สะพัด!“รัฐพันลึก”กำหนดเกม ใครเขียนบทจบ“แพทองธาร”?

ในห้วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความปั่นป่วนทางการเมือง นายกรัฐมนตรีหญิงจากตระกูล “ชินวัตร” อย่าง แพทองธาร ชินวัตร กำลังเดินเข้าสู่จุดที่หลายฝ่ายมองว่า “ถนนข้างหน้าอาจไม่ใช่ทางราบ” แต่อาจกลายเป็นจุดกลับรถของอำนาจทางการเมือง

เหตุการณ์ “คลิปเสียงเจรจาลับ” กับ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่ใช่เพียงเรื่องราวการทูตระดับเพื่อนบ้าน แต่ได้กลายเป็นชนวนที่จุดไฟมวลชน สะเทือนสภา และเขย่าหัวใจของรัฐพันลึก (Deep State) ในแบบที่ไม่อาจมองข้าม

คลื่นแรงต้านจาก “ท้องถนน” และ “ในสภา”

“ม็อบ 28 มิถุนา” ที่กำลังรวมตัวขึ้น กลายเป็นจุดพีกของแรงกดดันนอกสภา โดยมีแกนนำหลายคนที่เคยมีบทบาทในการโค่นรัฐบาลมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในปี 2549 หรือ 2557 ความเป็น “รวมดาวล้มรัฐบาล” ทำให้การชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงตะโกนข้างถนน แต่คือพลังที่กำลังพุ่งเป้าเข้าหาทำเนียบโดยตรง

ขณะเดียวกัน เสียงในสภาก็เริ่มสั่นคลอน พรรคเพื่อไทยเองกำลังเผชิญปัญหาในหมู่พรรคร่วม ไม่ว่าจะเป็นการแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี หรือความไม่พอใจต่อแนวทางการแก้ปัญหา “คลิปเสียงฮุน เซน” ที่ถูกมองว่าไม่โปร่งใส ไม่จริงใจ และไม่โปร่งแสง

ในสถานการณ์เช่นนี้ หลายฝ่ายเริ่มพูดถึง “พลังเหนือรัฐธรรมนูญ” ที่อาจเริ่มเคลื่อนไหว

รัฐพันลึก: ใครคือผู้เล่นตัวจริง?

คำว่า “รัฐพันลึก” หรือ Deep State ในบริบทไทย ไม่ได้หมายถึงเพียงข้าราชการหรือกองทัพ แต่รวมถึงเครือข่ายอำนาจดั้งเดิมทั้งในและนอกระบบราชการ ที่มีศักยภาพในการกำหนดทิศทางการเมืองได้อย่างลับ ๆ โดยไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวบนเวที

ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา บทบาทของรัฐพันลึกในไทยถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลอย่างฉับพลัน ไม่ว่าจะโดยรัฐประหารหรือคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระ คำถามคือ…ครั้งนี้ “รัฐพันลึก” จะลงมืออีกครั้งหรือไม่?

บางฝ่ายชี้ว่า การที่พรรคเพื่อไทยสามารถกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น ไม่ได้เป็นเพราะความศรัทธาจากประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่คือผลจาก “ดีลที่มองไม่เห็น” กับกลุ่มอำนาจเดิมที่เคยต่อต้านพรรคนี้มาอย่างยาวนาน

หาก “ดีลนั้น” ถูกละเมิด ไม่ว่าจะโดยเนื้อหาในคลิปเสียง หรือความพยายามใด ๆ ที่ส่งผลต่อความมั่นคงของกลุ่มอำนาจเดิม ผลที่ตามมาอาจไม่ได้จบแค่แรงกดดัน แต่นำไปสู่การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หรือถึงขั้นยุบสภา

คลิปเสียง: จุดแตกหักหรือแค่ทริกเล็ก ๆ ?

แม้หลายฝ่ายพยายามลดทอนความสำคัญของคลิปเสียง โดยระบุว่าเป็นเพียง “การหารือส่วนตัว” กับผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในโลกการทูตและการเมืองไทย คลิปนี้ถือว่าอันตรายอย่างยิ่ง

การพูดคุยที่ไม่ได้อยู่ในกรอบระเบียบทางการทูต โดยเฉพาะหากมีการพูดคุยเรื่องผลประโยชน์ระหว่างประเทศ การอุปถัมภ์ หรือการใช้อำนาจเหนือขอบเขตของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกมองว่า “ละเมิดหลักความมั่นคง”

กรณีนี้จึงไม่ใช่แค่ประเด็นศีลธรรม แต่เป็นเรื่อง “ภัยต่อรัฐ” ในสายตาของบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เชื่อมั่นในแนวคิด “ชาติต้องมาก่อนทุกอย่าง”

แพทองธาร: นายกหญิงที่ไม่มีอำนาจแท้จริง?

มีคำกล่าวว่า “แพทองธารคือร่างทรงของทักษิณ” แม้จะฟังดูแรงแต่คำพูดนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกโซเชียลเมื่อเทียบกับภาพที่ปรากฏในช่วงหลัง

ความอ่อนแรงของแพทองธารในการจัดการปัญหาภายในพรรค การควบคุมพรรคร่วม และการตัดสินใจเรื่องสำคัญ สะท้อนว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์นี้ อาจเป็นเพียงภาพลวงตา

รัฐพันลึกอาจไม่เพียงจับตาดูเธอ แต่กำลัง “นับถอยหลัง” ให้เธอเดินลงจากเวที ด้วยกลไกใดกลไกหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการยื่นถอดถอนในรัฐสภา การตีความรัฐธรรมนูญจากองค์กรอิสระ หรือการกดดันจากกองทัพหรือนายทุนใหญ่ในเครือข่ายอำนาจเดิม

ทางเลือกที่เหลือ: ลาออกหรือยุบสภา?

ณ จุดนี้ นายกรัฐมนตรีหญิงจากตระกูลชินวัตรเผชิญทางเลือกที่ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

1.ลาออกเพื่อรักษาหน้าพรรค เป็นทางเลือกที่อาจลดแรงต้านจากประชาชน และรักษาเสถียรภาพของพรรคเพื่อไทย

2.ยุบสภาเพื่อตั้งหลักใหม่ – ถึงเป็นทางเสี่ยง แต่การกลับไปหาประชาชนอาจเป็นคำตอบ หากมั่นใจว่ายังมีฐานเสียงเพียงพอ

3.ดื้อดึงอยู่ต่อ ซึ่งเสี่ยงที่สุด เพราะเท่ากับเปิดศึกกับทุกฝ่าย ทั้งรัฐสภา ท้องถนน และรัฐพันลึกไปพร้อมกัน

ชะตากรรมที่ไม่ได้อยู่ในมือ

บทเรียนจากอดีตชี้ชัดว่า การเมืองไทยไม่เคยเดินตามกติกาแบบเปิดเผย แต่เป็นเกมที่ซ้อนซ่อนอยู่ในกลไกอำนาจที่ซับซ้อน บางครั้งผู้ชนะไม่ใช่คนที่อยู่ในจอทีวี แต่คือผู้ที่อยู่หลังม่าน

“แพทองธาร ชินวัตร” กำลังเผชิญบททดสอบครั้งใหญ่ และอาจเป็นครั้งสุดท้าย หากเธอไม่สามารถเปลี่ยนเกม หรืออย่างน้อยรักษาไพ่ไว้ในมือของตัวเอง

เมื่อทั้งท้องถนนและรัฐสภาไม่เอื้อให้เดินต่อ และเมื่อรัฐพันลึกเริ่มก้าวเข้ามา…อนาคตของนายกฯ หญิงคนแรกของไทย จึงไม่แน่นอนอีกต่อไป

#ม็อบ28มิถุนา #แพทองธาร #รัฐพันลึก #คลิปฮุนเซน #วิกฤตรัฐบาล #ยุบสภา #การเมืองไทย #เพื่อไทย