ดีลเปลี่ยนเกม! ภาษีไทย-สหรัฐฯ ชี้ทิศ SET เจาะสมมติฐานภาษีทั้งดีสุด-แย่สุด พร้อมกลยุทธ์ลงทุน หุ้นไหนเด่นแต่ละกรณี
ในช่วงที่การเจรจาการค้าระหว่างไทย–สหรัฐฯ ยังไม่บรรลุข้อสรุป นักลงทุนจำนวนมากเริ่มจับตาผลลัพธ์ของดีลภาษีที่จะตามมา เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าระหว่างสองประเทศอาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้นำทิศทางตลาดในระยะสั้นถึงกลาง บทความนี้จึงรวบรวมบทวิเคราะห์จากกูรูเพื่อนำเสนอแนวทางการลงทุนภายใต้สมมติฐานต่าง ๆ ของอัตราภาษี เพื่อช่วยให้นักลงทุนเตรียมกลยุทธ์รับมือในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
โดยบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุ วานนี้ยังไม่มีข้อสรุปการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–ไทย อย่างไรก็ตาม ประเมินกลยุทธ์ลงทุนว่าภาษีการค้าไทยจะได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบกับเวียดนาม ด้วย 5 ฉากทัศน์ และแนะนำวางกลยุทธ์เตรียมไว้ดังนี้
1.) ไทยได้ดีลภาษี 10–15% (ดีลดีกว่าเวียดนาม) คาด SET จะตอบรับทางบวก Bullish +3–5% เน้นนิคมฯ WHA, AMATA รับ FDI China plus 1 / Export Tech เน้น DELTA, KCE, HANA / ส่งออก TU, ITC, AAI, CPF, STA / กลุ่มนำเข้า (กรณีไทยตกลงงดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เช่นกัน) COM7, ADVICE, SYNEX, BE8, BBIK / GULF, GPSC กลุ่ม Infra + Import Technology Play / ADVANC, TRUE
2.) ไทยได้ดีลภาษี 15–18% (ดีกว่าเวียดนามเล็กน้อย) คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,130–1,180 หุ้นเด่นเน้น Selective Export: KCE, HANA / นิคมฯ WHA, AMATA (ยังสะสมได้) / นำเข้า (กรณีไทยตกลงงดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ เช่นกัน) ADVANC, COM7, ADVICE, INSET / นำเข้าก๊าซ : PTTGC, GPSC, BGRIM
3.) ไทยได้ดีลภาษี 19–21% (เท่าเวียดนาม) ประเมินเป็นกลางถึงบวกแคบต่อ SET / หุ้นเด่นเน้น กลุ่ม Domestic Defensive: BDMS, CPALL / โรงไฟฟ้า: GULF, GPSC / เปิดเมือง–ท่องเที่ยว: MINT, CENTEL / กลุ่มเช่าซื้อ KTC, MTC
4.) ไทยได้ดีลภาษี 22–25% (แย่กว่าเวียดนาม) SET มีโอกาสแกว่งต่ำกว่า 1,100 จุด / เน้นหุ้นพลังงาน PTTEP, BANPU / โรงพยาบาล: BDMS / Domestic Laggards ADVANC, GULF / เช่าซื้อ KTC, MTC, SAWAD
5.) ไทยถูกเก็บภาษี >25% (Worst Case) SET ปรับฐานและมีโอกาสปรับลงทดสอบ low เก่า บริเวณ 1,053 จุด / เน้นหุ้นดอกเบี้ยลด KTC, MTC / High Yield ADVANC, AP / หนี้สูง อาทิ TRUE, MINT, CPALL / กลุ่ม Energy Defensive: GULF, BCPG / กลุ่ม Healthcare BDMS, BCH, CHG / ท่องเที่ยว CENTEL, ERW
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำเกาะติดข่าวสารการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ คาดเป็น Swing Factor สำคัญที่จะกำหนดทิศทางของ SET Index สัปดาห์หน้า โดยแบ่ง Case scenario ดังนี้
1) การเจรจาประสบผลสำเร็จ คือสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยต่ำกว่า 20% หากเกิดขึ้นจะส่งผลบวกอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มนิคมฯ, ส่งออก และอิเล็กทรอนิกส์
2) อัตราภาษีอยู่ระหว่าง 20-25% คาดตลาดหุ้นทรงตัว แต่กลุ่มที่อาจปรับตัวลงคือนิคมฯ เนื่องจากอัตราภาษีสูงกว่าคู่แข่งฐานการผลิตคือเวียดนาม
3) การเจรจาไม่มีความคืบหน้าและมีแนวโน้มไม่ได้ข้อตกลงภายในวันที่ 9 ก.ค. คาด SET ปรับตัวลง โดยมอง 1,100 จุดเป็นแนวรับสำคัญ และคาดเห็นแรงขายในกลุ่มนิคมฯ, ส่งออก และอิเล็กทรอนิกส์