โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

แห่ของบกองทุนอนุรักษ์ฯกว่า 7 พันล้านบาท ส.กทอ. ขีดเส้นตาย 17 ก.ย.

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายรัฐฉัตร ศิริพานิช ผู้จัดการสำนักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน (ส.กทอ.) เปิดเผยว่า ในปี 2568 กองทุนฯ ตั้งงบประมาณเพื่อสนุบสนุนโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงาน และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการอนุรักษ์พลังงาน ภายใต้การจัดตั้งตาม พ.ร.บ.การส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 ไว้ที่ประมาณ 3,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีโครงการที่ยื่นขอใช้เงินกองทุนดังกล่าว 600 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยล่าสุดทางคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้ขยายระยะเวลาการเปิดรับข้อเสนอโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการอนุรักษ์พลังงานไปจนถึงวันที่ 17 กันยายน 2568

โดยที่ผ่านมากองทุนได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการด้านการอนุรักษ์พลังงาน และการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการอนุรักษ์พลังงาน ให้แก่ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา องค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร ผู้ประกอบกิจการโรงงานและอาคาร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร

และเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการลดการใช้พลังงานได้มากกว่า 3,573 ktoe คิดเป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท/ปี ในช่วงปี 2557 ถึงปัจจุบัน

แห่ของบกองทุนอนุรักษ์ฯกว่า 7 พันล้านบาท ส.กทอ. ขีดเส้นตาย 17 ก.ย.

ทั้งนี้ ศูนย์บริหารจัดการเมืองเพื่อความยั่งยืน และศูนย์บริหารจัดการชีวมวลแบบครบวงจร รวมถึงตัวอย่างโครงการศึกษาของสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ถือว่าเป็นต้นแบบโครงการ BCG Model หรือการพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติ ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญเป็นโมเดลเศรษฐกิจใหม่สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

สำหรับโครงการต้นแบบเมืองอัจฉริยะพลังงานสะอาด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CMU Smart City-Clean Energy) เป็นหนึ่งใน 6 ต้นแบบที่กองทุนฯ ได้จัดสรรงบประมาณ 115,005,500 บาท เพื่อริเริ่มโครงการสนับสนุนการออกแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities-Clean Energy) ในปี 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงกำไร สถาบันการศึกษาเพื่อออกแบบพัฒนาเมืองของตนเองไปสู่เมืองอัจฉริยะ

โครงการมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 32,370 ตันคาร์บอนไดออกไซด์/ปี ใน 20 ปี หรือคิดเป็นร้อยละ 55.5 ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2558 นอกจากนั้นยังมุ่งเน้นเป็นต้นแบบการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมครบวงจรให้กับเมืองข้างเคียงได้พัฒนาสู่สังคมสีเขียวแบบอัจฉริยะ ส่งผลต่อชุมชนรอบข้างให้สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่สีเขียวในเมืองมหาวิทยาลัย มีความสะดวกสบายในการสัญจรเพิ่มขึ้น และสามารถเรียนรู้ระบบบริหารจัดการในเมืองมหาวิทยาลัยเพื่อใช้เป็นต้นแบบในการปรับใช้กับชุมชนได้อีกด้วย

ทั้งนี้ โครงการมีผลประหยัดพลังงานที่เกิดขึ้นจริงได้ 28.62% หรือ 34,220,000 กิโลวัตต์ชั่วโมง/ปี ลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 51.08% หรือ 32,370.68 ตัน/ปี สามารถผลิตพลังงานจากโซลาร์บนหลังคาได้ 19 เมกะวัตต์ ผลิตไบโอแก๊สจากขยะ 0.3 เมกะวัตต์ และมีโรงไบโอแก๊ส (ไขมันจากโรงอาหาร) 0.5 เมกะวัตต์ รวมผลิตพลังงานได้ 19.8 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่ากับ 51.14%ของพลังงานที่ใช้ทั้งหมด รวมทั้งมีระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) และโซลาร์น้ำร้อน 20,000 ลิตร/วัน

แห่ของบกองทุนอนุรักษ์ฯกว่า 7 พันล้านบาท ส.กทอ. ขีดเส้นตาย 17 ก.ย.

“ผลลัพธ์ที่กองทุนฯ คาดหวังคือ เมืองไทยจะมีแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยเฉพาะในบริบทของการลดสภาวะโลกร้อนที่คำนึงถึงการใช้พลังงานสะอาด ช่วยลดพลังงาน ลดคาร์บอน และสร้างเมืองที่น่าอยู่และยั่งยืนสำหรับอนาคตต่อไป มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็เป็นพันธมิตรที่ดีของกองทุนฯ และเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านมา ที่ได้มีการพัฒนาและยกระดับการดำเนินการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างต่อเนื่องจนได้รับรางวัลและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานต่าง ๆ ที่เคยได้รับการสนับสนุนเงินจากกองทุนฯ เช่น ระบบก๊าซชีวภาพ การแปรรูปขยะเป็นพลังงาน การดัดแปลงรถยนต์เป็นรถไฟฟ้าและงานวิจัยอื่นๆ มาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยฯ”

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยฯยังมีศูนย์บริหารจัดการชีวมวลแบบครบวงจรซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์เมืองอัจฉริยะของมหาวิทยาลัยฯ มุ่งเน้นกำจัดขยะอย่างยั่งยืน โดยนำขยะจากหอพักและโรงอาหารมาผลิตเป็นไบโอแก๊ส เพื่อนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิง CBG (Compressed Biomethane Gas) หรือก๊าซไบโอมีเทนอัด คือเชื้อเพลิงที่ได้จากการนำก๊าซชีวภาพ (Biogas) มาปรับปรุงคุณภาพ มีคุณสมบัติเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV)

ซึ่งการบริหารจัดการชีวมวลแบบครบวงจรสามารถลดปริมาณขยะที่ต้องฝังกลบและเผาได้ประมรณ 4,500 ตัน/ปี ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 10,900 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยขยะอินทรืย์ 1 ตัน สามารถสร้างประโยชน์รวมได้มากถึง 1,500 – 2,000 บาท โดยมาจากการผลิตก๊าซ การลดคาร์บอน และการประหยัดค่าขนส่ง ซึ่งโครงการนี้ก็ถือเป็นต้นแบบน่าสนใจในการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม พร้อมกับสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

พายุ ‘คาจิกิ’ จังหวัดแพร่อ่วมฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน ถนนตัดขาด

27 นาทีที่แล้ว

ฟาร์มเอ็กซ์โป 2025 รวมพลังรัฐ - เอกชน ขับเคลื่อน Smart Farmer

42 นาทีที่แล้ว

ตั้งธุรกิจใหม่ ก.ค. พุ่ง 9.78% ทุนทะลุ 2.2 หมื่นล้าน ก่อสร้าง-อสังหา แชมป์

46 นาทีที่แล้ว

ปภ.เตือน Cell Broadcast แพร่ นครพนม พิษณุโลก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำหลาก

47 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

เปิดข้อสั่งการใน ครม.สั่งทุกหน่วยหนุนทหารคุมเข้ม-ห้ามล้ำเขตแดน

The Publisher

ชาวสระแก้วรวมตัวบ้านหนองจาน จี้รัฐบาลแก้ปัญหาเขมรรื้อรั้วลวดหนาม

The Publisher

ตั้งธุรกิจใหม่ ก.ค. พุ่ง 9.78% ทุนทะลุ 2.2 หมื่นล้าน ก่อสร้าง-อสังหา แชมป์

ฐานเศรษฐกิจ

"ผู้ว่าฯ ลพบุรี" สั่งตั้งกรรมการชุดพิเศษ ตรวจสอบ 5 มูลนิธิวัดพระบาทน้ำพุอย่างละเอียด

TOP NEWS ONLINE

เส้นทางชีวิต 'อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ' เลขาฯสภาพัฒน์หญิงคนแรก

ฐานเศรษฐกิจ

ทหายเกิดผล ย้อนคำพูด ตอนรับหน้าที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุ ก่อนหลวงพ่ออลงกตถูกจับ

สยามนิวส์

ผบ.ตร.สั่งรับมือพายุ “คาจิกิ” จัดกำลังพลดูแลช่วยเหลือประชาชน เตรียมที่พักพิง และป้องกันเหตุอาชญากรรมซ้ำเติม

สวพ.FM91

ครม.ตั้ง ‘อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ’ เป็นเลขาฯสศช. ‘บุปผา เรืองสุด’ นั่งเลขาฯประกันสังคม

ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...