“อัตราดอกเบี้ย Hibor” ฮ่องกง พุ่งทะลุ 3% สัญญาณสภาพคล่องตึง
"อัตราดอกเบี้ย Hibor" ฮ่องกง พุ่งทะลุ 3% กดดันต้นทุนกู้ยืมและเพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจที่เพิ่งฟื้นตัว ขณะที่ HKMA ต้องเร่งปกป้องค่าเงิน
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลา 14.38 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า สภาพคล่องในตลาดการเงินฮ่องกงกลับมาตึงตัวในสัปดาห์นี้ หลังอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างธนาคาร (Hibor) อายุ 1 เดือน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญ พุ่งขึ้นทะลุ 3% ในวันพุธ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ เตือนว่า หากอัตราดอกเบี้ยยืนเหนือระดับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนจะระมัดระวังมากขึ้น และความต้องการกู้ยืมจะลดลง
คารี หลี่ นักกลยุทธ์ตลาดโลกจาก DBS Bank ในฮ่องกง กล่าวว่า ธนาคารเริ่มกักตุนสภาพคล่องช่วงปลายเดือนและปลายไตรมาส ทำให้เงินในระบบหายไป ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตยังบ่งชี้ว่าความต้องการกู้จะซบเซา โดยมองว่า Hibor จะยังอยู่ในระดับสูงจนถึงสิ้นเดือนกันยายนจากปัจจัยฤดูกาล แต่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญก็ต่อเมื่อตัวเลขสูงต่อเนื่องนานราวครึ่งปี
เศรษฐกิจฮ่องกงเพิ่งขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปีในไตรมาสที่ผ่านมา จากแรงหนุนของการใช้จ่ายในประเทศและการเร่งนำเข้าจากต่างชาติที่ต้องการเลี่ยงภาษีใหม่ของสหรัฐ แต่ก่อนหน้านั้นปี 2567 การเติบโตซบเซาเพราะการบริโภคไม่ฟื้นและตลาดอสังหาฯ อ่อนแรง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากการเงินการคลังฮ่องกง (HKMA) ระบุว่าสภาพคล่องระหว่างธนาคารหดตัวลงกว่า 70% ในรอบสองเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นต่อเนื่องจากการที่ HKMA ต้องเข้าซื้อเงินดอลลาร์ฮ่องกงเพื่อปกป้องค่าเงินให้อยู่ในกรอบ 7.75–7.85 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นและสัญญาณฟื้นตัวของการปล่อยสินเชื่อก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ย โดยในวันพุธ ค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงแข็งขึ้น 0.2% สู่ระดับ 7.7764 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัว
อ้างอิง : www.bloomberg.com