โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คดี “บอส อยู่วิทยา” ยังไม่จบ! อัยการสูงสุดยื่นอุทธรณ์เอาผิด "พล.ต.อ.สมยศ" กับพวก 6 ราย

สยามรัฐ

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อัยการสูงสุด อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นกรณียกฟ้องผู้ต้องหาร่วมกันทุจริตเปลี่ยนแปลงความเร็วรถในคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา

วันที่ 27 ส.ค.68 นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด แจ้งมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ดำเนินคดีอาญาฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับพวกรวม 8 คน กรณีร่วมกันเปลี่ยนแปลงความเร็วรถในคดีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับขี่รถยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ถึงแก่ความตาย โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็นจำเลยที่ 1, พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข จำเลยที่ 2, พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี จำเลยที่ 3, นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม จำเลยที่ 4, นายธนิต บัวเขียว จำเลยที่ 5, นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร จำเลยที่ 6, รองศาสตราจารย์สายประสิทธิ์ เกิดนิยม จำเลยที่ 7 และนายเนตร นาคสุข จำเลยที่ 8 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญากระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใด มิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญากระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 200 วรรค 1 มาตรา 13 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 65 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172, 192 ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ซึ่งศาลได้รับไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 131/2567 นั้น

ต่อมาวันที่ 22 เมษายน 2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท 131/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อท 18/2568 ลงโทษนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม จำเลยที่ 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และนายเนตร นาคสุข จำเลยที่ 8 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด จำเลยที่ 4 จำคุก 2 ปี จำเลยที่ 8 จำคุก 3 ปี ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 แต่ให้หมายขังจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 ไว้ระหว่างอุทธรณ์

อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว จึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้น ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1, 2, 3, 5, 6 และ 7 ในทุกฐานความผิดตามคำฟ้อง และเห็นชอบที่จะไม่อุทธรณ์จำเลยที่ 4 กับจำเลยที่ 8 โดยให้หารือคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีจะไม่อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 61 และส่งสำนวนคืนให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 เพื่อดำเนินการต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ข่าวปลอม! มทภ.1 และฝ่ายความมั่นคงเสนอมอบสัญชาติไทยให้ชาวเขมรบ้านหนองจาน

17 นาทีที่แล้ว

“กัมพูชา”ต้องรับผิดชอบ! ไทยเร่งประท้วงเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ 3 นาย

18 นาทีที่แล้ว

รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุแจ้งบุคลากร-ผู้ป่วย เตรียมรับมือปรับตัววอนเมตตาช่วยเหลือก่อนเงินหมด

22 นาทีที่แล้ว

เทคนิคนิคมฯระยอง มอบใบประกาศผู้ต้องขังจบหลักสูตรอาชีพ สร้างโอกาสคืนคนดีสู่สังคม

29 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

แฉอีก! หมอบี อ้างเรื่องพี่น้องชาติปางก่อน อยู่บ้านเดียวกัน 1 ชาย 4 หญิง

BRIGHTTV.CO.TH

"มาริษ" หารือข้าหลวงใหญ่ยูเอ็น ชี้กัมพูชาละเมิดสิทธิมนุษยชน–ใช้ข่าวปลอมปั่นกระแส ย้ำไทยยึดสันติวิธีตามกฎหมายระหว่างประเทศ

The Better

ทบ.แจงเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ปราสาทตาควาย ยืนยันกัมพูชาลอบวางอย่างจงใจ

JS100

กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันทหารไทย 3 นาย เหยียบกับระเบิด PMN-2 ขณะเดินลาดตระเวน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

UNHCR ชื่นชมไทย อนุญาตผู้ลี้ภัยทำงานถูกกฎหมายหลังพำนักนาน

THE STANDARD

ขอบคุณคณะผู้แทนทางการทูตสหภาพยุโรป ลงพื้นที่ รพ.พนมดงรัก

สำนักข่าวไทย Online

น้ำผึ้งพร้อมรังเดลิเวอรี ตระเวนขายข้ามอำเภอ

สำนักข่าวไทย Online

บิ๊กเต่า เล่านาทีบุกบ้านหมอบี พร้อมเผยวิธีพูดหมอบี โน้มน้าวใจ นักร้องสาว-หญิงใกล้ชิด 3 คน ให้อยู่ร่วมกัน

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...