โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที

“ดีอี”สั่ง “กสทช.” จำกัดถือครองซิมไม่เกิน 5 ซิมป้องกันแก๊งสแกมเมอร์

เดลินิวส์

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
“ไชยชนก” สั่ง กสทช. จำกัดการถือครองซิม ไม่เกิน 5 ซิมต่อคน พร้อมเร่งแก้กฎหมาย พ.ร.ก.ปราบโจรไซเบอร์ ใส่ยาแรงมีเครื่องมือทำงานเชิงรุก ด้าน กสทช. เร่งศึกษาต้องนำเข้าบอร์ดหรือไม่ ด้าน “บิ๊กก้อง” ยืนยันปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ ต้องลดลง

นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 6/2568 ว่า ได้หารือกับ สำนักงาน กสทช. เพื่อจำกัดการถือครองซิมการ์ดมือถือ ไม่เกิน 5 ชิมต่อคน รวมทุกค่ายมือถือ จากเดิมถือครองได้ไม่เกิน 5 ซิมต่อค่ายมือถือ เพื่อเป็นการป้องกันการนำซิมไปก่ออาชญากรรมออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ ส่วนกรณีบุลคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นถือครองเกิน 5 ซิม ให้ขออนุญาตเป็นกรณี เนื่องจากมองว่า บุคคลทั่วไปส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องถือครองเกิน 5 ซิมอยู่แล้ว และค่ายมือถือ กำชับและดูแลลูกตู้ตามห้างฯ ให้เข้มงวดมีมาตรฐานในการลงทะเบียนซิมเพิ่มมากขึ้น

“ที่ประชุมฯ มองว่า ถ้าเป็นบุคคลทั่วไป ไม่มีความจำกัดเป็นต้องถือครองเกิน 5 เบอร์ ซึ่งที่ผ่านมามีกำหนดค่ายละไม่เกิน 5 เบอร์ ถ้าเกินต้องไปยืนยันตัวตนที่ศูนย์บริการ ซึ่งทาง สำนักงาน กสทช. ได้รับเรื่องเพื่อไปหามาตรการเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ และจะกลับมาแจ้งที่ประชุมในครั้งต่อไป”

นายไชยชนก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 เพื่อเพิ่มยาแรงให้มีหน่วยงานภายใต้ พ.ร.ก. นี้ มีเครื่องมือมากขึ้นในการตอบโต้ และทำงานในเชิงรุกมากขึ้น พร้อมกับเจ้าหน้าที่พนักงานที่ต้องทำงานพร้อมกับกระบวนการเชิงรุก มีกฎหมายที่คอยปกป้องคุ้มครองผู้ปฏิบัติหน้าที่จากความเสี่ยงต่างๆ ที่ต้องดำเนินงานระหว่างประเทศ เป็นต้น สำหรับการดำเนินการเร่งด่วนเกี่ยวกับปัญหาสแกมเมอร์ จะเข้มงวดเรื่องการปล่อยสัญญาณเครือข่ายมือถือและอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนให้มากขึ้น และดำเนินการอย่างเข้มงวด สำหรับกรณีการตรวจสอบเรื่องการติดสินบน 40 ล้านบาท เบื้องต้นทราบชื่อเกี่ยวข้องแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวนและการดำเนินคดีต่อไป

ด้าน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า หลังจากนี้ กสทช. ต้องรอเอกสารจากศูนย์ AOC 1441 เป็นเหมือนคำสั่งว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรบ้าง เพื่อไปดูอำนาจหน้าที่อีกครั้งหนึ่งว่าสามารถใช้อำนาจของรักษาการเลขาธิการ กสทช. ดำเนินการแก้ไขประกาศเพื่อจำกัดถือครองซิมได้เลยหรือไม่ หรือต้องนำเข้าบอร์ด กสทช. เนื่องจากเกรงว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบ และค่ายมือถืออาจไม่ให้ความร่วมมือได้

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 6/2568 ว่า ได้รับมอบหมายหน้าที่จากท่าน ผบ.ตร. ให้ดูเรื่องสแกมเมอร์ และได้หารือร่วมกับนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มีความเห็นร่วมกันจะตั้งใจเต็มที่ในการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไหนก็แล้วแต่ รวมถึงเรื่องการตัดวงจรการทำงานของสแกมเมอร์ทั้งในประเทศและนอกประเทศ

“มีความมั่นใจว่าจะทำให้มันดีขึ้นได้โดยคิดว่าตัวชี้วัดจะดูจากปริมาณเคสที่เกิดใหม่ในแต่ละวัน ตอนนี้อยู่ประมาณ 1,000 เศษๆ เราจะยันกันด้วยข้อมูลว่ามันจะต้องลดลงไม่มากก็น้อย แต่ตั้งใจจะให้ลดมากที่สุด ทั้งนี้ หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมาย จะต้องนำดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน ยืนยันว่าทางตำรวจไทย และกระทรวงดีอี ดำเนินการเต็มที่”

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อถึงกรณีกระแสข่าวบอกว่าแก๊งสแกมเมอร์ไหลเข้าประเทศไทย ว่า แก๊งสแกมเมอร์ สามารถเช่าห้องเล็กๆ หรืออะไรต่างๆ เพื่อก่อเหตุได้ ซึ่งตำรวจไทยเรามีการจับกุมตลอด ลองถามเจ้าหน้าที่ตำรวจของต่างประเทศได้ หากประสานมาที่ไทยจะดำเนินการเต็มที่ ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่เรามีการประสานข้อมูลไปแล้ว แต่เขาไม่ดำเนินการสืบสวนจับกุม นั่นทำให้เขามีฐานสแกมเมอร์ที่ใหญ่ และสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน

“หากพบแหล่งสแกมเมอร์ใหญ่ๆ ในไทย อาจหมายถึงว่าเจ้าหน้าที่มีผลประโยชน์กับเขา แต่ถ้าแอบซ่อนจุดเล็กๆ ก็ต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่สามารถรู้ได้ทุกที่ แต่เมื่อได้รับแจ้งหรือมีเบาะแส ยืนยันว่าเราจะยืนยันจับกุมชัดเจนทุกกรณี หากใครมีข้อมูลสามารถส่งให้ตำรวจดำเนินการให้”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...