“ญี่ปุ่น” เรียกร้อง “จีน” ขยายโควตา QDII รับดีมานด์หุ้นญี่ปุ่นพุ่งสูง
"ญี่ปุ่น" เรียกร้อง "จีน" เพิ่มวงเงินลงทุนต่างประเทศภายใต้โครงการ QDII หลังนักลงทุนจีนแห่ซื้อหุ้นญี่ปุ่นท่ามกลางตลาดในประเทศซบเซา ชี้ความร่วมมือทางการเงินระหว่างสองประเทศยังมีช่องว่างมหาศาล
วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.43 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นออกมาเรียกร้องให้จีนขยายโครงการที่เปิดให้นักลงทุนในประเทศสามารถนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยอ้างถึงความสนใจอย่างล้นหลามของนักลงทุนจีนต่อหุ้นญี่ปุ่น
ซาโตรุ ชิบาตะ ที่ปรึกษาด้านกิจการจีนประจำสำนักงานบริการการเงินแห่งญี่ปุ่น (FSA) กล่าวในการประชุมที่กรุงโตเกียวเมื่อวันศุกร์ว่า “ผมอยากเรียกร้องให้จีนเดินหน้าผ่อนคลายภาคการเงินและเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น” พร้อมระบุว่าความต้องการหุ้นญี่ปุ่นจากนักลงทุนจีนในปัจจุบันสูงมาก จึงจำเป็นต้องมีการขยายโควตาเพิ่มเติม พร้อมย้ำว่าความเห็นดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนตัวของเขา
ชิบาตะกล่าวถึงโครงการ QDII (Qualified Domestic Institutional Investors) ซึ่งเป็นมาตรการของจีนที่เปิดให้บริษัทในประเทศที่ผ่านเกณฑ์สามารถลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศภายใต้กรอบวงเงินที่กำหนดไว้ ญี่ปุ่นเคยเรียกร้องในลักษณะเดียวกันในการประชุมเศรษฐกิจระดับสูงกับจีนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ชิบาตะกล่าวในงานสัมมนาที่จัดโดย China International Capital Corp.ว่า “ความร่วมมือด้านการเงินระหว่างญี่ปุ่นกับจีนมีศักยภาพมหาศาล” พร้อมชี้ว่าการลงทุนในหลักทรัพย์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นยังมีขนาดจำกัดมากเมื่อเทียบกับระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ ซึ่งหมายถึงโอกาสทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนได้ค่อย ๆ ผ่อนคลายการควบคุมการนำเงินออกนอกประเทศ ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศของจีน (SAFE) ได้เพิ่มโควตา QDII ขึ้นอีกประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 170.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวจีนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ
ความสนใจของนักลงทุนจีนในหุ้นญี่ปุ่นเริ่มชัดเจนขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว เมื่อตลาดหุ้นในประเทศเริ่มอ่อนตัวลง โดยมีรายงานว่าการแห่ซื้อ ETF หุ้นญี่ปุ่นในประเทศจีนอย่างคึกคัก ถึงขั้นทำให้บางกองทุนต้องหยุดการซื้อขายชั่วคราว และออกคำเตือนเกี่ยวกับราคาที่สูงกว่ามูลค่าพื้นฐาน (premium)
บริษัทจัดการกองทุนต้องปรับโควตา QDII จากผลิตภัณฑ์อื่นมาให้กับ ETF ที่อิงกับตลาดญี่ปุ่น เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น สื่อท้องถิ่นจีนรายงานในขณะนั้น
การปรับโควตาล่าสุด ทำให้กองทุน ETF ของจีน 5 กองทุนที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นสามารถใช้วงเงินรวมสูงสุดได้ประมาณ 220 ล้านดอลลาร์ หากความต้องการเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
แม้ชิบาตะจะยินดีกับการขยายโควตา แต่ก็กล่าวว่า “ขนาดของวงเงินที่เพิ่มขึ้นยังค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับความสนใจที่นักลงทุนจีนมีต่อหุ้นญี่ปุ่นในขณะนี้”
โดยปกติแล้ว ความต้องการของนักลงทุนจีนในการถือสินทรัพย์ต่างประเทศมักเพิ่มขึ้นเมื่อเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว แต่พวกเขาไม่สามารถใช้โควตาการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศประจำปีที่จำกัดไว้ที่ 50,000 ดอลลาร์ เพื่อซื้อหลักทรัพย์ในต่างประเทศโดยตรงได้ ช่องทางทางการที่เปิดให้ใช้งาน ได้แก่ กองทุนภายใต้โครงการ QDII และกลไกการซื้อขายหุ้นผ่านฮ่องกง (Stock Connect) ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้นักลงทุนจีนเคยพยายามหลีกเลี่ยงการควบคุมเงินทุนของประเทศ เพื่อซื้อขายหุ้นต่างประเทศ แต่ทางการจีนได้ปราบปรามพฤติกรรมดังกล่าวอย่างเข้มงวดในช่วงปี 2564–2566
ท้ายที่สุดชิบาตะระบุว่า สำนักงาน FSA ของญี่ปุ่นกำลังมองหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดการประชุม Japan–China Capital Market Forum ครั้งใหม่ ซึ่งเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานกำกับตลาดทุนและภาคอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ของทั้งสองประเทศ โดยครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อสามปีก่อน
อ้างอิง : bloomberg.com