โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“ไชยา” ขอโทษ! ปมปิดประชุมก่อนถก MOU 43-44 ย้ำไม่ใช่เครื่องมือใคร โอดนั่งบัลลังก์ 10 ชั่วโมงจนหมดแรง

สยามรัฐ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ชิงปิดประชุม” ก่อนการพิจารณาญัตติด่วนเกี่ยวกับบันทึกข้อตกลง (MOU) ปี 2543 และ 2544 ที่เสนอโดยนายสฤษฏ์พงศ์ พงศ์เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย

นายไชยา กล่าวว่า ในวันดังกล่าวตนได้รับแจ้งจากวิปรัฐบาลว่า หลังตอบกระทู้ถามแล้ว จะเข้าสู่การรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมี 4–5 หน่วยงาน แต่มีเพียงกองทุนสื่อสร้างสรรค์ที่พร้อมรายงาน เมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณาและไม่ได้รับสัญญาณอื่น จึงเข้าใจว่าการประชุมสิ้นสุดแล้ว และได้ประกาศปิดประชุม โดยยืนยันว่าไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเจตนาล้มการพิจารณาญัตติด่วน

เขากล่าวต่อว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าฝ่ายค้านจะเสนอญัตติด้วยวาจา และเพิ่งมาทราบหลังปิดประชุม หากเป็นความผิดพลาดด้านการสื่อสารจนทำให้สังคมไม่สบายใจ ตนต้องขอโทษ พร้อมย้ำว่า เวทีสภาควรใช้เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ ไม่ใช่กลายเป็นเวทีขัดแย้งทางการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสที่มองว่าเหตุชิงปิดประชุมเป็นเพราะรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ นายไชยา ชี้ว่า ความราบรื่นขึ้นอยู่กับการประสานงานของวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ยกตัวอย่างเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ทั้งสองฝ่ายตกลงจะพิจารณากฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ระบบรางฯ และ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ แต่เนื่องจากการพิจารณา พ.ร.บ.ระบบรางฯ ใช้เวลามากถึง 165 มาตรา ทำให้ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ไม่แล้วเสร็จ และตนเองนั่งบัลลังก์ต่อเนื่องนานกว่า 10 ชั่วโมง โดยไม่ได้รับประทานอาหารกลางวัน จนเกิดความเหนื่อยล้า

“ผมก็เป็นมนุษย์ ไม่ใช่โรบอตที่จะนั่งได้โดยไม่พัก วันนั้นผมขึ้นบัลลังก์ 3 รอบ สมาชิกเองก็เหนื่อยเช่นกัน” นายไชยา กล่าว

สำหรับเสียงวิจารณ์ว่า การปิดประชุมเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล นายไชยา ยอมรับว่าเป็นภาระหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาล แต่ขอให้มองว่ากฎหมายทุกฉบับเกิดจากการระดมความคิดเห็นทั้งฝ่ายรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ เมื่อออกมาใช้แล้วกระทบประชาชนทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาล

เขาทิ้งท้ายว่า ไม่อยากให้สังคมมองว่าตนเป็นเครื่องมือทางการเมือง แม้จะมาจากพรรคเพื่อไทย แต่ในฐานะรองประธานสภาฯ ต้องทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง และพร้อมรับคำตำหนิจากทุกฝ่าย โดยย้ำว่า “เครดิตทางการเมืองของผมขึ้นอยู่กับประชาชน ไม่ใช่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

สีไหนใส่แล้วเฮง! "หมอไก่" จัดเต็มตารางสีเสื้อมงคล กันยายนนี้ ห้ามพลาด

23 นาทีที่แล้ว

หนุนศักยภาพเยาวชน! เทศบาลศรีสะเกษ เปิดอบรมกีฬาเด็กและเยาวชน ปั้นสู่เวทีระดับชาติ

30 นาทีที่แล้ว

"เทศบาลเมืองเขาสามยอด" จ่อปรับวัดพระบาทน้ำพุ ปมเก็บศพโดยไม่ได้รับอนุญาต

40 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุฯ เตือน! ฉ.4 พายุ “คาจิกิ” เข้าใกล้ไทย ฝนตกหนัก ลมแรง คลื่นสูง

52 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม