศน์สอนพระเจ้าแผ่นดิน

“เพราะแต่ก่อน จนตราบถึงรัชกาลที่ 5 พระเจ้าแผ่นดินต้องทรงธรรม ฟังเทศน์ ใส่บาตรทุกวัน กระทั่งถึงรัชกาลที่ 5 ประเทศเริ่มเข้าสู่สมัยใหม่ ประเพณีดังกล่าวก็เริ่มหายไป ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย ยกตัวอย่างเช่นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ตลอด 27 ปีที่บวชมา ท่านไม่รับสมณศักดิ์เลย จนถึงยุครัชกาลที่ 4 ท่านเห็นว่า ประเทศไทยเปิดให้ต่างชาติเข้ามา โลกสันนิวาสกำลังเปลี่ยนไป ท่านถึงรับสมณศักดิ์เพื่อเข้ามาเทศน์เตือนพระเจ้าแผ่นดิน ดังนั้นสมณศักดิ์จึงมีทั้งคุณและโทษ โบราณเขาว่ายศช้างขุนนางพระ พระดีๆ ท่านไม่สนใจสมณศักดิ์หรอก ท่านยึดถือศีลาจารวัตรสำคัญกว่า”

ปัญหาก็คือ ในระยะหลัง สมณศักดิ์กลายเป็น ‘เครื่องมือ’ ที่ใช้ในการอวดอ้างอำนาจ มีทั้งใช้เพื่อการเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ใช้ดูดวง ใช้รับกิจนิมนต์ในที่หรูหรา และสิ่งที่ตามมาก็คือ ‘เงิน’

ฉะนั้นอย่าแปลกใจที่ว่า ลิสต์ของ ‘สีกากอล์ฟ’ ทำไมถึงมีแต่พระผู้ใหญ่ ยศสูง เพราะรู้แน่ว่า (อดีต) พระเหล่านี้มีเงินมาพอให้นำไปต่อยอดทำอย่างอื่น ถ้าทุ่มเทให้กับ ‘ความรัก’ มากพอ

ด้วยเหตุนี้ สมณศักดิ์ที่เป็นสิ่งที่ได้รับพระราชทานโดยพระมหากษัตริย์จึงกลายเป็นเรื่องที่ย้อนกลับมาทำลายพระพุทธศาสนาเสียเอง

สิ่งนี้ยังปรากฏผ่านการยกเลิกประกาศราชกิจจานุเบกษาตั้ง ‘ยศพระ’ จำนวน 81 รูป เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะพบว่ามีพระบางรูปในรายชื่อนั้นมีปัญหา และหากยังตั้งต่อไป แน่นอนว่าย่อมเสื่อมเสียถึงพระมหากษัตริย์ ผู้พระราชทานยศ

ที่น่าสนใจคือ ในระหว่างที่เกิดเรื่องเหล่านี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นั้นเงียบกว่าที่ควรจะเป็น เพราะอำนาจตามกฎหมายกำหนดให้เป็นเพียง ‘ฝ่ายเลขาฯ’ ของกรรมการมหาเถรสมาคม ทีมีแต่พระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น

และคำถามก็คือ หากพระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการมหาเถรสมาคมมีปัญหาเสียเอง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะทำอย่างไร กรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน และมีพระผู้ใหญ่อีกนับสิบรูปเป็นกรรมการจะยังฟังก์ชันอยู่หรือไม่

เป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ เพราะนอกจากเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์แล้ว มหาเถรสมาคมยังไม่มีระบบตรวจสอบ-ถ่วงดุลเหมือนกับทางโลก เพราะเราเชื่อมั่นว่าพระสงฆ์เป็นผู้ทรงศีล คงไม่กระทำการใดที่นอกลู่นอกทาง

ยกเลิก ‘สมณศักดิ์’ ได้ไหม

ในวันนี้มีความพยายามใช้กฎหมายทางโลกไปจัดการทางสงฆ์ กฎหมายฉบับใหม่ที่กำลังยกร่างภายใต้ชื่อ ‘ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา’ ให้พระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิกและสมัครใจเสพเมถุน ต้องโทษตามกฎหมายอาญา อาจมีโทษจำคุก 1-7 ปี ปรับ 2 หมื่น-1.4 แสนบาท รวมทั้งพระที่อวดอุตริ

หากกฎหมายนี้ผ่านจริงก็ถือเป็นการลาก ‘ทางธรรม’ ไปยุ่งกับทางโลก เปิดทางให้รัฐไทยกลายเป็น ‘รัฐศาสนา’ มากขึ้น

ขณะเดียวกันยังมีแนวคิดจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เตรียมออกระเบียบใหม่ให้วัดถือครองเงินสดไม่เกิน 1 แสนบาท ต้องฝากธนาคารในพื้นที่ และต้องทำบัญชีรายรับรายจ่าย ต้องทำรายงานการเงินประจำปี โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ดูแลตามกฎหมาย

ก็อีกเช่นกัน คำถามก็คือ จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเลข 1 แสนบาทเป็นตัวเลขที่เหมาะสม และในประเทศไทยที่มีวัดรวมกันกว่า 4.4 หมื่นแห่ง สำนักพุทธฯ จะตรวจสอบอย่างไรได้ทั้งหมด

