หุ้นไทยภาคบ่ายดิ่งหนัก 15.81 จุด นักลงทุนเทขายหุ้นใหญ่ หลังดัชนีพุ่งแรง 100 จุดช่วงสัปดาห์ก่อน
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคบ่าย ณ วันที่ 22 ก.ค.2568 เวลา 15.23 น.ปรับตัวร่วงลง 15.81 จุด หรือ 1.31% หรืออยู่ที่ 1,192.32 จุดมูลค่าการซื้อขาย 40,212.16 ล้านบาท
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์บล. ทิสโก้ ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การปรับตัวลงของตลาดหุ้นในภาคบ่ายวันนี้เป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่หุ้นขนาดใหญ่ เช่น DELTA และ AOT ได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงทำให้ในวันนี้เป็นตัวนำตลาดที่ฉุดดัชนีลงตามไปด้วย บวกกับตลาดได้ส่งสัญญาณทางเทคนิคเตือนมาสักระยะแล้วว่าอยู่ในภาวะ overbought หรือซื้อมากเกินไป นอกจากนี้ สัญญาณทางเทคนิคยังบอกว่า ตลาดมีการพักฐาน โดยดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,195 จุด เป็นจุดสูงสุดของวันนี้ไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่กว่าเมื่อวานได้ ซึ่งเป็นสัญญาณของการพักฐานและโมเมนตัมของราคาเริ่มแผ่วลง ทำให้นักลงทุนชิงขายทำกำไรออกมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีคำถามว่าการลดลงของตลาดเกี่ยวข้องกับการได้ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่หรือไม่ เพราะอาจจะมีความหากกังวลเรื่องผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยเร็วในอนาคตนั้น มองว่า ไม่น่าจะใช่ประเด็นนี้ เนื่องจากว่าหุ้นกลุ่มธนาคารไม่ได้ปรับตัวลง บางส่วนยังสามารถบวกได้ และผลประกอบการไตรมาส 2/68 ที่ออกมาดีเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นเชื่อว่าปัจจัยเรื่องผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ไม่น่าใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ตลาดปรับฐาน
"มองว่าการปรับฐานของตลาดในครั้งนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการตั้งรับหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งควรคัดเลือกหุ้นเป็นรายตัวที่มีการเติบโตของกำไรในไตรมาส 2/68 เช่น หุ้น CPALL CPAXT หรือ ADVANC ซึ่งกำไรยังสามารถเติบโตได้ดี เป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนที่อาจตกรถ หรือพลาดโอกาสในช่วงที่ตลาดปรับตัวขึ้นแรง รวมถึงผู้ที่ยังมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยน้อยอยู่ สามารถใช้โอกาสนี้ในการสะสมเพิ่มได้ ซึ่งการที่ตลาดมีการพักฐานลงแบบนี้ จะทำให้การปรับตัวขึ้นในอนาคตมีความมั่นคงมากขึ้น เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดได้ปรับตัวขึ้นมาเกือบ 100 จุด ซึ่งถือว่ารวดเร็วเกินไป หากไม่มีการพักฐานคนก็จะไม่กล้าเข้าซื้อ"