โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“จีน” เสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย “ข้อพิพาทไทย–กัมพูชา” ดันสันติภาพชายแดน

การเงินธนาคาร

อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.21 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"จีน" เสนอตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย "ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา" ดันสันติภาพชายแดน ขณะที่ข้อพิพาทมุมเบยปะทุใหม่ นำไปสู่มาตรการตอบโต้ทางทหาร-เศรษฐกิจ-วัฒนธรรม ด้านกัมพูชายื่นเรื่องต่อศาลโลก

วันที่ 14 กรกฎาคม 2568 สำนักข่าว Khmer Times รายงานว่า จีนเสนอทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างกัมพูชาและไทย ท่ามกลางความตึงเครียดด้านพรมแดนและความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองประเทศหันหน้าเจรจาด้วยสันติวิธี

หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนสามารถให้การสนับสนุนอย่างสร้างสรรค์เพื่อช่วยคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยอย่างเป็นธรรมและสันติ ระหว่างการพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ปรัค สุคน เมื่อวันพฤหัสบดีที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในโอกาสเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) ครั้งที่ 58

ระหว่างการหารือ รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาได้อธิบายสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยระบุว่า แม้ทั้งสองประเทศมีจุดยืนต่างกันในข้อพิพาทดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายต่างมีเจตจำนงที่จะคลี่คลายสถานการณ์อย่างสงบ

หวัง อี้ ซึ่งเป็นสมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่า กัมพูชาและไทยควรพิจารณาข้อพิพาทนี้ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน โดยระบุว่า“เชื่อว่าทั้งสองประเทศจะสามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างเหมาะสม ด้วยจิตวิญญาณแห่งสันติภาพและมิตรไมตรีต่อเพื่อนบ้าน …จีนจะยังคงยืนหยัดในจุดยืนที่เป็นกลาง ยุติธรรม และตอบสนองต่อความต้องการของคู่กรณี พร้อมเล่นบทบาทที่สร้างสรรค์ในเรื่องนี้”

หวัง อี้ ได้ยืนยันจุดยืนเดียวกันนี้กับ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย ในวันเดียวกัน โดยแสดงความหวังว่าไทยและกัมพูชาจะจัดการปัญหาด้วยการเจรจาและจิตวิญญาณแห่งความเป็นมิตร เพื่อลดความตึงเครียดและฟื้นฟูเสถียรภาพ

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศไทยยืนยันว่าไทยมีความตั้งใจที่จะแก้ไขข้อพิพาทกับกัมพูชาผ่านช่องทางทวิภาคีภายใต้หลักความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี

ทั้งนี้ข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งยืดเยื้อยาวนานนับสิบปี ปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อกองกำลังทั้งสองประเทศเกิดเหตุปะทะกันที่พื้นที่มุมเบย เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม การเจรจาหลายครั้งหลังจากนั้นล้มเหลว และนำไปสู่การตอบโต้จากฝั่งไทย ทั้งการปิดชายแดนฝ่ายเดียว และการข่มขู่ทางทหาร เศรษฐกิจ และการทูต

กัมพูชาตอบโต้ด้วยการปิดด่านชายแดนทั้งหมด พร้อมห้ามนำเข้าสินค้าจากไทย เช่น ผักผลไม้ น้ำมัน แก๊ส แบนด์วิธอินเทอร์เน็ต และไฟฟ้า รวมถึงการแบนภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ไทยจากช่องทางสื่อในประเทศ

แม้ทั้งสองประเทศต่างเพิ่มกำลังทหารตามแนวชายแดน กัมพูชาตัดสินใจยื่นเรื่องข้อพิพาทบริเวณมุมเบย และพื้นที่วัดตาเหมือนน้อย ตาเหมือนใหญ่ และตราเครบี ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อขอวินิจฉัย

กัมพูชาระบุว่าข้อเรียกร้องอิงจากสนธิสัญญาฝรั่งเศส–สยาม ปี 1907 และแผนที่ฝรั่งเศสแนบสนธิสัญญา รวมถึงบันทึกความเข้าใจ (MoU 2000) ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมลงนาม แต่ไทยยืนยันว่าควรใช้กลไกทวิภาคีเดิม เพราะไทย “ไม่ยอมรับเขตอำนาจบังคับของศาลโลก”

นักวิชาการชี้บทบาทจีนอาจมีจำกัด แต่ช่วยลดความขัดแย้งได้ ชเง คิมลอง ประธานสถาบันวิสัยทัศน์เอเชีย กล่าวว่า จีนอาจมีบทบาทเพียงเล็กน้อยในการลดความตึงเครียดทางการทูต แต่ไม่สามารถเปลี่ยนจุดยืนของกัมพูชาที่ต้องการยื่นเรื่องต่อ ICJ ได้

