“มาริษ-แม่ทัพภาค 2” มีแบ็คกราวน์ เป็นภาพพาทูตไปดูพื้นที่ทุ่นระเบิด
“ทหารไทยถูกทุ่น PMN2 พิการ 5 นาย ไทยชี้กัมพูชาละเมิดออตตาวา–หยุดยิง ร้องนานาชาติกดดันลงโทษ”
นับจากทุ่นระเบิดลูกแรก ที่ "พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน" เหยียบจนเสียขาซ้าย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 16 ก.ค. กองทัพ โดยแม่ทัพภาค 2 ได้มีการตรวจสอบ พิสูจน์ทราบ พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ จนยืนยันแน่ชัด เป็นชนิด PMN2 เป็นทุ่นระบิดสังหารบุคคล เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาของกัมพูชาอย่างชัดเจน มีการประท้วง มีการเรียกร้อง มีการประณาม ตามขั้นตอนของประเทศผู้มีอารยะ
แต่สัปดาห์ต่อมา วันที่ 23 ก.ค. "จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า"ก็เหยียบทุ่นระเบิด เป็นรายที่ 2 บริเวณช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้สูญเสียขาขวา ซึ่งจากการตรวจสอบก็เป็นทุ่นระเบิดชนิดเดียวกัน และกลายเป็นชนวนการสู้รบครั้งสำคัญ ยาวนานถึง 5 วัน ก่อนมีการเจรจาหยุดยิง
ทหารไทยเหยียบทุ่น PMN2 ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นก่อนเวลาหยุดยิงเท่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. เพียงไม่กี่นาที "ร้อยตรี เกียรติวงศ์ สถาวร" เหยียบทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้รอบปราสาทตาควาย ในความพยายามสุดท้าย เพื่อยึดพื้นที่ปราสาทของทหารไทย ทำให้ต้องสูญเสียขาข้างขวาไป และในเวลาต่อมาก็มีภาพปรากฏ ทหารกัมพูชา ถ่ายรูปที่หน้าปราสาท พร้อมกับ ทุ่นระบิดPMN2 วางอยู่ใกล้ๆ เป็นหลักฐานชี้ชัดว่าทหารเขมร มีการใช้ทุ่นระบิดสังหารบุคคลจริง ต่อมาในการประชุม จีบีซี 1 ในเงื่อนไขที่ฝ่ายไทยเรียกร้อง และกัมพูชา ไม่ตอบรับ คือการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
หลังจากหยุดยิงแล้ว ทหราไทยก็ยังไม่ปลอดภัยจากทุ่นระเบิด วันที่ 9 ส.ค. "จ่าสิบเอก ธานี พาหา" เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณโดนเอาว์-กฤษรา จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้สูญเสียขาซ้าย และล่าสุด ครั้งที่ 5 "สิบเอก ธีรพล เพียขันที" เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณปราสาทตาเมือนธม ทำให้ขาข้างซ้ายขาด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. กองทัพภาค 2 กองทัพบก กระทรวงต่างประเทศ มีท่าทีขึงขังกว่าเก่า ยอมรับไม่ได้ และประท้วงอย่างรุนแรง ต่อ 2 เหตุการณ์ ล่าสุด เพราะเกิดขึ้นภายหลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
กองทัพบก ยืนยันว่าพื้นที่เหยียบทุ่นระเบิดเป็นพื้นที่ปฏิบัติการลาดตระเวนตามปกติของทหารไทย ทหารกัมพูชา ลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด เพื่อประสงค์ร้ายต่อทหารไทย ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตโตวา
และละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง ขณะที่กระทรวงต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอีกครั้ง ประท้วงต่อประธานอนุสัญญาออตโตวา และเลขาธิการแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ
รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศที่ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิด พิจารณาทบทวนการ ให้ความช่วยเหลือต่อไป จนนำมาสู่การเชิญทูต และรัฐภาคีออตตาวา เข้าฟังการชี้แจง เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ก่อน ก่อนที่ "รัฐมนตรีมาริษ" จะนำคณะทูต จากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด 33 ประเทศ รวมถึงสื่อมวลชน ต่างประเทศ กว่า 200 คน ลงพื้นที่จ.ศรีสะเกษ เพื่อดูจุดเกิดเหตุทุ่นระบิด
การดำเนินการกับกัมพูชา ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีหลักฐานอย่างชัดเจน ฝ่ายไทยได้มีการเรียกร้อง ความรับผิดชอบ มีการประณามซ้ำแล้วซ้ำอีกไปแล้ว ทั้งในนามของกองทัพ และกระทรวงต่างประเทศ แต่กัมพูชา ก็ยังลอยนวล ก็ได้แต่หวังว่า คณะทูตต่างประเทศจะตีแผ่ข้อเท็จจริง และกดดันให้มีบทลงโทษ กัมพูชาอย่างสาสม ต่อการละเมิดอนุสัญญา ที่ทำให้ทหารไทยต้องเสียขาไปถึง 5 นาย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะไม่มี ทหารกล้าคนใดต้องเสียขาเพราะทุ่นระเบิดกัมพูชาอีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews