โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"หมอสมิทธิ์" งัดข้อมูล แย้งตรง ๆ ลั่น ไม่เห็นด้วย ปม เส้นผม คดีลุงพล

TNews

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หมอสมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช และนิติวิทยาศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Smith Fa Srisont

หมอสมิทธิ์ เปิดข้อมูลแย้ง ปม เส้นผม คดีลุงพล ทำชาวเน็ตแชร์สนั่น

กรณีการตรวจเส้นผมในคดีลุงพล ผมขอออกความเห็นนะครับ (ยาวมากๆ เพราะมีความเห็นและอ้างอิงหลายเรื่อง อาจต้องค่อยๆ อ่านกันนะครับ)

***edit เพิ่ม มีคนบอกว่ายาวไป ลองหาในคอมเม้นดูครับ มีคนสรุปแบบสั้นๆ ให้ละครับ แต่ส่วนตัวอยากให้ลองอ่านทั้งหมดดูนะครับ***

ขอแจ้งก่อนว่า ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นของซึ่งมีการอ้างอิงหนังสือวิชาการ งานวิจัย รายงาน และกรณีดังของต่างประเทศในอดีต ซึ่งต่างจากความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ในคดีได้ และเรื่องนี้เป็นความเห็นของผมเฉพาะการใช้หลักฐานเส้นผมเท่านั้น จึงไม่ได้บอกว่าคดีนี้ลุงพลผิดหรือไม่ผิด

อันดับแรกขอสรุปข้อมูลทางคดีที่ได้มาจาก คำพิพากษา และเพจต่างๆ ที่แชร์เรื่องนี้

โดยจากคำพิพากษาทั้งชั้นต้นและอุทธรณ์ สรุปได้ว่า มีการเก็บเส้นผมได้ 30 เส้น จากบริเวณรอบจุดที่พบศพ และอีก 2 เส้น จากในรถของลุงพล แล้วมีการตรวจเส้นผมหลายอย่าง สรุปผลการตรวจที่สำคัญดังนี้

1. การตรวจโดยใช้กล้องจุลทรรศน์พบว่า เส้นผม 30 เส้นถูกตัดทั้งหมด โดยเส้นผม 2 ใน 30 เส้นจากบริเวณรอบจุดที่พบศพ กับ เส้นผม 1 เส้นในรถ มีการถูกตัดในลักษณะเหมือนกันในองศาที่ใกล้เคียงกัน ( 2 เส้นในที่เกิดเหตุ = 26 กับ 29 องศา // 1 เส้นในรถ = 26 องศา) และมีรอยกระจุกของเส้นผมเหมือนกัน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นพยานในศาลสรุปว่า เส้นผมทั้ง 3 เส้นถูกตัดพร้อมกันในครั้งเดียวกันด้วยวัตถุมีคมชนิดเดียวกัน คนตัดเส้นผมดังกล่าวต้องเป็นคนเดียวกัน และตัดในลักษณะเส้นผมอยู่ชิดติดกัน โดยผมทราบจากเพจต่างๆ ว่า ความเห็นดังกล่าวอ้างอิงจากงานวิจัยนี้ (คลิก) ซึ่งคนตีพิมพ์งานวิจัยนี้คือนักวิทยาศาสตร์ที่ให้ความเห็นตามข้างต้นครับ

2. การตรวจ mitochondria-DNA ของเส้นผม พบว่า ผลการตรวจเส้นผมบริเวณรอบศพหลายเส้น มีผล mitochondria-DNA ตรงกับกระดูกของน้องชมพู่

ขออธิบายวิธีการตรวจนี้นะครับ ปกติการตรวจเทียบวัตถุพยานเพื่อระบุตัวบุคคลเราจะตรวจโดยใช้วิธี STR-DNA แต่เส้นผมที่ไม่มีรากจะตรวจแบบนี้ไม่ได้ ได้แค่ตรวจ mitochondria โดยผล mitochindria จะระบุได้แค่ว่า มาจากสายพันธ์มารดาเดียวกัน หมายถึง ยาย แม่ พี่น้องของแม่ไม่ว่าหญิงหรือชาย ลูกไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ทั้งหมดจะมี mitochondria-DNA เดียวกัน โดยไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ว่าเป็นใคร ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการแปลผล

3. การตรวจซิงโครตรอนของเส้นผมหลายเส้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ผู้ตรวจ มีความเห็นว่า เส้นผมมาจากคนเดียวกัน ที่ความน่าจะเป็นตั้งแต่ 60-85%

การตรวจซิงโครตรอนเป็นวิธีการดูการเรืองแสงของธาตุในวัตถุที่เราต้องการตรวจ เช่น ในกรณีนี้คือเส้นผม ซึ่งกรณีนี้ตรวจธาตุทั้งหมด 6 ชนิด ได้แก่ ฟอสฟอรัส ซิลิกอน ซัลเฟอร์ คลอรีน โพแทสเซียม และแคลเซียม

ส่วนความเห็นแย้งของผมมีดังนี้

1. การตรวจเส้นผมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์เพื่อระบุชี้ชัดว่า เส้นผมดังกล่าวเป็นของบุคคลคนไหน เป็นวิธีที่ FBI เคยใช้ แล้วมีปัญหามากๆ เพราะเป็นการแปลผลที่เกินจริง ทำให้จับแพะเข้าคุกเป็นจำนวนมาก จน FBI ต้องออกมาขอโทษ และทำรายงานว่า 95% ของคำให้การของนักวิทยาศาสตร์ FBI ในเรื่องนี้ เป็นการพูดเกินจริง มีสารคดีเรื่องนี้ ดูได้จากนี้เลยครับ youtube และข่าวตามนี้ youtube

2. การตรวจเส้นผมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ สามารถตอบคำถามได้เพียงบางอย่างเช่น เส้นผมหรือขนเป็นของคนหรือสัตว์ เส้นผมหรือขนจากส่วนไหนของร่างกาย เส้นผมถูกถอนหรือตัด แต่ไม่สามารถระบุชัดๆได้ว่าเป็นของใคร ปัจจุบันจึงต้องใช้การตรวจ DNA ร่วมด้วยถึงจะระบุได้ว่าเป็นของใคร เห็นได้จากรายงานทางนิติวิทยาศาสตร์ของ USA อันนี้ (คลิก) หรือดูข้อสรุปจากรายงานตามรูปที่ผมเอามา

โดยกรณีลุงพลนี้ ผมเห็นว่า ในคำพิพากษายังไม่มีผลการตรวจ DNA ของเส้นผมที่เก็บจากในรถมายืนยันว่าตรงกับเส้นผมในที่เกิดเหตุ (มีแต่ผลการตรวจเส้นผมที่เก็บจากที่เกิดเหตุกับกระดูกน้องชมพู่ที่ระบุว่าตรงกัน) และถึงแม้ว่าตรงกันก็อาจไม่มีประโยชน์ เพราะ ป้าแต๋นที่ขึ้นรถลุงพลอยู่แล้ว กับน้องชมพู่ ก็ต้องมี mitochondria-DNA เดียวกัน

3. การตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ของเส้นผมกรณีถูกตัดจะบอกได้แค่ว่าถูกตัดด้วยอุปกรณ์ชนิดใด เช่น มีด กรรไกร ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางระดับสากลในการตรวจเส้นผมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์แล้วสามารถระบุอย่างชัดเจนว่า ใช้มีดหรืออุปกรณ์อันไหนตัด และใครเป็นคนตัดได้

4. ส่วนงานวิจัยเรื่องเส้นผมนี้ (คลิก) ผมชื่นชมในการพยายามทำวิจัย แต่ผมว่ามันเป็นงานวิจัยที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะงานวิจัยนี้ใช้แค่เส้นผมของผู้วิจัยเองคนเดียวไม่มีการเปรียบเทียบกับเส้นผมคนอื่น อุปกรณ์ที่ตัดก็อันเดียวไม่มีการใช้เครื่องมือในการตัดอื่นเพื่อเปรียบเทียบ จำนวนครั้งที่ทดลองในการตัดผมสองเส้นพร้อมกันก็แค่สี่ครั้ง ไม่มีการให้คนอื่นๆ ตัดเพื่อเปรียบเทียบ ดังนั้นควรทำวิจัยเพิ่มมากกว่านี้ นอกจากนี้งานวิจัยนี้ยังตีพิมพ์ในวารสารที่เป็น predatory journal ซึ่งเป็นวารสารที่ก่อนงานวิจัยนี้จะได้ตีพิมพ์ก็ถูกถอดออกจาก scopus จนถึงปัจจุบัน

5. การตรวจซิงโครตรอนมีที่ใช้ในทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ใช่การระบุตัวตนโดยการเปรียบเทียบแบบนี้ เช่น ใช้ว่าเส้นผมดังกล่าว เคยผ่านการทำสีด้วยสารอะไรมาก่อน และจากคำพิพากษาก็ระบุว่า นักวิทยาศาสตร์คนตรวจทำการตรวจเส้นผมเปรียบเทียบแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำให้คิดได้ว่า ไม่มีงานวิจัยใดๆ ที่เคยทำเรื่องแบบนี้ นอกจากนี้ความน่าจะเป็นตั้งแต่ 60-85% ผมถือว่าต่ำมาก เพราะตามหลักการตรวจ DNA ที่ เรายังใช้ความน่าจะเป็นที่สูงมากกว่า 99.99% ถึงจะบอกว่าเป็นคนเดียวกันได้

นอกจากนี้ จากคำพิพากษาทั้งหมด ผมยังมีประเด็นที่ยังสงสัยคือ

1. เส้นผม 2 เส้นจาก 30 เส้นที่เจอในที่เกิดเหตุมีรอยตัดตรงกับ 1 เส้นจาก 2 เส้นที่เจอในรถของลุงพล คำถามคือ แล้วเส้นผมที่เหลืออีก 28 เส้นที่มีรอยตัดเหมือนกัน แต่รอยตัดไม่ตรงกับ 3 เส้นนั้น คือ เส้นผมใคร ทำไมถึงเจอในที่เกิดเหตุ

ถ้าเป็นเส้นผมของคนเดียวกัน ทำไมรอยตัดไม่เหมือนกับ 3 เส้นนั้น แล้วจะเกิดปัญหาว่า 28 เส้นที่ไม่ตรงมันเยอะกว่ามาก ทำไมใช้แค่ 2 เส้นที่ตรงมาเอาผิด มันเป็นความบังเอิญที่ตรงกันได้ไหม

2. ทำไมไม่มีการตรวจหรือผล mitochondria-DNA ของเส้นผมที่เจอในรถ เพื่อพิสูจน์เทียบให้แน่ชัดว่าตรงกันกับเส้นผมในที่เกิดเหตุ (แต่อาจเป็นไปได้ ว่าตรวจแล้ว ไม่เจอ DNA เพราะมันผ่านเป็นเวลานาน ทำให้ DNA เสื่อมสลาย)

สุดท้ายผมเป็นแพทย์นิติเวชและนักนิติวิทยาศาสตร์ ผมถือหลักว่า ในคดีอาญา การเอาพยานหลักฐานที่ได้มาจากการตรวจพบทางนิติวิทยาศาสตร์ต้องไม่แปลผลพยานหลักฐานใดๆ ให้เกินจริง อะไรตอบไม่ได้ก็คือตอบไม่ได้ การแปลผลทางนิติวิทยาศาสตร์มีข้อจำกัดเสมอ

หมอสมิทธิ์ เปิดข้อมูลแย้ง ปม เส้นผม คดีลุงพล ทำชาวเน็ตแชร์สนั่น
  • สรุปสั้น ๆ แต่ครบถ้วนเรื่อง การตรวจเส้นผมในคดีลุงพล จากคุณ Watzon Poommarin

---

ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษา

1. เจอเส้นผม 30 เส้น รอบศพ และ 2 เส้นในรถลุงพล

มี 3 เส้น (2 จากศพ + 1 จากรถ) ถูกตัดในมุมองศาใกล้เคียงกัน (26–29°) นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าตัดพร้อมกันด้วยของมีคมชนิดเดียว

2. ตรวจ Mitochondrial DNA (mtDNA)

เส้นผมหลายเส้นตรงกับกระดูกน้องชมพู่

แต่ mtDNA บอกได้แค่ “สายแม่เดียวกัน” (เช่น แม่ ยาย พี่น้อง แม่-ลูก) ไม่บอกได้ว่าเป็นใครแน่ชัด

3. ตรวจซิงโครตรอน

ดูธาตุ 6 ชนิดในเส้นผม สรุปว่าเป็นคนเดียวกันได้ในความน่าจะเป็น 60–85%

---

ข้อโต้แย้งและข้อจำกัด

1. การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์

เคยใช้ในสหรัฐฯ แล้วผิดพลาดสูง ทำให้จับแพะจำนวนมาก FBI ต้องออกมาขอโทษ

ใช้บอกได้แค่ผม/ขนเป็นของคนหรือสัตว์, ส่วนไหนของร่างกาย, ถูกตัดหรือถอน ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นของใคร

2. DNA ของเส้นผมในรถ

ไม่มีรายงานผล mtDNA ของเส้นผมที่เจอในรถว่าตรงกับที่เกิดเหตุหรือไม่

ถึงตรงก็ไม่ชี้ชัด เพราะป้าแต๋นกับน้องชมพู่มี mtDNA แบบเดียวกัน

3. งานวิจัยที่ใช้อ้างอิง

ใช้เส้นผมของผู้วิจัยเองเพียงคนเดียว ไม่ได้เปรียบเทียบกับคนอื่น

จำนวนการทดลองน้อย และตีพิมพ์ในวารสารที่ถูกจัดว่าเป็น predatory journal

4. การตรวจซิงโครตรอน

ปกติใช้ตรวจเรื่องการทำสีผม ไม่เคยมีงานวิจัยใช้เพื่อ “ระบุตัวบุคคล”

ความน่าจะเป็น 60–85% ต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับการตรวจ DNA ที่ต้องมากกว่า 99.99%

---

ประเด็นที่ยังไม่ชัด

1. เส้นผมที่เหลือ 28 เส้น (จาก 30) มีรอยตัดไม่ตรงกับ 3 เส้นที่อ้างอิง จะอธิบายว่าเป็นของใคร? ทำไมไม่ถูกนำมาพิจารณา?

2. การตรวจ DNA ของเส้นผมในรถ ไม่มีรายงานผลแน่ชัด อาจเป็นเพราะ DNA เสื่อมสลายไปแล้ว

---

สรุป

การใช้เส้นผมเป็นหลักฐานมี ข้อจำกัดสูง และไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อย่างชัดเจนเหมือน DNA (STR)

วิธีที่ใช้อ้างอิงในคดีนี้หลายอย่างยัง ไม่เป็นมาตรฐานสากล และอาจ “แปลผลเกินจริง”

หลักฐานเส้นผมจึงควรถูกใช้เป็นเพียง ข้อมูลประกอบ ไม่ใช่ตัวชี้ชัดในการตัดสินคดีอาญา

---

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNews

"กัน จอมพลัง" ตัดสินใจโพสต์ล่าสุด บอกเลย ถ้าเอาจริง เรื่องใหญ่แน่

51 นาทีที่แล้ว

เปิดชื่อเล่น "หลวงพ่ออลงกต" ที่แท้ไม่ได้มีแค่จอร์จ ยังมีอีกชื่อ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หมอช้าง 2 ราศี ดาวรุ่งพุ่งแรง โอกาสทอง ก้าวสู่ความสำเร็จยิ่งใหญ่

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ต๊ะ นารากร" ตัดสินใจ เขียนถึง "ข่าว3มิติ" แบบตรง ๆ ไม่มีอ้อมค้อม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ไขปริศนาไทม์ไลน์ชีวิตที่หายไปของ “เกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว”

สำนักข่าวไทย Online

"พายุคาจิกิ" อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน กระทบไทย 40 จังหวัด ฝนตกหนัก

TNews

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

สำนักข่าวไทย Online

สำนักงานเขตบางรัก แนะวิธีแจ้งเกิด สำหรับพ่อแม่มือใหม่ ใช้ภาพ ริโอ ประกอบ

Khaosod

ตร.เปิดยุทธการ "พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี" ระดมกวาดล้างอาวุธปืนล็อตใหญ่

Manager Online

อุตุฯประกาศฉบับที่ 16 พายุ ‘คาจิกิ’ เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากในไทย

ฐานเศรษฐกิจ

"ศาลอาญา" รับฟ้อง "รักชนก-สหัสวัต" หมิ่นประมาท "สุชาติ" ปมซื้อตึก SKYY9

สยามรัฐ

พายุไต้ฝุ่นคาจิกิถล่มเวียดนาม ดับแล้ว 3 ราย บ้านเรือนเสียหายยับ

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...