“บางกอกแอร์เวย์ส”คาดปี 68 โต 4% ลุยซื้อเครื่องบินใหม่ ทุ่ม 400 ล้านบาทพัฒนา”สนามบินตราด”หนุนท่องเที่ยว
“บางกอกแอร์เวย์ส” ปักแผนปี 68 รายได้โต 4% เป้าผู้โดยสารใกล้เคียงปีก่อน เซ็นซื้อ ATR ใหม่ 10 ลำ มูลค่า 6 พันล้านบาท เริ่มรับมอบปี 69 ทุ่ม 400 ล้านพัฒนา”สนามบินตราด”ฮับการบินตะวันออก ยอมรับ พิพาทไทย-เขมรกระทบท่องเที่ยว
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BA) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี2568 จะใกล้เคียงกับปี 2568 โดนเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารปี 68 อยู่ที่ 4.3 ล้านคน และอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ย 78% ลดจากเป้าหมายเดิมที่ 4.7 ล้านคน โดยคาดว่า รายได้จากตั๋วโดยสารอยู่ในระดับใกล้เคียงปี 67 ที่มีประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้รวมเติบโต 4% จากปีก่อน 2.6 หมื่นล้านบาท โดยมีสัดสวนรายได้ตั๋วโดยสาร และมีรายได้จากครัวการบิน คลังสินค้าและบริการภาคพื้น ประมาณ 20-30% คาดว่า ปีนี้จะมีกำไรจากการดำเนินงานปีนี้อ่อนตัวจากปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 5.4 พันล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและผลกระทบจากเหตุข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งให้ผู้โดยสารลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปยกเลิกไป ทำให้บริษัทยกเลิกการเช่าเครื่องบิน 2 ลำที่จะรองรับในช่วงไฮซีซั่น และปรับลดเที่ยวบินในกัมพูชา โดยกรุงเทพ-พนมเปญ จาก 3 เที่ยวบินต่อวันลดลงเป็น 1 เที่ยวบินต่อวัน กรุงเทพ -เสียมราฐ ปรับเครื่องบินเล็กลงมาใช้เครื่องแบบใบพัด ATR แทน เครื่องบินแอร์บัส A319 โดยยังคง 3 เที่ยวบินต่อวัน
สำหรับ ยอดจองตั๋วล่วงหน้าในเดือน ก.ย.- ธ.ค.68 ภาพรวมมีการเติบโตประมาณ 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเส้นทางสมุยเติบโต 7% แต่เส้นทางระหว่างประเทศ ลดลง 3%
ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทยในขณะนี้จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวและการบินหรือไม่ นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า อาจจะส่งผลต่อภาคการท่องเที่ยวบ้าง หากเกิดความไม่สงบหรือการชุมนุม ซึ่งอาจมีบางประเทศแจ้งเตือนประชาชนของตนเองในการเดินทางท่องเที่ยวต้องแต่สำหรับประเทศไทยมีจุดท่องเที่ยวทั่วประเทศที่สามารถเดินทางไปได้
นายพุฒิพงศ์ กล่าวว่า ในเรื่องฝูงบินของบางกอกแอร์เวย์สในปี 68 ยังอยู่ที่ 23 ลำเท่าเดิม ส่วนปีหน้าจะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A319 หรือ A320 อีกจำนวน 2-3 ลำ นอกจากนี้ บริษัทฯเพิ่งเซ็นสัญญาซื้อเครื่องบินใหม่ แบบ ATR จำนวน 10 ลำ มูลค่ารวมประมาณ 6 - 7 พันล้านบาท โดยจะทยอยรับมอบในปลายปี 69-71 ส่วนฝูงบินชุดใหม่ที่จะสั่งซื้อรวม 20 ลำ จะเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ เช่น A320 และ B737 ซึ่งคาดว่าน่าจะเปิดให้มีการยื่นเงื่อนไขในการเสนอขายเครื่องบินในปลายปี 69 เป็นไปตามแผน 5 ปี เพียงแต่ว่าต้องปรับตามสถานการณ์ซัพพลายเชนของเครื่องบิน โดยระหว่างนั้นจะมีการคืนและขายเครื่องเก่า ATR10 ลำ ด้วย แต่ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่เป้าหมายการขยายฝูงบินให้ได้ 40 ลำ เท่ากับขนาดฝูงบินที่BA เคยมีก่อนโควิดระบาด
@ทุ่ม 400 ล้าน พัฒนา”สนามบินตราด”
นอกจากนี้ บริษัทฯเตรียมดำเนินการพัฒนาศักยภาพสนามบินตราด ซึ่งถือเป็นสนามบินที่มีศักยภาพ เนื่องจากจังหวัดตราดเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภาคตะวันออก และเป็นที่นิยมของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของบางกอกแอร์เวย์ส ที่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว โดยครึ่งแรก ปี 68 สนามบินตราดมีจำนวนผู้โดยสารรวมแล้ว กว่า 40,427 คน และคาดว่าช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะถึงนี้ จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่มาจากยุโรปมีการเติบโตเพิ่มขึ้น คาดมี Load Factor เฉลี่ย 80% และทั้งปี ผู้โดยสารรวมอยู่ที่ 80,000-90,000 คน
โดย บริษัทฯมีโครงการพัฒนาศักยภาพสนามบินตราดระยะแรก ใช้งบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ประกอบด้วย การขยายรันเวย์ (Runway) จาก 1,800 เมตร เป็น 2,000 เมตร, การสร้างลานจอดอากาศยาน เพื่อรองรับเครื่องบินไอพ่นขนาดเล็ก–กลาง (A320, A319, B737, B717, ERJ145) ได้สูงสุด 3 ลำ หรือรองรับเครื่องบินใบพัด (ATR72, YS-11) 2 ลำ ร่วมกับเครื่องบินไอพ่นขนาดกลาง 2 ลำได้ในเวลาเดียวกัน, การปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร ขยายพื้นที่จาก 2,100 ตร.ม. เป็น 3,400 ตร.ม. เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารสูงสุด 250,000 คนต่อปี ให้แล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2569
“หลังพัฒนาเฟสแรกเสร็จคาดว่าจะรองรับผู้โดยสารไปได้อีกไม่น้อยกว่า 5 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับการเติบโตของเที่ยวบินและผู้โดยสาร ส่วนการพัฒนาในเฟสที่ 2 จะเป็นการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ และขยายลานจอดอากาศยาน โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนค่อยๆกลับมา เพราะก่อนโควิด จีนให้ความสนใจที่จะบินมาที่สนามบินตราด “
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเตรียมขยายสนามบินสมุย ปรับปรุงให้รองรับการเติบโตผู้โดยสารมากขึ้น โดยมีพื้นที่อาคารรับรองผู้โดยสารเป็น 4,000 ตร.ม..จาก 2,000 ตร.ม.โดยโครงการทั้งหมด 3 พันล้านบาท โดยจะแบ่งเป็น 2 เฟส ซึ่งเฟสแรกจะใช้งบลงทุน 1,500 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO