“PIT BABE The Series2” เปิดใจความรู้สึกซีรีส์เดินทางมาถึงอวสาน
นักแสดงจาก “PIT BABE The Series2” เปิดใจความรู้สึกซีรีส์เดินทางมาถึงอวสาน เผยเรื่องนี้สอนอะไรหลายๆอย่าง
เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์วายที่กระแสดีไม่มีตกกันเลยทีเดียวสำหรับ “PIT BABE The Series2” นำแสดงโดย “พูห์ กฤติน – พาเวล นเรศ” และนักแสดงชายในเรื่องอีกมากมายจนในที่สุดก็ได้เดินมาถึงตอนอวสานเตรียมส่งตัวละครกลับสู่โลกนิยายกันแล้ว วันนี้มีโอกาสได้เจอ “ฉอด สายทิพย์“ และ “เอส วรฤทธิ์” พร้อมด้วยเหล่านักแสดง จึงได้จ่อไมค์ไถ่ถามความรู้สึกในวันนี้
ตอนสุดท้ายแล้วรู้สึกยังไง?
พี่ฉอด : ”วันนี้เป็นตอนจบของซีซั่น 2 จากที่เราสนุกกันมาในซีซั่น 1 เราจึงยื้อกันมาจนถึงตอนนี้ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เป็นวันสุดท้ายของ Pit Babe The Series แล้ว ใจหายเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราอยู่กับโปรเจกต์นี้มาตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ก็ 2 ปีกว่า วันนี้ก็จบแล้ว โอกาสจะได้เห็น 13 คนบนเวทีแบบนี้ก็เหลือไม่มากแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องแยกย้ายกันไปทำโปรเจกต์อื่นๆ “
พี่เอส : “ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราทำเต็มที่แล้ว มีความสุขกันเต็มที่แล้ว เชื่อว่าทุกคนผูกพันและคิดถึง แค่ได้ทำซีซั่น 2 ก็คุ้มแล้ว วันนี้เราก็มาส่งตัวละครและมอบความสุขให้คนดูอีกครั้ง”
แล้วน้องๆ รู้สึกยังไงกันบ้าง?
พูห์ : “อยู่กันมายาวนานมากกับทั้ง 2 ซีซั่น รวมถึงนักแสดงทุกคนที่อยู่กันมายาวนานจนไม่อยากให้มันจบ เรียกได้ว่าจะแยกย้ายกันไปเติบโตและกลับมารวมกันอย่างยิ่งใหญ่”
พาเวล : ”เอาตรงๆ ใจหายครับ ยังจำวันแรกได้ มันเหมือนจุดเริ่มต้นและต้องกลับมาส่งตัวละครสู่โลกของเขา ถือว่าเติบโตกันมาเป็นกลุ่มก้อนที่แข็งแรงและผ่านอะไรกันมาเยอะมาก“
สายลับ : ”ก็ใจหายแหละครับ ทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน แบบเป็นวันสุดท้ายแล้วเหรอ แต่ถ้ามองย้อนกลับไปคงเป็นผลงานที่พวกเราจะคิดถึงอยู่ตลอด มันมีความผูกพัน เป็นตัวละครที่พวกเราอยู่กับมันมานาน คงใจหายและคิดถึงบรรยากาศในกองที่อยู่ด้วยกัน“
ภณ : ”ได้ไปดูคลิปที่แฟนคลับตัดต่อตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้มาก็ใจหาย เพราะอยู่กับตัวละครนี้มา 2-3 ปี รู้สึกว่าทุกคนผูกพันกับตัวละครนี้ แต่เชื่อว่าคงไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกคน“
ปิง : “รู้สึกว่าได้ทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างดี จะเก็บไว้เป็นความทรงจำตลอดไป ได้เล่นซีรีส์ครั้งแรกในฐานะนักแสดงในวงการบันเทิง”
นัท : “ใจหายเหมือนทุกคน จริงๆ ตื่นเต้นมาก ไม่รู้ว่าตอนสุดท้ายคนดูจะรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเราไหม“
เบนซ์ : “ใจหายครับ เราเดินทางกันมานาน วันนี้มันเป็นวันสุดท้ายจริงเหรอ มันมีหลายมวลความรู้สึกที่อาจจะคงคิดถึงทุกคนในกอง รวมถึงทีมงานที่ร่วมเดินทางกันมา อยากให้ทุกคนตั้งตารอ”
กาฟิวส์ : ”รูัสึกเศร้านะ แต่ก็ดีใจที่ทุกตัวละครได้เติบโตในโลกของเขา ถ้าไม่มีตัวละครเหล่านี้ก็คงไม่มี Pit Babe มาจนถึงวันนี้“
ไมเคิล : “ใจหายเหมือนกัน แต่ผมก็ดีใจที่ได้ร่วมผจญภัยไปกับทุกคน ผมมีความสุขตั้งแต่วันแรก แม้วันนี้จะจบลงก็ไม่ได้รู้สึกเศร้าใจ ผมดีใจที่ได้เดินมาด้วยกันตั้งแต่แรก ความรู้สึกตั้งแต่วันแรกมันคุ้มค่าแล้ว”
ท็อปเทน : “ใจหายเหมือนทุกคน วันนี้เป็นตอนจบแต่พวกเราก็ยังเป็น Pit Babe แต่ก็ยังมีความทรงจำที่ทำร่วมกัน คงจะคิดถึงอยู่ รู้สึกว่าดีใจที่ได้เล่นตัวละครนี้“
ป๊อป : “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา จะเก็บความทรงจำไว้ให้ดีที่สุด ทุกคนก็เติบโตไปอย่างที่ทุกคนพูด ทุกอย่างจะเป็นประสบการณ์กับตัวเรา มันดีที่สุดสำหรับพวกเราแล้ว”
ลี : “ภูมิใจกับบทนี้ รู้สึกดีใจและปลื้มมาก ได้เรียนรู้จากหลายคน ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน รู้สึกว่าใจหายแต่ก็จะอยู่ในเมมโมรี่ของเรา”
มิ้ล : “รู้สึกดีใจครับที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่ง มันไม่ใช่แค่ซีรีส์ แต่ให้ทั้งพี่น้อง ได้มาอยู่ท่ามกลางทุกคนก็เหมือนได้เจอครอบครัวใหม่ มีความสุขมากครับ”
ตัวละครทำให้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง?
พูห์ : “ผมว่าคล้ายกันนะ ชาลีกับผมมีจุดเริ่มต้นที่คล้ายกัน มาจนถึงตอนนี้มันยาวไกลมาก ระหว่างทางเป็นประสบการณ์ที่สำคัญที่ได้เรียนรู้และผ่านอะไรมากับทุกคน ดีใจที่วันนี้เราก็ได้มาอยู่ด้วยกันเป็นวันสุดท้ายก่อนจะส่งตัวละครกลับสู่นิยาย”
พาเวล : “ตัวละครเบ๊บคล้ายกับชีวิตผม ผ่านเรื่องราวมาเยอะ สู้อะไรมาด้วยกัน เหมือนชีวิตผมที่ได้เกิดใหม่”
สายลับ : “บางอย่างที่ตัวละครตัดสินใจก็ได้มานั่งคิดว่าเราจะตัดสินใจแบบนั้นไหม บางซีนก็ให้ข้อคิดเราเยอะเหมือนกัน เปลี่ยนข้อคิดในบางมุม”
ภณ : ”ตัวละครเปลี่ยนชีวิตผม ทั้งในฐานะการทำงานและการใข้ชีวิต ได้เรียนรู้เยอะมาก“
ปิง : ”อยู่ด้วยกันมา 2 ปี ขอบคุณบทนี้ที่ทำให้ผมได้พัฒนาในฐานะนักแสดง ในชีวิตจริงก็ได้เรียนรู้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น“
นัท : ”ทั้ง 2 ซีซั่นจะเป็นคนละตัวละคร จะได้ในแ่มุมความตั้งใจ มุ่งมั่น มีเป้าหมายชัดเจน ได้ตรงนี้มาปรับใช้ด้วย“
เบนซ์ : ”มาปรับใช้คือมีเป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องของการแสดงหรือวงการบันเทิง“
กาฟิวส์ : ”มันสะท้อนตัวเองว่าเราเป็นคนยังไง เพราะตัวละครก็สร้างมาจากตัวนักแสดงควบคู่กันไป เหมือนได้มองกระจกอีกบานว่าจริง เราเป็นคนแบบนี้นะ ได้รู้นิสัยจากตัวละคร“
ไมเคิล : ”เป็นบทที่ผมรักมาก ตัวละครมันมีความเป็นเด็ก มันทำให้ผมกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง มีความสุขได้ง่าย ยิ้มได้ง่ายขึ้น“
ท็อปเทน : “ไม่รู้ว่าจะต้องเล่นยังไง หลังๆ ก็พัฒนามากยิ่งขึ้น พูดช้าลง มีสติมากยิ่งขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น”
ป๊อป : “มันเป็นเด็กคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตโลดโผน สิ่งที่ให้กับผมคือผมไม่ใช่คนร่าเริงแบบนั้น แต่ขอบคุณตัวละครนี้ที่มาเปลี่ยนชีวิตผม จากที่เคยมีจุดดิ่งของชีวิต มัรก็มาเพิ่มสีสันให้กับชีวิตมากๆ“
ลี : “สอนให้ลีรู้จักคำว่าหนักแน่นกับเป้าหมายต่างกัน เพราะทั้ง 2 ซีซั่นมันมีเป้าหมายต่างกัน ต้องหนักแน่นและทำให้สำเร็จ ต้องแคร์คนรอบข้างให้มากขึ้น”
มิ้ล : “ตัวละครนี้ให้ความกล้ากับผม เพราะผมไม่ได้มีความกล้าขนาดนี้ เหมือนได้หามุมนี้ให้ตัวเองได้”
“พี่ฉอด” มีอะไรอยากบอกน้องๆ ไหม?
พี่ฉอด : “ก็แปลกดีค่ะ ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มีลูกชายถึง 13 คน ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเขาก็ครบรส มีทุกอย่าง ครั้งหนึ่งในช่วงวัยหนึ่งจากที่คิดว่าทำอะไรมาเยอะมาก แต่ในวันหนึ่งก็มีโอกาสได้มาเจอกับสิ่งเหล่านี้ กับงานใหม่ๆ ที่ตื่นเต้น เป็นอะไรที่ครั้งแรกไปหมด มีอะไรที่ยังไม่ทำอีกเยอะแยะ ทำให้มีชีวิตชีวากับชีวิตมากขึ้น ก็ต้องบอกว่าพวกแกทุกคนเก่งมาก”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews