อส.-ชรบ.และรปภ.หมู่บ้านอ.บ้านกรวดยังออกลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยด้านผู้ว่าฯบุรีรัมย์ออกประกาศยังไม่ให้ปชช.กลับเข้าบ้าน
เจ้าหน้าที่ อส.-ชรบ.และผู้นำชุมชน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังคงทำการออกลาดตระเวน รักษาความปลอดภัย และสืบสวนหาข่าว รวมถึงตรวจสอบข้อมูลของพื้นที่ได้รับความเสียหายจากการสู้รบกันของทหารไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ออกประกาศขอให้ประชาชนงดเดินทางกลับภูมิลำเนา ในพื้นที่ใกล้ชายแดนจนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัย ตามที่ได้รับแจ้งจากกองทัพภาค 2
วันที่ 29 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า สถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มคลี่คลายลง หลังการเจราจาหยุดยิง เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา แต่ทว่าก่อนที่จะถึงเวลาข้อตกลงการหยุดยิง ก็ได้มีเหตุการณ์สู้รบกันเกิดขึ้นที่บริเวณช่องสายตะกู อ.บ้านกวด จ.บุรีรัมย์ อย่างต่อเนื่อง (เท่าที่ได้รับรายงาน) โดยตลอดทั้งวันของวานนี้ที่ผ่านมา ได้มีกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชา ประมาณ 77 นัด ถูกยิงตกลงมาในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00-20.00 น. รวมทั้งยังยังมีรายงานด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.55 น. ได้มีเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณชายแดนช่องสายตะกู ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ต่อมาเสียชีวิต 1 นาย
ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ของการสู้รบ ตามรายงานในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบมีกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชา ตกลงมาในพื้นที่ประมาณ 237 นัด มีบ้านเรือนของราษฎรเสียหาย จำนวน 4 หลัง มีสัตว์เลี้ยง (วัว) เสียชีวิต 3 ตัว มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย มีรถยนต์เสียหาย 2 คัน และยังมีพื้นที่ทางการเกษตร(สวนยาง-ทุ่งนา) เสียหายอีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกทำการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้ง
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.(29ก.ค.68) นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ สมาชิกกองอาสาสมัครรักษาดินแดน หรือ อส. ร่วมกับชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน หรือ ชรบ. กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ในการออกลาดตระเวน ตรวจตรา รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สถานที่ราชการ รวมถึงตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งได้รับความเสียหายและผลกระทบ จากเหตุการณ์สู้รบของทหารไทย-กัมพูชา เพื่อจะได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าช่วยเหลือต่อไป รวมทั้งเพื่อเป็นการป้องกันการฉวยโอกาสลักลอบขโมยทรัพย์สินของราษฎร์ที่อพยพไปอยู่ยังศูนย์พักพิงในพื้นที่ปลอดภัยด้วย
ในขณะเดียวกัน นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ได้ลงนามในประกาศ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ลงวันที่ 29 ก.ค.68 เรื่องขอให้ประชาชนในพื้นที่เสียงภัย (ภัยกองกำลังจากนอกประเทศ) พักอาศัยในศูนย์พักพิง หรือสถานที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยในประกาศมีใจความสำคัญว่า ‘ขอให้ประชาชนงดเดินทางกลับภูมิลำเนาพื้นที่ใกล้ชายแดน จนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ’ ปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัย จังหวัดบุรีรัมย์จึงขอให้ประชาชนที่อพยพในสถานที่ต่างๆ ยังมิให้เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย พักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางราชการจัดให้ หรือสถานที่ต่างๆ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งจังหวัดจะแจ้งให้ทราบต่อไป