อาณาจักรคริปโต ‘ทรัมป์’ โตทะลุ 1.2 พันล้านดอลลาร์ TMTG ผงาดผู้ถือบิทคอยน์ใหญ่สุดอันดับ 6 โลก
ในขณะที่ทรัมป์เดินหมากการเมืองอีกครั้ง สินทรัพย์ดิจิทัลในมือกลับเคลื่อนพลเงียบ ๆ พร้อมกำไรส่วนตัวทะลุ 1.2 พันล้านเหรียญ เบื้องหลังคือกลยุทธ์สุดลึกผ่าน Trump Media & Technology Group (TMTG) ที่สะสมบิทคอยน์มากถึง 2 พันล้านเหรียญ บริษัทจดทะเบียนของเขาครอง BTC มากกว่า Tesla และ Coinbase ดันขึ้นแท่นอันดับ 6 ของโลกขณะลูกชายทั้งสามเดินเกมก่อตั้งบริษัทคริปโต ลากเชื่อมวงในการเมืองสหรัฐฯ เข้าสู่ระบบสินทรัพย์ดิจิทัลเต็มตัว ส่งผลให้เสียงวิจารณ์ดังขึ้นทันที ถึงผลประโยชน์ทับซ้อนในช่วงการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังเปราะบาง
ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางการเมืองของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังเดินหน้าเต็มกำลังสู่การทวงบัลลังก์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สิ่งที่สังคมโลกอาจมองข้าม คือ “อาณาจักรสินทรัพย์ดิจิทัล” ที่ทรัมป์ค่อยๆ สร้างเงียบๆ จนวันนี้เติบโตถึงจุดที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลคริปโตระดับโลกอย่างไม่มีข้อกังขา
ข้อมูลล่าสุดจากอินโฟกราฟิกโดย Cryptonews ระบุว่า มูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนตัวของทรัมป์พุ่งทะลุ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว และกำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของอาณาจักรเศรษฐกิจใหม่ภายใต้เงาอำนาจของตระกูลทรัมป์
TMTG ถือ BTC กว่า 2 พันล้านดอลลาร์ แซง Tesla
หนึ่งในหมากสำคัญของทรัมป์คือการวางตำแหน่ง Trump Media & Technology Group (TMTG) ให้กลายเป็นนักลงทุนระดับสถาบันในบิทคอยน์โดยถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ารวมกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมทั้ง BTC จริง อนุพันธ์ และ ETF ที่อิงกับบิทคอยน์
จากการจัดอันดับล่าสุด บริษัทของทรัมป์ขึ้นแท่นผู้ถือครอง BTC รายใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก แซงหน้า Tesla, Coinbase และ Galaxy Digital โดยเป็นรองเพียง MicroStrategy, Marathon Digital และ Block (อดีต Square)
น่าสังเกตว่า 40% ของมูลค่าตลาดรวมของ TMTG ขึ้นอยู่กับ BTC โดยตรง ทำให้บริษัทจดทะเบียนแห่งนี้กลายเป็น “บริษัทกึ่งคริปโต” ที่พึ่งพาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเชื่อมโยงความผันผวนของตลาดกับการประเมินมูลค่าของบริษัทอย่างแยกไม่ออก
อย่างไรก็ตาม หุ้นของ TMTG กลับทำผลงานได้แย่กว่าราคา Bitcoin อย่างชัดเจนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สะท้อนความท้าทายในการเปลี่ยน BTC จาก “ขุมทรัพย์” สู่ “ความมั่นคงทางตลาดทุน”
ขุมทรัพย์คริปโตส่วนตัวทะลุพอร์ตอสังหาฯ
ทรัพย์สินดิจิทัลของทรัมป์ตอนนี้ไม่ใช่แค่รองรับความมั่งคั่ง แต่แซงพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ดั้งเดิมไปแล้ว ด้วยองค์ประกอบที่น่าจับตา เช่น
1.การยักยอกเงินประมาณ 390 ล้านดอลลาร์ผ่านบริษัท World Liberty Financial ซึ่งมีความเชื่อมโยงในครอบครัว
2.เหรียญมีม (meme coin) ที่ใช้ชื่อทรัมป์ มูลค่ากว่า 315 ล้านดอลลาร์
3.กระเป๋าคริปโตและพอร์ตการลงทุนลับที่คาดว่ามีสินทรัพย์ซ่อนอยู่อีกกว่า 430 ล้านดอลลาร์
4.รายได้จาก NFT ลิขสิทธิ์ภาพของตนเอง
องค์ประกอบเหล่านี้รวมกันเป็นเครือข่ายอิทธิพลทางการเงินที่ซับซ้อน โดยมีตราประทับ “Trump” เป็นจุดขายหลัก ซึ่งไม่เพียงสร้างรายได้ แต่ยังเปิดประตูไปสู่กลยุทธ์ครอบงำตลาดคริปโตผ่านความเชื่อมโยงทางการเมือง
เมื่อครอบครัวทรัมป์คือ Stakeholder ตัวจริง
ลูกชายทั้งสามของทรัมป์ โดนัลด์ จูเนียร์, เอริก และบารอน เข้ามามีบทบาทสำคัญในสมรภูมิคริปโต โดยเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง American Bitcoin ที่ระดมทุนไปแล้วกว่า 220 ล้านดอลลาร์สำหรับสร้างโครงสร้างพื้นฐานขุดเหรียญ และยังเป็นเจ้าของร่วมของ World Liberty Financial ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือหลักของตระกูลในการขับเคลื่อนอาณาจักรดิจิทัล
ทรัมป์ยังดำรงตำแหน่ง “ผู้ก่อตั้งร่วมกิตติมศักดิ์” อย่างไม่เป็นทางการในบริษัทดังกล่าว พร้อมผลักดันโครงสร้างที่ทับซ้อนระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและนโยบายระดับรัฐอย่างน่ากังวล
ไม่เพียงเท่านั้น เอริก ทรัมป์ ยังเพิ่งออกมาวิเคราะห์ Ethereum ว่ามีมูลค่า “เหมาะสม” ที่ 8,000 ดอลลาร์ สะท้อนบทบาทของครอบครัวนี้ที่ไม่ใช่แค่ลงทุน แต่ยังพยายามมีอิทธิพลต่อความเชื่อมั่นของตลาดด้วย
ความคลุมเครือระหว่าง “อำนาจรัฐ” กับ “ผลประโยชน์คริปโต”
ข้อมูลจาก Washington Post ระบุว่า ที่ปรึกษาของทรัมป์ในปัจจุบันกว่า 20% มีการถือครองคริปโตอย่างแข็งขัน ยิ่งทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสในการดำเนินนโยบายด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาร่างกฎหมายกำกับดูแลคริปโตอย่างเข้มข้น
ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของรัฐสภาสหรัฐฯ ยังพบว่าทรัมป์พยายาม “อ่อนแอ” หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการขยายความมั่งคั่งในโลกคริปโตของตนเอง
อย่างไรก็ดี ยุทธศาสตร์คริปโตของทรัมป์ไม่ใช่แค่การลงทุน แต่คือการสร้าง “รัฐเงา” ทางการเงินที่ผูกพันแน่นหนากับผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งความสลับซับซ้อนระหว่างบริษัทในเครือ สถานะทางการเมือง และอิทธิพลของครอบครัวในแวดวงคริปโตกำลังเปลี่ยนการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลจากเรื่องการลงทุนส่วนบุคคล สู่ระดับโครงสร้างของอำนาจและนโยบายรัฐ เมื่อ BTC ไม่ใช่แค่เหรียญดิจิทัล แต่กลายเป็น “หัวใจ” ของแผนอำนาจสมัยใหม่นี่คืออาณาจักรทรัมป์เวอร์ชัน Web3 ที่โลกอาจยังไม่ทันตั้งรับ
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO