โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

คนไทยเสี่ยง “ตกงาน” มากขึ้น หลัง “AI” เปลี่ยนตลาดแรงงานครั้งใหญ่

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า อาจเห็นแนวโน้มของการเกษียณอายุ 45 ปีมากขึ้นในบางภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและผลิตภาพ ปรับโครงสร้างองค์กรให้สอดรับกับเทคโนโลยี

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดแรงงานในธุรกิจการเงิน การบริการ สื่อมวลชน ผู้บริหารระดับกลางจะถูกแทนที่โดยเอไอมากขึ้น

แรงงานที่มีอายุเกิน 45-50 ปีที่อาจจะปรับทักษะใหม่ไม่ได้ หรือต้องใช้การลงทุนมากเกินไป องค์กรจำนวนไม่น้อย ก็จะเอาแรงงานวัยกลางคนเหล่านี้ ออก ทำให้องค์กรกระชับขึ้น และเปิดให้คนรุ่นใหม่อายุน้อยกว่า ฐานเงินเดือนต่ำกว่า มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้ดีกว่าเข้ามาแทนที่ ภาวะดังกล่าว อาจทำให้องค์กรอยู่รอดได้ แต่อาจไม่ยั่งยืน หากระบบเศรษฐกิจและสังคมได้รับผลกระทบ องค์กรก็จะได้รับผลกระทบในที่สุด

ภาวะยังไม่แก่แล้วไม่มีงานทำ ไม่มีเงินออม ยังมีภาระผ่อนบ้าน มีภาระดูแลลูกและพ่อแม่ จะทำให้เกิดการล่มสลายทางการเงินของมนุษย์เงินเดือนวัยกลางคนในบางธุรกิจอุตสาหกรรม รัฐบาลและสังคมไทยต้องมีมาตรการและนโยบายในการรับมือเพราะจะเป็นปัญหาใหญ่โตในอนาคตได้

ขณะเดียวกันก็จะมีการยืดอายุเกษียณในหลายกิจการในภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมจากภาวการณ์ขาดแคลนแรงงานด้วยเช่นเดียวกัน แรงงานว่างงาน ไม่สามารถเข้ามาทดแทน แรงงานขาดแคลนได้ เพราะมีทักษะแตกต่างกัน เกิดความไม่สมดุลในตลาดแรงงาน

คนไทยเสี่ยง “ตกงาน” มากขึ้น หลัง “AI” เปลี่ยนตลาดแรงงานครั้งใหญ่

ด้านหนึ่งมีคนว่างงาน อีกด้านหนึ่ง ไม่สามารถหาคนมาทำงานได้ เทคโนโลยีเอไอ โดยเฉพาะ Generative AI and Artificial General Intelligence -AGI จะเปลี่ยนกายวิภาคของงาน (Anatomy of Work) เสริมศักยภาพการทำงานของแรงงานมนุษย์ จากการวิจัยพบว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะทำให้สามารถประหยัดเวลาการทำงานของแรงงานมนุษย์ได้ไม่ต่ำกว่า 60-70% Generative AI and AGI จะเข้ามาทดแทนแรงงานมนุษย์ความรู้สูง ทักษะสูงและค่าจ้างสูงมากกว่าแรงงานทักษะต่ำและค่าจ้างต่ำ มีการคาดการณ์ตำแหน่งงานในตลาดแรงงานทั้งหมดครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 50% จะถูกแทนที่โดยระบบอัตโนมัติภายในปี ค.ศ. 2045 Generative AI

ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตจะทำให้อัตราการเติบโตของผลิตภาพแรงงานเพิ่มขึ้นระหว่าง 0.5-3.4% ต่อปี Augmentation แรงงานทักษะต่ำให้ทำงานได้ดีขึ้นและสร้างผลกำไรให้กับกิจการได้มากขึ้น Generative AI และQuantum Computing จะพลิกโฉมโลกและชีวิตมนุษย์มากยิ่งกว่าครั้งใดๆในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เมื่อมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนต สมาร์ทโฟน พลิกโฉมระบบเศรษฐกิจ ระบบธุรกิจได้มากพอสมควร

แต่ครั้งนี้จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมตั้งแต่อุตสาหกรรมบันเทิง จนถึงการสื่อสาร การเงิน และการออกแบบ ระบบการเมือง การทำงานและวิถีชีวิตผู้คนมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว นอกจากนี้ Generative AI ทำให้สามารถพัฒนาสู่ AGI (Artificial General Intelligence) ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ สามารถทำงานเลียนแบบสมองมนุษย์ได้ไม่ได้เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานเฉพาะเจาะจงตามโปรแกรมคำสั่งที่ถูกป้อนให้เท่านั้น

การเกิดขึ้นของ Gen AI และ AGI จะทำให้แรงงานทักษะขั้นสูงมีผลิตภาพ (Productivity) และผลผลิตเพิ่มขึ้นหลากหลายและเติบโตอย่างก้าวกระโดดทำให้สามารถทำงานน้อยลง ได้ผลผลิตมากกว่าเดิม และ Generative AI และ Quantum Computing จะเข้ามา ทำงานแทนแรงงานมนุษย์ได้แทบจะทุกสาขาวิชาชีพ รวมทั้งสามารถทำงานในสิ่งที่ศักยภาพของสมองมนุษย์มีขีดจำกัด ไม่สามารถทำได้

คนไทยเสี่ยง “ตกงาน” มากขึ้น หลัง “AI” เปลี่ยนตลาดแรงงานครั้งใหญ่

อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีอาจนำมาสู่ความเหลื่อมล้ำที่มากขึ้นระหว่างทุนและแรงงาน ระหว่างทุนที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีกับทุนที่ซื้อและใช้เทคโนโลยี ระหว่างประเทศเจ้าของเทคโนโลยีกับประเทศที่ซื้อเทคโนโลยีมาใช้ เทคโนโลยีแพลตฟอร์มดิจิทัลในบางลักษณะได้สร้างพลวัตแบบผูกขาดขึ้นมา มียักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีไม่กี่บริษัทที่ควบคุมตลาดโลก ทำให้ธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็ก หรือบริษัทใหญ่ในประเทศไม่มีอำนาจต่อรองไม่สามารถแข่งขันได้ กลุ่มทุนเจ้าของเทคโนโลยีสามารถสะสมความมั่งคั่งจนล้นเกินขณะที่แรงงานเผชิญการถูกแทนที่โดยเทคโนโลยีและค่าจ้างหยุดนิ่ง

ส่วนการทำงานของแรงงานแพลตฟอร์มทั้งหลาย อย่าง Grab, Uber อาจมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง แต่งานไม่มีความมั่นคง และ ไม่มีสวัสดิการและความคุ้มครองทางแรงงานที่ดีนัก ความมั่งคั่งและผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีจะถูกแบ่งปันอย่างไรให้เป็นธรรม เป็นเรื่องที่สังคมต้องแสวงหาคำตอบร่วมกัน

นอกจากนี้อาจเกิดความไม่เท่าเทียมกันระหว่างแรงงานมีทักษะและไม่มีทักษะในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ทั้งหลายภายใต้เศรษฐกิจแบบดิจิทัลสามารถทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและการแบ่งขั้วในสังคมเพิ่มขึ้นก็ได้ ลดลงก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้ไปในทางไหนและด้วยการกำกับดูแลทั้งทางนโยบายอย่างไร หรือกลไกตลาดในระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปอย่างไร ทุนนิยมโลกาภิวัตน์และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลมีผลทำให้เกิดการแบ่งขั้วด้านอาชีพมากขึ้น อัตราการเติบโตของค่าตอบแทนระหว่างผู้บริหารระดับสูง กับ อัตราการเติบโตของค่าตอบแทนของคนงานทั่วไปถ่างกว้างมากขึ้นทุกวัน เช่นเดียวกับแรงงานที่มีทักษะทางด้านดิจิทัล

และแรงงานที่ไม่มีทักษะในเรื่องดังกล่าว ทุนนิยมโลกาภิวัตน์ทำให้บรรษัทข้ามชาติเครื่องย้ายฐานงานทักษะต่ำเกือบทั้งหมดไปยังดินแดนที่มีแรงงานทักษะต่ำจำนวนมากและมีค่าแรงถูก เศรษฐกิจดิจิทัลมีการนำเทคโนโลยีและระบบเครื่องจักรอัตโนมัติมาแทนที่แรงงานมนุษย์ที่ทำงานแบบซ้ำๆโดยไม่ต้องใช้ทักษะ การแบ่งขั้วทางด้านอุดมการณ์ความคิดและวิถีชีวิตอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงก็ได้ขึ้นอยู่กับมีการใช้เทคโนโลยีไปในทิศทางใด

เมื่อพูดถึงความเหลื่อมล้ำ จำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องช่องว่างดิจิทัล เนื่องจากช่องว่างดิจิทัลจะทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมย่ำแย่ลง เวลาพูดถึงช่องว่างดิจิทัล มักหมายถึง ช่องว่างระหว่างกลุ่มที่เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลกับกลุ่มที่เข้าไม่ถึง ความแตกต่าง ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล การเข้าถึงอินเตอร์เน็ต อุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่สะท้อนความสามารถทางการเงิน ฐานะทางเศรษฐกิจ ทักษะและศักยภาพของบุคคลที่แตกต่างกันอีกด้วย

จึงเห็นความแตกต่างของการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างประเทศพัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา ระหว่างพื้นที่ในเมืองใหญ่กับชนบท ความไม่สามาถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ทำให้เป็นอุปสรรคในการประกอบอาชีพ การศึกษา ข้อมูลข่าวสารและโอกาสทางเศรษฐกิจต่างๆ ความไม่เท่าเทียมใน การเข้าถึง การใช้ และผลกระทบจาก เทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสารของผู้คน ตั้งแต่อดีตจนก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลในระยะต่อมา ทำให้ความไม่เท่าเทียมนี้ถูกเรียกในภายหลังว่าช่องว่างทางดิจิทัล หรือ Digital Divide ซึ่งแปลความให้ง่ายก็คือ ความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

กต.แจง MOU43 ไทยได้เปรียบ ร่วมกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด-ทำแผนที่ใหม่

8 นาทีที่แล้ว

SAM เปิดรับผู้แนะนำทรัพย์ รับค่าตอบแทนสูงถึง 3 ล้านต่อรายการ

18 นาทีที่แล้ว

อันดับโลกวอลเลย์บอลหญิงไทย ล่าสุด ขยับขึ้น ผลงานแรงศึกชิงแชมป์โลก

22 นาทีที่แล้ว

โปรแกรมทีมชาติไทย U23 ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก AFC U-23 Asian Cup

55 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

คนไทยด้วยกัน! ตำรวจเห็นลุงนั่งริมถนน ทนไม่ได้รีบไปซื้อข้าว ขนมและน้ำดื่มมาให้กินอร่อย

สยามนิวส์

มีเอะใจแค่เรื่องเดียว ลูกชาย อลงกต เปิดใจ หลังชื่อพ่อไปซ้ำกับหลวงพ่ออลงกต

สยามนิวส์
วิดีโอ

มทภ.2 อนุมัติ ยิงตอบโต้ทันที หากพบทหารกัมพูชา รุกอธิปไตย-วางทุ่นระเบิด

THE ROOM 44 CHANNEL
วิดีโอ

ชิ่งสื่อฯ! แม่บ้าน สน.วังทองหลาง เผย "มารี เบิร์นเนอร์" มาแล้ว ไปแล้ว เจ้าตัวยอมรับดื่มจริง

THE ROOM 44 CHANNEL

WARRIX ร่วมส่งเสริมเยาวชนไทย "คิดดี มีคุณธรรม"

TOP NEWS ONLINE

BEM ชวนจุดประกายไอเดียผ่านเวิร์กช้อปเอาใจสายวาด

สวพ.FM91

หนึ่ง บางปู ฉะเดือด! หลวงพ่ออลงกต เผย เคยถวายเงินวัดกว่า 5 ล้าน

สยามนิวส์

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาท บนทางรัฐได้หรือไม่

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...