ไม่เพียงเท่านั้น ‘พระ’ ส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ยังใช้เงินผ่านบัญชีส่วนตัว ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับเงินวัด กรณีอดีตพระ-พระจำนวนมากที่โยงใยกับสีกากอล์ฟ จึงเกิดจากการโอนผ่านบัญชีของพระเอง มากกว่าจะเป็นบัญชีวัด

เช่นนั้นแล้ว เรื่องสำคัญจึงเวียนกลับมาที่คำถามเดิม เรามี ‘ยศพระ’ มี ‘สมณศักดิ์’ ไว้ทำไม ในเมื่อมีไว้เพื่อปกครองกันเอง แล้วก็ปกครองไม่ได้

แล้วก็อีก สุดท้ายยศพระกลับมีหน้าที่เป็นเครื่องมือเพื่อให้พระไต่เต้าขึ้นสูงไปเรื่อยๆ ตามพัดยศ ซึ่งกลับกลายเป็นช่องทางให้เติบใหญ่ ให้ระบบอุปถัมภ์งอกเงย เป็นช่องทางแสวงหารายได้ แล้วก็มาบ่นในภายหลังว่า วงการสงฆ์เต็มไปด้วยผลประโยชน์

สุดท้าย สิ่งที่ต้องกลับมาตั้งคำถามคือ แล้วประเทศนี้ควรนับถือ ‘พระ’ ที่ตรงไหน นับถือพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อยู่อย่างสมถะ สอนหลักธรรมที่น่าเลื่อมใส หรือเป็นพระที่มีคำนำหน้านามสวยๆ โชว์พัดยศแข่งกัน มีชื่อนำด้วยชั้นราช ด้วยชั้นพรหม ด้วยชั้นสมเด็จ ซึ่งแท้จริงแล้วก็ห่มเหลืองด้วยกัน

เพราะแท้จริงแล้ว สาระของพุทธศาสนาคือชีวิตที่เรียบง่าย คือความอดออม และการเจริญสมาธิภาวนา ดีกว่าการมุ่งแสวงหาลาภยศ ศรัทธา สิ่งที่ย้อนแย้งก็คือ ‘สมณศักดิ์’ กลับชวนให้คิดไปในทางตรงกันข้าม

หากยังไม่สามารถก้าวพ้นเรื่องสมณศักดิ์ได้ เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

และเมื่อคนประเทศนี้เบื่อหน่ายพุทธศาสนา ถึงเวลานั้นความจำเป็นของศาสนา และการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาก็จะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Momentum

นิโคลัส โฮลต์ การเดินทางของไอ้หนูจอมป่วง จากนักรบพลีชีพ Mad Max มาจนถึงวายร้าย เล็กซ์ ลูเทอร์

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ญดา จากเด็กที่ชอบดูชิงร้อยชิงล้าน สู่การเป็น ‘แม่นาก’ คนล่าสุด ในหนังที่มีครบทั้งหม่ำ เท่ง โหน่ง

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ซัมซุง จับมือ การบินไทย ยกระดับประสบการณ์การเดินทางผ่าน Samsung Wallet

Insight Daily

เตรียมชม! “เขาชุมทอง คะนองชุมโจร” มหากาพย์ตำนานจอมโจรปักษ์ใต้สไตล์จัดจ้าน 21 ส.ค. นี้ ที่ Netflix

Insight Daily

เปิดประวัติ พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าคณะจังหวัดเมืองปากน้ำโพ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์

MATICHON ONLINE

ด่วน! พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าคณะจว.นครสวรรค์ แจ้งขอลาออกจากตำแหน่งแล้ว

MATICHON ONLINE

จริงไหม? ฟังเสียงธรรมชาติวันละ 5-10 นาที ช่วยเยียวยาจิตใจ ลดความเจ็บปวด

SpringNews

“น้ำตกแม่ยะ” สวยงามอลังการ ราชินีน้ำตกไทย ไฮไลต์ห้ามพลาดแห่ง “ดอยอินทนนท์”

Manager Online

สายการบินแห่งชาติกัมพูชา เปิดเส้นทางนครเซินเจิ้น - นครวัด (เสียมราฐ) ชาวเน็ตไทยแซว “ดูคุ้นๆนะ!”

Manager Online

ไม่ธรรมดา ชุมชนท่องเที่ยวอพท.+เครือข่าย คว้า 6 รางวัลระดับนานาชาติ

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ร่างทรงเควียร์ พิธีกรรม ผี เพศ และศรัทธา ของชาติพันธุ์กูย

The Momentum

กีฬา ศาสนา และรัฐโลกวิสัย เมื่อนักกีฬาหญิงทีมชาติฝรั่งเศส ถูกห้ามสวม ‘ฮิญาบ’ ในโอลิมปิก 2024

The Momentum

อย่าเพิ่งโทษเหยื่อ เพราะวันหนึ่งอาจเป็นเรา สำรวจวิธีการล้างสมองของเจ้าลัทธิ ในสารคดี How to Become a Cult Leader

The Momentum
ดูเพิ่ม
Loading...