‘วิสุทธิ์’ เผย สส.เพื่อไทยไม่หวั่น ยัน ‘นายกฯ’ ทำเพื่อปกป้องประเทศ เชื่อศาลให้ความยุติธรรม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน ‘นายกฯ’
เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 18 ส.ค. ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศภายในพรรคเพื่อไทย หลังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องที่ สว. 36 คน เข้าชื่อร้องต่อกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม กับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่า สส.เพื่อไทย ทุกคน ไม่มีใครหวั่นไหว มีกำลังใจดีหมด เพราะเชื่อมั่นว่านายกฯ ทำไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และชีวิตคนไทยหลายหมื่นคนที่อาศัยและทำงานในกัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ตึงเครียด หากปล่อยให้เกิดการปิดชายแดนหรือการปะทะขึ้นจริง เราไม่อยากให้คนไทยที่ไปลงทุนทำธุรกิจหรือทำงานอยู่ที่กัมพูชาได้รับความเดือดร้อนหรือถูกรังแก
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่นายกฯ พูดเป็นเพียงการประวิงเวลาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อไม่ให้คนไทยได้รับอันตรายหรือต้องถูกกดดัน พร้อมย้ำว่าพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นว่านายกฯ จะได้รับความยุติธรรมจากศาลอย่างแน่นอน โดย สส. ในขณะนี้ ไม่ได้กังวลกับข้อกล่าวหา แต่กลับมุ่งคิดไปข้างหน้าว่า หลังจากการเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติดแล้ว รักษาราชการแทนนายกฯ จะขับเคลื่อนนโยบายใดต่อ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาพืชผลทางการเกษตรและความเป็นอยู่ของเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวถามถึงความจำเป็นในการวางแผนสำรองหากเกิดปัญหาทางการเมือง นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันพรรคไม่มีความกังวลถึงขั้นต้องวางแผนสองหรือสาม เพราะตามหลักเกณฑ์รัฐธรรมนูญ หากมีการเปลี่ยนตัวจริง นายกฯ ก็ยังคงต้องเป็นบุคคลจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เช่น นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 พรรคเพื่อไทย ที่ยังคงอยู่ในรายชื่อเสนอชื่อนายกฯ และย้ำชัดว่าพรรคอื่นไม่มีโอกาสในสมัยนี้ ต้องรอการเลือกตั้งครั้งหน้าเท่านั้น
นายวิสุทธิ์ กล่าวย้ำว่า ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ ในตอนนี้ เพราะทุกฝ่ายยังสามารถทำงานได้ และ สส. ในพรรคก็เชื่อมั่นในตัว น.ส.แพทองธาร อย่างเต็มที่ สิ่งที่กังวลจริง ๆ ไม่ใช่ตำแหน่งนายกฯ แต่คือปัญหาปากท้องของประชาชน เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และความยากจน ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ไขให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ส่วนข้อกฎหมายจากคลิปเสียงนั้น ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะการสนทนาเป็นเรื่องส่วนตัว นอกเหนือจากการเจรจาอย่างเป็นทางการ และการดูแลความมั่นคงชายแดน ก็เป็นหน้าที่โดยตรงของฝ่ายทหาร แม้แต่ประกาศกฎอัยการศึกก็เป็นอำนาจของทหาร
เมื่อถามว่าสำหรับกระแสผลโพลที่มีการวิจารณ์ว่านายกฯ ถูกลดความเชื่อมั่น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ช่วงที่คลิปเสียงถูกเผยแพร่ใหม่ ๆ ก็มีผลโพลออกมา แต่เมื่อสถานการณ์ชายแดนคลี่คลายได้ด้วยการเจรจา และไทยไม่สูญเสียดินแดน แถมได้ดินแดนเพิ่ม ปัจจุบันกลับไม่มีโพลออกมาใหม่ ทุกวันนี้นานาชาติเชื่อถือรัฐบาลไทยมั้ย เชื่อถือทหารไทยมั้ย เราไม่ได้รุกราน เราแค่ตอบโต้ปกป้องอธิปไตย เรา มองว่าความรักความสามัคคีในชาติก็สำคัญ ตนขอตำหนิสื่อเทียมที่สร้างกระแสโจมตีจนบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้ประเทศเสียหาย แต่ปัจจุบันเห็นว่าสื่อกระแสหลักนำเสนอในทางที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากขึ้น
เมื่อถามถึงผลวินิจฉัย ไม่ว่านายกฯ จะรอดหรือไม่ นายกฯ จะอยู่ยากในสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่เรื่องยาก เพราะนายกฯ ไม่ได้ทำผิด และไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องกังวล พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างกระแสที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย โดยย้ำว่าประเทศจะก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยความรักและความสามัคคีของคนในชาติ