โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘จุลพันธ์’ ยันจ่อเข็นมาตรการปั๊มศก.ปลายปี บูมบริโภค การันตีQ4มาแน่กระตุ้นท่องเที่ยว

ไทยโพสต์

อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 22.19 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เตรียมเฮ! ‘จุลพันธ์’ ยันเอง รัฐจ่อเข็นมาตรการภาษีปั๊มบริโภคช่วงปลายปี ส่วนมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติม เดินเครื่องแน่ไม่เกินไตรมาส 4/68 รับเสียดายไทยเบรกลงทุน entertainment complex แจงเข้าใจเสียงคัดค้าน พร้อมระบุยังไม่มีแผนขุดขึ้นมาบูมใหม่ เหตุสถานการณ์การเมืองยังไม่เอื้อ

22 ส.ค. 2568 - นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างเตรียมพิจารณาผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยหลัก ๆ จะเป็นมาตรการด้านภาษีเพื่อกระตุ้นการบริโภค ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการพิจารณา จึงยังไม่สามารถชี้แจงล่วงหน้าได้ แต่ยืนยันว่าเมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมก็จะมีความชัดเจนออกมาอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวนั้น ยังอยู่ระหว่างการเร่งพิจารณา ซึ่งยืนยันว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 4/2568 อย่างแน่นอน

“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี มีแน่นอน ตอนนี้ยังหารือกันอยู่ ซึ่งจะเป็นมาตรการภาษีสำหรับกระตุ้นการบริโภค รวมถึงกระตุ้นการท่องเที่ยวก็คุยกันอยู่ แต่คงพูดรายละเอียดก่อนไม่ได้ โดยยืนยันว่าสุดท้ายจะมีมาตรการออกมาแน่นอนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม” รมช.การคลัง กล่าว

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับงบประมาณปี 2569 นั้น ขณะนี้กระบวนการในชั้นสภาผู้แทนราษฎรเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เป็นกระบวนการของวุฒิสภาที่จะนัดพิจารณาในวันที่ 1-2 ก.ย. 2568 โดยยืนยันว่ากระบวนการในการพิจารณางบประมาณปี 2569 จะแล้วเสร็จทันเพื่อประกาศใช้ในวันที่ 1 ต.ค. นี้อย่างแน่นอน

สำหรับมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ นั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมรายละเอียดของโครงการต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะมาตรการด้านการเงิน คือ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ซึ่งจะเป็นกลไกที่ดำเนินการผ่านกลไกของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และมีกลไกตามวิธีการงบประมาณ ซึ่งจะดำเนินการผ่านกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การใช้งบกลางเพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยตรง ซึ่งมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ จะออกมาในจังหวะเวลาที่เหมาะสม

“ยืนยันว่ารัฐบาลมีช่องทางในการจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อมาใช้ในการรองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ หรือผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยวิธีการมีอยู่ เม็ดเงินหาได้ และสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างแน่นอน ตรงนี้ไม่ห่วง แต่ที่ห่วงคือ จะใช้เม็ดเงินอย่างไร ตรงนี้ต้องไปหาให้เจอ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปในส่วนนี้ ยังต้องประเมินสถานการณ์ และการประเมินวันนี้ก็ยังไม่สามารถประเมินได้อย่างถูกต้องและแม่นยำที่สุด เพราะสถานการณ์มีพัฒนาการอยู่ตลอดเวลา ก็ต้องไปดูมาตรการที่จะออกมาช่วยเหลือให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา และการเข้าไปช่วยเหลือก็ไม่ใช่ว่าจะจบ แต่มองว่าจะต้องมีกลไกที่จะเติมเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และตรงจุด” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งมีการจัดสรรเม็ดเงินเรียบร้อยแล้ว 1.15 แสนล้านบาทนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่รับงบประมาณมีการดำเนินการผูกพันงบประมาณแล้วเสร็จ 1.1 แสนล้านบาท เหลืออีก 5 พันล้านบาทที่ดำเนินการไม่ทัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโครงการมีความซ้ำซ้อน และหน่วยงานมีการผูกพันงบประมาณไม่ทัน เนื่องจากมีเวลาจำกัดแค่ 1 เดือน ซึ่งในส่วนนี้อาจมีการพิจารณาโอนไปเพื่อลดภาระให้กับหน่วยงานของรัฐ ผ่านมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ซึ่งมองว่าตรงนี้ถือเป็นการใช้เม็ดเงินที่เป็นประโยชน์อีกมิติหนึ่ง

