โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘ภูมิธรรม’ ถกซีอีโอบริษัทยักษ์เรียกความเชื่อมั่น!

ไทยโพสต์

อัพเดต 6 สิงหาคม 2568 เวลา 18.16 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'ภูมิธรรม' เปิดทำเนียบฯ ถกซีอีโอบริษัทยักษ์ ปลุกความเชื่อมั่น ยันรัฐบาลพร้อมปรับกลไก-พัฒนาบุคลากร สู้ภาษีทรัมป์

06 ส.ค.2568 - ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการหารือระดับสูงนักลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศไทย ในงาน “Prime Minister Meets Investors: Confidence in Thailand’s Future - Prime Minister's Dialogue with Global Investors” โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายสุชาติ ชมกลิ่นรมช.พาณิชย์ นายนฤตม์ เทอดเสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ผู้บริหารบริษัทชั้นนำ กว่า 30 บริษัท จาก 4 อุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์,ยานยนต์ไฟฟ้า,ศูนย์ข้อมูล (Data Center) และอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio - Circular - Green Economy) ร่วมหารือ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกคน ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูง จากกลุ่มบริษัทชั้นนำของโลก ที่มีการลงทุนขนาดใหญ่ในประเทศไทย การรับมือกับความไม่แน่นอนจากอัตราภาษีสหรัฐฯที่เป็นปัญหาใหญ่ของโลก จากการที่สหรัฐฯประกาศอัตราภาษีใหม่และประเทศไทย ถูกเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้า 19% ซึ่งรัฐบาลไทยเข้าใจถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และกติกาการค้าโลก เราจึงมุ่งมั่นที่จะอาศัยโอกาสนี้ในการปรับปรุงกลไกต่างๆเพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจที่ดำเนินการในประเทศไทยสอดคล้องกับกติกาโลก และลดความเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลกระทบกับภาคเศรษฐกิจ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีความจริงใจและความมุ่งมั่นที่จะรักษาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการธุรกิจของท่านให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งด้านระเบียบที่เอื้ออำนวยในการประกอบธุรกิจ การพัฒนาบุคลากรทักษะสูง การเตรียมความพร้อมด้านพลังงานสะอาด และการเดินหน้าเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก การสร้างความสามารถในการเข้าถึงตลาดโลก

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีข้อตกลงทางการค้า 17 ฉบับ กับ 24 ประเทศ และเร่งเจรจาความ ทางการค้าเพิ่มเติมกับหลายประเทศ รวมทั้งกลุ่มอียูเกาหลีใต้ และแคนาดา ซึ่งจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบของผู้ประกอบการและการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปยังผู้ประกอบกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และการพัฒนากลไก พลังงานสะอาด เพื่อรองรับธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทางESG ที่รัฐบาลไทยตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างกลไกเพื่อรองรับการดำเนินงานธุรกิจอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดยกระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริการกลไกUtility Green Tariff แบบที่1 หรือ UGT1 ให้บริการพลังงานสะอาดพร้อมเอกสารรับรองการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมีบริษัทให้ความสนใจกว่า 40 ราย และปีนี้เราตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการ Utility Green Tariff แบบที่2 UGT 2 ที่เป็นพลังงานสะอาด สามารถระบุแหล่งที่มาและแหล่งพลังงานใหม่

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังมีกลไก Direct Power Purchase Agreement หรือ Direct PPA ที่ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถทำสัญญาซื้อไฟจากผู้ผลิตได้โดยตรง โดยผู้ผลิตสามารถส่งพลังงานสะอาดที่ผลิตได้ ผ่านสายส่งของรัฐโดยจะเริ่มให้บริการพลังงานสะอาด 2,000 เมกะวัตต์กับกลุ่มธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องการใช้พลังงานสูง และมี Commitment ในระยะยาว ทั้งนี้หากการให้บริการล็อตแรกเป็นไปด้วยดี รัฐบาลพร้อมที่จะพิจารณาขยายกลไกให้ครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่นต่อไป

ด้าน เลขาธิการบีโอไอ เปิดเผยว่า การหารือระหว่างผู้นำรัฐบาลกับ 31 บริษัทชั้นนำระดับโลกในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งในด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง รวมถึงแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ดิจิทัล และอุตสาหกรรมอาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการขยายการลงทุนขนาดใหญ่ ที่คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 5.5 แสนล้านบาท และมีการจ้างงานรวมกว่า 53,000 ตำแหน่ง วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดงานนี้คือการที่ทีมไทยแลนด์ได้ประสบความสำเร็จในขั้นแรกที่ได้เจรจามาตรการภาษีกับสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจึงจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน และเชิญชวนให้นักลงทุนกลุ่มเป้าหมายนี้ขยายการลงทุนต่อเนื่องประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งการลงทุนของบริษัทเหล่านี้ไม่เพียงมาตั้งโรงงานการผลิต แต่รัฐบาลได้เชิญชวนให้มาตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา มาช่วยพัฒนาบุคลากร รวมทั้งใช้ประเทศไทยเป็นสำนักงานประจำภูมิภาคหรือ Regional Headquarter อีกด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘ภูมิธรรม’ รับสั่งให้ฟ้อง ‘แพ่ง-อาญา’ เขมรแต่ไม่ใช่ที่ศาลโลก

30 นาทีที่แล้ว

‘เทนนิส’พร้อมเปิดบ้าน ต้อนรับชาติซีเกมส์ ‘สุชัย’ส่งทัพไทยแข่งทุกประเภท

38 นาทีที่แล้ว

กองทัพลั่นไม่ถอยกำลัง 11 จุดเขตอธิปไตยไทย!

49 นาทีที่แล้ว

จับยาเสพติดล็อตใหญ่กลางกรุง! ยาไอซ์ซุกถุงกระสอบ 314 กก.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

อย่าช้ารีบเลย! เที่ยวไทยคนละครึ่ง เมืองหลักใช้สิทธิเต็มแล้ว เหลือเมืองรอง 9 หมื่นห้อง

MATICHON ONLINE

กกร. เพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้โต 1.8-2.2%

TNN ช่อง16

“สหรัฐ” เตรียมเดินหน้าทำเหมืองใต้ทะเลร่วมกับหมู่เกาะคุก หลังจีนลงนามความร่วมมือแล้ว

การเงินธนาคาร

ธอส. ชวนซื้อคอนโดมิเนียมมือสอง ลดราคาสูงสุด 50% ผ่านออนไลน์

หุ้นวิชั่น

DIT เร่งเพิ่มโควตารับซื้อลำไย ช่วยเกษตรกรแปลงใหญ่ลำพูน เดินหน้าร่วมเอกชนดูดซับผลผลิต

The Better

กกร.ปรับเพิ่ม GDP ไทยปีนี้ อยู่ที่ ร้อยละ 1.8-2.2 คาดครึ่งหลังปีนี้ ส่งออกชะลอตัว

JS100

เศรษฐกิจไทยตั้งเป้าโต 3-5% "พิชัย" เผยยังต้องแก้ปัญหา-รอ AMC เคลียร์หนี้เสียประชาชน

สยามรัฐ

ปลุกไฟ STEM ในตัวคุณ! PTT Group STEM Camp 2025 ชวนน้อง ม.ต้น ร่วมเปิดโลกวิทยาศาสตร์

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...