สหรัฐฯ ตั้งรางวัล 50 ล้านเหรียญจับ “มาดูโร” ปธน.เวเนซุเอลา โยงยาเสพติด
รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มเงินรางวัลสองเท่าเป็น 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมประธานาธิบดีนิโกลาส มาดูโรของเวเนซุเอลา โดยกล่าวหาว่า มาดูโรเป็นหนึ่งในผู้ลักลอบค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่สุดในโลก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มักจะวิพากษ์วิจารณ์มาดูโรมาโดยตลอด ซึ่งมาดูโรเองก็เพิ่งกลับเข้าสู่ตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังชนะการเลือกตั้ง แต่ผลการเลือกตั้งดังกล่าวก็ถูกปฏิเสธไม่รับรองจากประชาคมระหว่างประเทศ
แพม บอนได อัยการของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเพิ่มเงินนำจับจาก 25 ล้านดอลลาร์ เป็น 50 ล้านดอลลาร์ โดยชี้ว่า มาดูโรเชื่อมโยงโดยตรงกับปฏิบัติการลักลอบค้ายาเสพติด
เมื่อวันพฤหัสบดี อัยการแพมได้โพสต์วิดีโอลงบนแพลตฟอร์ม X กล่าวหาว่า มาดูโรมีการประสานงานกับกลุ่มต่าง ๆ เช่น Tren de Aragua แก๊งเวเนซุเอลาที่รัฐบาลทรัมป์เคยประกาศให้เป็นองค์กรก่อการร้าย และแก๊งค้ายา Sinaloa Cartel เครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ในเม็กซิโก
เธอกล่าวว่า สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (DEA) ได้ยึดโคเคนจำนวน 30 ตันที่เชื่อมโยงกับมาดูโรและพวกพ้อง โดยเกือบ 7 ตันมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับมาดูโรเอง
ด้านรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเวเนซุเอลาเปิดเผยว่า เงินรางวัลดังกล่าว “น่าสมเพช” และเป็นการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง โดยรัฐบาลเวเนซุเอลาไม่แปลกใจ
ทรัมป์ตั้งข้อหามาดูโรตั้งแต่สมัยแรกที่ดำรงตำแหน่ง
เมื่อสมัยทรัมป์ดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในสมัยแรก รัฐบาลสหรัฐฯ เคยตั้งข้อหามาดูโรและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของเวเนซุเอลา ในความผิดที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ก่อการร้ายที่เชื่อมโยงกับยาเสพติด คอร์รัปชัน และลักลอบขนยาเสพติด
ในขณะนั้น กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวหามาดูโรว่าทำงานร่วมกับกลุ่มกบฏโคลอมเบีย ฟาร์ก (Farc) เพื่อใช้โคเคนเป็นอาวุธในการบุกสหรัฐฯ
ด้านมาดูโรได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ มาโดยตลอดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการค้ายาเสพติด
ทั้งนี้ มาดูโร ซึ่งสืบทอดตำแหน่งผู้นำของเวเนซุเอลาต่อจากฮิวโก ชาเวซ เมื่อปี 2013 ถูกกล่าวหาจากพรรคฝ่ายค้านในเวเนซุเอลามาโดยตลอด โดยเฉพาะประเด็นการใช้ความรุนแรงต่อผู้เห็นต่าง