“จากที่เห็น กัมพูชาเลือกใช้ช่องทางศาลโลก เพราะต้องการยุติปัญหานี้อย่างถาวร …อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าเป็นกัมพูชาที่ถูกละเมิดและยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า” ชเง คิมลอง กล่าว และกล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่จีนสามารถทำได้คือผลักดันให้ไทยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และร่วมกับกัมพูชาเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ

“จีนควรกระตุ้นให้ไทยหยุดกล่าวหากัมพูชาโดยไร้มูลความจริง ทุกคนเห็นชัดว่า กัมพูชาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม”

คิน เพีย ผู้อำนวยการสถาบันวิเทศสัมพันธ์กัมพูชา กล่าวว่า จีนตระหนักถึงบทบาทของตนในฐานะพันธมิตรใกล้ชิดกับทั้งไทยและกัมพูชา โดยระบุว่า “ผมเชื่อว่ากัมพูชาพร้อมรับทุกกลไกที่สันติ ตราบใดที่ไม่กระทบอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน”

“แม้จีนอาจไม่สามารถแก้ปัญหาได้โดยตรง แต่ก็สามารถช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการปะทะทางทหารในอนาคต …ในตอนนี้ ทุกประเทศล้วนต้องการเห็นไทยและกัมพูชากลับคืนสู่สันติภาพ”

ด้านเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็แสดงความพร้อมเป็นคนกลางในข้อพิพาทไทย–กัมพูชา หลังได้หารือกับนายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต ของกัมพูชา และแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย

นักวิชาการบางคนเห็นว่าฝรั่งเศสมีความเหมาะสม เพราะเป็นผู้ลงนามสนธิสัญญาในอดีตและเป็นผู้จัดทำแผนที่ในช่วงการปกครองอินโดจีน

ด้านยุก จาง ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลกัมพูชา กล่าวว่าสถาบันที่ควรทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยที่สุดคือ อาเซียน นี่คือโอกาสสำคัญที่อาเซียนจะเติบโตขึ้นเป็นองค์กรภูมิภาคที่สามารถจัดการปัญหาภายในของตนเองได้

ขณะเดียวกันดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน กล่าวในการเปิดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่า เขารู้สึกกังวลกับความตึงเครียดระหว่างไทย–กัมพูชา และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน

“แม้เหตุการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาจะน่าเสียใจ แต่ผู้นำอาเซียนส่วนใหญ่ต่างแสดงความห่วงใย และเราก็ไม่ลังเลที่จะติดต่อกับเพื่อนทั้งสองประเทศทันที เพื่อแสดงความเป็นห่วง และสนับสนุนความพยายามในการสร้างสันติภาพระยะยาว”

อ้างอิง : www.khmertimeskh.com

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สถานการณ์เศรษฐกิจอาเชียน ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

SHARGE เปิดเกมรุกสั่งชาร์จข้ามค่ายในแอปเดียว

23 นาทีที่แล้ว

FETCO ชี้ภาษี 25% ทางออกดีสุด แนะรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ-ปฏิรูปประเทศ

26 นาทีที่แล้ว

“รัสเซีย-จีน” หารือยกระดับสัมพันธ์ ท่ามกลางศึกยูเครน-สหรัฐ

47 นาทีที่แล้ว

“ตลาดหุ้นยุโรป” เปิดลบ หลังทรัมป์ขู่เก็บภาษีนำเข้าอียู–เม็กซิโก

56 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

สมัครฟรี! กรมการจัดหางาน รับสมัครฝึกงานญี่ปุ่น IM Japan อุตสาหกรรมการผลิต-ก่อสร้าง ฟรีค่าตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่าย

สยามรัฐ

GWM เตรียมเปิดตัว พร้อมประกาศราคา NEW GWM TANK 500 DIESEL รถยนต์ PPV ระดับพรีเมียม 24 กรกฎาคม 2568 นี้!

BTimes

เลื่อนไปก่อน! ค่าเหยียบแผ่นดิน นักท่องเที่ยว อยู่ในขั้นศึกษา คาดเก็บปี 69

Khaosod

SCB 10X ลงทุนใน Pokee AI-วงเงิน12ล้านดอลล์-หนุนพัฒนาAI

Manager Online

"EU "เตรียมผนึกกำลังประเทศถูก"สหรัฐฯขึ้นภาษี"

TNN ช่อง16

ขุนคลังเซ็นแล้ว ชงเข้า ครม.พรุ่งนี้ ชิงดำเก้าอี้ผู้ว่า ธปท. “วิทัย-รุ่ง”

เดลินิวส์

"คลัง"คาดปี 68 รัฐเก็บรายได้พลาดเป้า

TNN ช่อง16

SHARGE เปิดเกมรุกสั่งชาร์จข้ามค่ายในแอปเดียว

การเงินธนาคาร

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...