นอกจากนี้ ในส่วนของเม็ดเงินที่เหลือจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.6 หมื่นล้านบาทนั้น ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ได้มีมติให้โยกงบในส่วนนี้ไปเป็นงบกลางรายจ่ายกรณีฉุกเฉิน ซึ่งจะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสำนักงบประมาณ ซึ่งเชื่อว่าจะมีวิธีการอยู่แล้วว่าจะบริหารจัดการงบในส่วนนี้อย่างไรให้ทันภายในเวลา 1 เดือนที่เหลือ แต่มองว่าคงเป็นไปได้ยากที่จะนำงบในส่วนนี้ไปดำเนินการในลักษณะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเหมือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ในส่วนของเวียดนามที่เตรียมลงทุนในโครงการ entertainment complex วงเงิน 6 หมื่นล้านบาทนั้น รมช.การคลัง ระบุว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเทรนด์ของโลก ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ โดยในส่วนของประเทศไทยยังมีเสียงคัดค้านในหลายส่วน ก็ต้องทำความเข้าใจ และอาจจะรู้สึกเสียดายว่าทำไมประเทศไทยยังไม่เริ่ม โดยสิ่งหนึ่งที่ที่ชี้ให้เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ศักยภาพของประเทศไทยไม่ได้หายไป ซึ่งหากประเทศไทยกลับมาเดินหน้าเรื่องนี้ ก็ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินลงทุนได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าในส่วนของประเทศไทยคงยังไม่มีการหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาหารือกันในช่วงนี้ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยังไม่เอื้ออำนวย

ขณะที่โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะสามารถงบกลางได้หรือไม่นั้น มองว่า บริษัทเอกชนที่ให้บริการรถไฟฟ้าเองมีศักยภาพในการดำเนินการ และสามารถแบกรับภาระเรื่องนี้บางส่วนได้ในช่วงต้น และหลังจากนั้นรัฐบาลจะต้องมาดูว่าจะชดเชยเท่าไหร่ เมื่อไหร่ และอย่างไร โดยในการพิจารณางบประมาณในช่วงที่ผ่านมาได้มีการแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติมในส่วนนี้ราว 3 พันล้านบาท ซึ่งเมื่อดำเนินการจริงอาจจะยังไม่พอ สุดท้ายจะขาดเท่าไหร่รัฐบาลจะต้องหากลไกในการจัดสรรเม็ดเงินเข้าไปรองรับเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘โปรปลาย’คว้าแชมป์ที่45 ในการเล่นอาชีพ ศึก’ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์’รับ7.5แสน

34 นาทีที่แล้ว

น้ำใจคนไทยหลั่งไหลไม่ขาดสาย ชาวบ้านตราดส่งเสบียงให้ทหารชายแดน ชี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ

42 นาทีที่แล้ว

ม.ธุรกิจฯต้อนลูกพ่อขุน17-3 เปิดคอร์ฟบอลชิงแชมป์ปทท. หวังปั้นดาวรุ่งสู่ทีมชาติ

44 นาทีที่แล้ว

เมืองในญี่ปุ่นเสนอจำกัดเวลาการใช้สมาร์ทโฟนไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง

48 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ถึงคิว "ยูโรดิจิทัล" EU เร่งสปีดผลักดัน ปกป้องความเป็นผู้นำสกุลเงินภูมิภาค

TNN ช่อง16

EGCO Group แต่งตั้ง “ธวัชชัย สำราญวานิช” นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่

การเงินธนาคาร

ธนาคารยูโอบีตอกย้ำความเป็นธนาคารระดับภูมิภาค เดินหน้าหนุนการลงทุนและ นวัตกรรมดิจิทัล ขับเคลื่อนความร่วมมือไทย–สิงคโปร์บนเวที SRBF 2025

Manager Online

จตุพร ดันสินค้า GI เข้าร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง จับมือร้านนอร์ธ มิชลิน 1 ดาว ปั้นเมนูพิเศษ

เดลินิวส์

ซีพีเอฟ รับรางวัลพระปกเกล้า ด้านสำนึกพลเมือง ตอกย้ำองค์กรต้นแบบสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม

Manager Online

MEA ลงพื้นที่ศูนย์สิริกิติ์ฯ ติดตามงานระบบไฟฟ้า รองรับการประชุม ACD ครั้งที่ 20

Manager Online

MEA เตือน ระวัง! "มิจฉาชีพ" หลอกเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า

Manager Online

ดัชนีหุ้นปิดบวก 8.60 จุด ตอบรับศาลยกฟ้องทักษิณ

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...