แม่สายไม่ไหวแล้ว น้ำลดเหลือแต่โคลน-ค้าขายพังยับ ชาวบ้านวอนรัฐแก้ปัญหาน้ำท่วม
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์น้ำท่วมใน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เริ่มคลี่คลายลง หลังระดับน้ำในแม่น้ำสายลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ชุมชนริมน้ำ เช่น เกาะทรายและตลาดบ้านไม้ลุงขน เริ่มแห้งลง อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือ คราบดินโคลนหนาแน่น ที่สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและถนนหนทาง แม้ครั้งนี้น้ำจะไม่รุนแรงเท่าปลายปี 2567
แต่ก็ส่งผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนเร่งระดมกำลังช่วยกันขุดลอกดินโคลน โดยเฉพาะในตลาดไม้ลุงขนที่ยังไม่สามารถกลับมาค้าขายได้ตามปกติ ชาวแม่สายหลายคนระบายความในใจว่า แม้มาตรการป้องกันและแจ้งเตือนจากภาครัฐจะช่วยคลายความกังวลได้บ้าง แต่พวกเขายังคงหวาดผวาทุกครั้งที่ฝนตก เนื่องจากปี 2568 นี้ แม่สายเผชิญน้ำท่วมแล้วถึง 3 ครั้ง สร้างความเดือดร้อนทั้งด้านทรัพย์สิน รายได้ และสภาพจิตใจ
ชาวบ้านจึงวิงวอนให้รัฐบาลเร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการจัดการกับ ต้นตอของปัญหาการรุกล้ำแม่น้ำสาย ที่มีมาอย่างยาวนาน พวกเขาเน้นย้ำว่าแม่สายไม่ควรเป็นเมืองที่ต้องลุ้นทุกครั้งที่ฝนตก หรือเผชิญความเสียหายซ้ำซากทุกปี แต่ควรได้รับการดูแลอย่างจริงจังเพื่อยุติปัญหาอย่างถาวร
นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย ชี้แจงว่า สาเหตุหลักของน้ำท่วมในชุมชนเกาะทรายมาจาก กระแสน้ำเชี่ยวกรากและท่อนซุงที่พัดมากระแทกอาคารริมแม่น้ำ ทำให้มีน้ำและดินโคลนทะลักเข้าท่วมอย่างหนัก ส่วนแนวพนังกันน้ำของกรมการทหารช่างยังแข็งแรงดี แต่พบรอยรั่วบางจุดตามบ้านที่อยู่ติดแม่น้ำ ซึ่งบางหลังอยู่ในแผนรื้อถอนหลังฤดูน้ำหลาก โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ยินยอมให้รื้อถอนหากมีการจัดหาที่อยู่อาศัยทดแทน
ขณะเดียวกัน กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เตรียมแผนอพยพชาวบ้านริมแม่น้ำสาย 843 ครัวเรือนไว้แล้ว แม้แผนดังกล่าวจะถูกนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สั่งทบทวนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดกรมโยธาธิการฯ ได้รับงบประมาณ 24 ล้านบาท เพื่อศึกษาและวางแผนป้องกันน้ำท่วมเมืองแม่สายอย่างถาวรและยั่งยืน เพื่อเสนอของบประมาณจากรัฐบาลต่อไป