AXA เผยผลวิจัย “ฮีทสโตรก คุกคามแรงงานและเศรษฐกิจโลก”
ภาวะโลกร้อนไม่ใช่แค่ประเด็นทางสิ่งแวดล้อมที่ไกลตัวอีกต่อไป แต่กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของแรงงานและสร้างภาระทางเศรษฐกิจมหาศาล ทั้งนี้ จากผลการวิจัยล่าสุดของ AXA Investment Managers บริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ระดับโลกในกลุ่มแอกซ่า พบว่า ภาวะโลกร้อนกำลังสร้างความเครียดให้กับผู้คนและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายไม่ควรมองข้าม
ผลของความร้อนที่เพิ่มขึ้น อาจจะกลายเป็นภัยเงียบคุกคามแรงงานและต้นทุนเศรษฐกิจได้ โดยผลวิจัยของ AXA ชี้ให้เห็นประเด็นสำคัญ ดังนี้
- แรงงานเผชิญความเสี่ยงสุขภาพสูง โดย กว่า 2.4 พันล้านคนทั่วโลก หรือกว่า 70% ของแรงงานทั้งหมด ต้องเผชิญกับ "ความเครียดจากความร้อน" (Heat Stress) เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น อ่อนเพลียจากความร้อน ฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด และทำให้อาการของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคทางเดินหายใจทรุดลง
- ต้นทุนทางเศรษฐกิจมหาศาล ซึ่งเป็นผลกระทบจากความเครียดจากความร้อนกำลังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ คาดการณ์ว่าการสูญเสียเวลาทำงานอันเนื่องมาจากความร้อน อาจสูงถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1% ของ GDP โลก และอาจพุ่งสูงถึง 4% ภายในปี 2100 หากไม่มีมาตรการรับมือ
- กลุ่มเปราะบางคือผู้รับผลกระทบหนัก ความเครียดจากความร้อนส่งผลกระทบต่อผู้คนแตกต่างกันไป โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งอย่างเกษตรกร และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่า นอกจากนี้ ความร้อนที่รุนแรงยังส่งผลต่อสุขภาพจิตและเพิ่มอัตราการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงลดประสิทธิภาพในการทำงาน (Productivity) อีกด้วย
- มากกว่าแค่อุณหภูมิ จากการประเมินความเสี่ยงจากความร้อนจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากอุณหภูมิ เช่น ความชื้นและความเร็วลม ดัชนีที่สำคัญสองประการที่ช่วยให้เข้าใจความเสี่ยงได้ชัดเจนขึ้นคือ ดัชนีความร้อนที่ส่งผลต่อร่างกาย (Wet-Bulb Globe Temperature) และ ดัชนีความร้อน (Heat Index)
- กฎระเบียบเพื่อคุ้มครองแรงงาน มีความพยายามในการออกกฎระเบียบใหม่ ๆ เพื่อปกป้องคนงานจากอันตรายจากความร้อน เช่น ในสหรัฐอเมริกา มีการเสนอมาตรการติดตามและประเมินผล การฝึกอบรมและการปรับตัว รวมถึงการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Heat Stress เพื่อความปลอดภัยของแรงงาน
- ข้อควรพิจารณาในการลงทุน จากคลื่นความร้อนที่เพิ่มขึ้นไม่ได้สร้างความเสี่ยงแค่กับบุคคลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจและประเทศต่าง ๆ ด้วย นักลงทุนจึงควรพิจารณาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความเครียดจากความร้อนเมื่อวางแผนการลงทุน โดยเฉพาะภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูงสุด เช่น ภาคเกษตรกรรม ที่อาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือ Green Insurer ได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายด้าน Climate Change & Biodiversity หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นในเรื่อง มลพิษทางอากาศ โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูอากาศสะอาดและการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
โดยโครงการสำคัญที่กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ได้ดำเนินการ ได้แก่ โครงการ Commit To Climate: จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มุ่งเน้นการฟื้นฟูอากาศสะอาดตลอดทั้งปี ,โครงการ Save Our Sea: โครงการระยะยาวที่สนับสนุนการอนุบาลเต่าทะเล การปลูกป่าชายเลน และการให้ความรู้ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเลแก่เยาวชนไทย ,โครงการ Save Our River: สนับสนุนเรือไฟฟ้า (EV boat) และติดตั้งถังขยะรีไซเคิล เพื่อช่วยจัดการขยะจากต้นทางก่อนไหลลงสู่แม่น้ำและทะเล
ทั้งนี้ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ยังได้รับอันดับ 1 ใน AXA International Market และอันดับ 1 ในเอเชียอาคเนย์ ติดต่อกัน 9 ปีซ้อน ในด้านความรับผิดชอบต่อองค์กร (CR) จากการประเมินดัชนีชี้วัดความยั่งยืนด้านความรับผิดชอบต่อองค์กรของกลุ่มแอกซ่า (AXA Sustainability Index 2024) ด้วยคะแนนสูงสุดในเอเชียถึง 82.86 คะแนน
“บริษัทฯ ยืนยันความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่นและดูแลกันตลอดไป หากต้องการสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1159 หรือเว็บไซต์ www.krungthai-axa.co.th และติดตามโครงการเพื่อสังคมได้ที่เฟซบุ๊ก Hearts in action volunteers”