คดีทุจริต อดีตพระอลงกต-หมอบี แค่จุดเริ่มต้น | สนามข่าว 7 สี
96 ดูสนามข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้ หลวงพ่ออลงกต ลาสิกขากลายเป็น อดีตพระอลงกต ด้วยความสมัครใจ ให้การกับตำรวจรวดเดียวชุดใหญ่หลายเรื่อง วินาทีที่ตำรวจกองปราบจับกุม อดีตพระอลงกต ช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม ภายในอาคารสนามฟุตบอลใจฟ้าอาทรประชานาถ ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ตอนแรกตำรวจวางแผนจับกุมเวลา 06.00 น. แต่เพราะตำรวจสังเกตพบความเคลื่อนไหวผิดปกติของอดีตพระอลงกต จู่ ๆ ก็ขึ้นรถตู้ไม่รู้จะออกไปไหนดึก ๆ ดื่น ๆ พอสอบถามก็บอกจะไปจำวัดที่วัดพระบาทน้ำพุ ตรวจค้นภายในรถ พบเงินสดหลักแสนบาท กระจายอยู่ตามกระเป๋าหลายใบ เลยต้องเชิญตัวไปสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งก็เดินทางมาถึงประมาณ 05.30 น.ของเมื่อวาน ส่วน หมอบี ต้นเรื่องของคดีนี้ ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในกรุงเทพฯ ช่วง 06.00 น. ไม่มีอะไรผิดแผน อ่านหมายจับ ตรวจค้นบ้านเสร็จ ก็พาตัวมาสอบสวนต่อที่ กองบังคับการปราบปราม ตอนที่มาถึง หมอบี ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใด ๆ ของสื่อมวลชน โดยสรุปแล้วทั้ง 2 คน ถูกดำเนินคดีคนละ 3 ข้อหา อดีตพระอลงกต โดนข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เป็นเจ้าพนักงานเบียดบังทรัพย์ และฟอกเงิน ส่วน หมอบี ถูกแจ้งความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้ให้การสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด และฟอกเงิน ช่วงแรกของการสอบปากคำ บิ๊กเต่า พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า หลวงพ่ออลงกต ยังให้การไม่ครบในทุกประเด็น และยังไม่ยอมสึก จนตนเองพร้อมกับตัวแทนจาก ปปท. และ ป.ป.ช. ต้องพากันเกลี้ยกล่อมให้แยกแยะระหว่างการทำความดี และความผิด สุดท้าย อดีตพระอลงกต ตัดสินใจลาสิกขา พฤติการณ์สำคัญที่นำไปสู่การออกหมายจับ ทางตำรวจสืบพบการกระทำผิด เกี่ยวข้องกับการนำเงินบริจาคก้อนใหญ่ไปซื้อที่ดิน จัดสร้างสนามฟุตบอล และลงทุนในรูปของบริษัท จนพบเส้นทางการเงินหมุนเวียนรวมเกินกว่า 1,000 ล้านบาท จากนั้นในช่วงเย็น มีศิษยานุศิษย์ ของ อดีตพระอลงกต นำผ้าห่ม หมอน ที่นอน ไปเตรียมให้ใช้หลับนอนในช่วงกลางคืน คดีของอดีตพระอลงกต ไม่ได้มีแค่เฉพาะเรื่องเงินบริจาค เพราะลูกชายของนายอลงกตตัวจริง ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบฯ เพิ่มอีก 1 หน่วยงาน เนื่องจากการนำเลข 13 หลัก ของนายอลงกตตัวจริง ไปผูกบัญชีพร้อมเพย์ กองทุนอาทรประชานาถ อาจทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อน จากการทุจริตเงินบริจาค เรื่องปมการปลอมแปลงประวัติ มีรายงานข่าวหลายสำนัก อ้างคำให้การตรงกัน ว่าเกิดจากการที่ อดีตพระอลงกต ไม่ได้เข้ารับการเกณฑ์ทหาร จากนั้นมีไทม์ไลน์ต่อมาว่า ในปี 2524 ได้ลอบไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย อ้างว่าได้ร่วมออกแบบตึกแฝด ปิโตรนาส แล้วติดตามคณะแสวงบุญ กลับมาบวชที่วัดลำนารายณ์ ในปี 2529 โดยใช้ข้อมูลของ อลงกต พลมุข ซึ่งเป็นเพื่อนรักกัน กรอกในหนังสือสุทธิด้วยตนเอง โดยที่ นายอลงกต ตัวจริงไม่รู้เรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของพบว่า ตึกแฝด ปิโตรนาส มีการออกแบบอย่างเป็นทางการในปี 2535 ก่อสร้างเสร็จในปี 2539 และเริ่มใช้งานในปี 2542 ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในรายงานข่าวดังกล่าว จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. ที่ผ่านมา ดร.ยุทธนา มาสำราญ ทีมทนายความของอดีตพระอลงกต ให้ข้อมูล หลังจากการสอบปากคำอดีตพระอลงกตเสร็จสิ้นว่า อดีตพระอลงกตให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี และไม่กังวลเรื่องการต่อสู้คดี ส่วนฟากฝั่งทนายหมอบี นายกสานติ์ ปัญญาชัยรักษา ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ตนเองยังไม่ได้พูดคุยกับหมอบี เนื่องจากยังติดกระบวนการการสอบปากคำของตำรวจ ส่วนแนวทางการสู้คดี ก็ว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ทางทีมงานได้เตรียมหลักฐานไว้ต่อสู้คดีแล้ว ผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่ามั่นใจหรือไม่ว่า หมอบี จะได้รับการประกันตัว ทนายความ ตอบว่า ก็แล้วแต่ความเห็นของพนักงานสอบสวน ล่าสุดเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำตัวอดีตพระอลงกต และหมอบี เข้าห้องคุมขัง หลังถูกจับตั้งแต่เมื่อวานนี้ และถูกสอบปากคำยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ขณะคุมตัวเข้าห้องคุมขัง ทั้งสองปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน แต่จากการสังเกต มีอาการอ่อนเพลียเห็นได้ชัด ทางคดีพนักงานสอบค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และกลัวว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอื่น ๆ และจะนำตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายในวันนี้ 27 ส.ค. กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #สนามข่าว7สี #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero
เล่นอัตโนมัติ