‘กัณวีร์’ เรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด
"กัณวีร์" เรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด ห่วงทุ่นใหม่จะกระทบประชาชนชายแดนในระยะยาว
วันนี้ (17 ส.ค.) นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ลงพื้นที่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเก็บข้อมูลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะกรณีการละเมิดกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เพื่อรายงานต่อคณะกรรมการธิการว่าด้วยการส่งเสริมการเคารพกฏหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรม IPU-IHL และเตรียมนำเสนอเป็นหัวข้อฉุกเฉิน Emergency Item ในการประชุมสหภาพรัฐสภาโลก-IPU ในเดือนตุลาคมนี้
นายกัณวีร์ ได้รับฟังข้อมูลจาก นายมี อัตตพงษ์ อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวบ้านภูมิซรอล ที่เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มาแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2523 และปี 2541 ทำให้พิการขาทั้งสองข้าง โดยข้างซ้ายเท้าผิดรูป ส่วนข้างขวาขาขาด ต้องใส่ขาเทียมมากว่า 20 ปีแล้ว
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับนายมี เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่บอกได้ว่าทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชานี้มีอยู่อย่างยาวนาน ซึ่งนายมีเล่าว่าทุ่นระเบิดเก่าตั้งแต่ปี 2523 เป็นต้นมา ในปัจจุบันเป็นสนิมหมดแล้ว และไม่ระเบิดอีกต่อไป สำหรับทุ่นระเบิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงเชื่อว่าเป็นการวางใหม่ทั้งหมดของทหารกัมพูชา
นายกัณวีร์ ระบุว่า กัมพูชาให้สัตยาบันกับอนุสัญญาออตตาวาเมื่อปี 2543 และควรมีผลบังคับใช้ในปีถัดไป อนุสัญญานี้มีผลให้ประเทศภาคีต้องหยุดการผลิต การเก็บ การใช้และการเคลื่อนย้ายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล(anti-personnel mines) และยังให้รัฐภาคีต้องกำจัดทุ่นระเบิดที่เก็บไว้รวมทั้งต้องเก็บกู้ในพื้นที่ทุ่นระเบิดด้วย
"ความจริงใจของกัมพูชาในการผูกมัดตัวเองในพันธกรณีระหว่างประเทศที่กัมพูชาให้ไว้นั้นไม่มีเลย ไม่ต้องดูที่ไหนไกลครับ ในช่วงการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ไทยมีข้อเสนอ 1 ใน 2 ข้อเพิ่มเติมจาก 13 ข้อที่ตกลงกันว่า ให้ทั้งสองฝ่ายช่วยกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่กัมพูชาไม่ได้ตอบสนองแต่อย่างใด"
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า กัมพูชาขาดความจริงใจในข้อผูกมัดระหว่างประเทศที่ตนเองให้คำมั่นในเวทีโลกไว้ แล้วจะเดินหน้าอย่างไรต่อ และจากการลงพื้นที่ พบว่าชาวบ้านนับพันคนบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้รับผลกระทบมากที่สุดทั้งสองฝั่ง ไม่เลือกสัญชาติว่าเป็นคนสัญชาติไหน ถึงแม้ศึกสงครามจะสงบในอนาคต แต่ทุ่นระเบิดนี้ยังฝังอยู่ในพื้นดิน ชาวบ้านที่ต้องใช้ชีวิตจากการเดินเท้า ไม่ว่าจะเก็บของป่า หรือการเดินทางเพื่อใช้ชีวิตประจำวันปกติ จะได้รับผลกระทบโดยตรงตลอดไป
"คงต้องผลักดันในเวทีระหว่างประเทศให้มากเกี่ยวกับพันธกรณีระหว่างประเทศที่ต้องยึดมั่น การแทรกแซงต่างๆ โดยประชาคมโลกต่อผู้ผิดคำมั่นสัญญา ต้องทำให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และไทยต้องแม่นและเน้นการเมืองระหว่างประเทศอย่างเป็นระบบให้ได้ ให้เร็ว และมีประสิทธิภาพ อย่าทำเกมการเมืองระหว่างประเทศเชิงกระแส มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในการดำเนินงานความสัมพันธ์กับเวทีโลกครับ"
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ ว่าจะนำเสนอปัญหาเหล่านี้ผลักดันให้นำไปสู่ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และกัมพูชาจะต้องแสดงความจริงใจในเรื่องนี้ เพราะจากข้อตกลงหยุดยิงในการประชุม GBC รวมถึง RBC ล่าสุด ทางฝ่ายไทยได้เสนอความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบรับ การนำไปสู่สันติภาพที่แท้จริง เราจึงต้องทำให้กัมพูชายอมรับเรื่องนี้และร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพราะเป็นภารกิจเพื่อมนุษยธรรม
"ผมคุยกับชาวบ้าน ยอมรับเลยครับว่า ชาวบ้านหวาดกลัว ถ้าการสู้รบยุติ คนที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดก็คงเป็นชาวบ้านทั่วไป ของเก่าก็ยังเก็บกู้ไม่หมด ยังจะมีของใหม่มาอีก เราต้องหยุดเรื่องนี้ให้ได้ครับ" นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- 'กัณวีร์' ชื่นชมข้อตกลงหยุดยิง GBC เสียดายกัมพูชาไม่ตกลงแก้ 'ทุ่นระเบิด'
- 'กัณวีร์' ย้ำเสียงของประชาชนไม่โกหก หวังคณะทูต 23 ประเทศได้เห็น
- ‘กัณวีร์’ ซัดรัฐบาลไทย 'ตั้งการ์ดหลวม' ปล่อยกัมพูชารุกคืบทุกทาง
ติดตามเราได้ที่