TESTA เตือน พลังงานสะอาดต้องปลอดภัย แบตเตอรี่ความจุสูงอาจเป็นภัยต่อชุมชน
ในงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2025 "ดร. พิมพา ลิ้มทองกุล" นายกสมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (Thailand Energy Storage Technology Association : TESTA) ได้ขึ้นเวที บรรยายหัวข้อ “Accelerating Net Zero: Digital Innovation and Safety in Energy Storage for Sustainable Future” โดยย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานดิจิทัล และบทบาทของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในยุค Net Zero โดยชี้ว่า “ระบบกักเก็บพลังงาน” ไม่ใช่เพียงตัวเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนในการรับมือกับวิกฤตพลังงานและสภาพภูมิอากาศ
โลกต้องเร่งลดอุณหภูมิ ก่อนถึงจุดวิกฤติ
ดร. พิมพา อ้างถึงข้อมูลจากยุโรปที่อุณหภูมิพุ่งสูงแตะ 38 องศาเซลเซียสที่หอไอเฟล พร้อมระบุว่าโลกได้บรรลุขีดจำกัด 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว และอาจขยับไปแตะ 2 องศาภายในไม่กี่ปีข้างหน้า หากไม่มีมาตรการจัดการอย่างจริงจัง โดยระบุว่าเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 คือแนวทางสำคัญในการป้องกันหายนะจากภาวะโลกร้อน
พลังงานหมุนเวียนและระบบกักเก็บคือหัวใจ
รายงานขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดว่า ภายในปี 2025 แหล่งพลังงานหลักของโลกจะมาจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งต้องอาศัย “ระบบกักเก็บพลังงาน” เพื่อเชื่อมโยงการผลิตและการใช้งาน ระบบกักเก็บพลังงานมีความสำคัญต่อการลดการปล่อยคาร์บอน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวมีบทบาทในหลายภาคส่วน เช่น การบริหารกริดไฟฟ้า การเก็บพลังงานระดับชุมชน หรือการเสริมกำลังไฟให้กับอาคารผ่านรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยเทคโนโลยี Vehicle-to-Grid (V2G)
ทิศทาง Net Zero ของไทย : ชัดเจนและท้าทาย
ทิศทาง Net Zero ของประเทศไทยและบทบาทของระบบกักเก็บพลังงาน ตามแผน Net Zero ของประเทศไทยที่จัดทำโดยกระทรวงพลังงานและองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มีเป้าหมายสู่ Net Zero ภายในปี 2065 แผนนี้รวมถึงการใช้งานระบบกักเก็บพลังงานในหลายส่วน เช่น
- นโยบาย EV30@30 ภายในปี 2030
- เป้าหมาย 69% ของรถยนต์ใหม่เป็น EV ภายในปี 2035
- สัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 50% ภายในปี 2050
- แผน PDP ใหม่ ที่บรรจุระบบกักเก็บพลังงานไว้เป็นหัวใจหลัก
ดร. พิมพา ย้ำว่าแม้ไฟฟ้าดับเพียง 5 วินาทีในสเปน ก็แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบพลังงาน ดังนั้นระบบกักเก็บพลังงานจึงเป็น “เทคโนโลยีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”
ดิจิทัล-ความปลอดภัย-ความยั่งยืน
ความท้าทายและการพัฒนา แม้จะมีการเติบโตสูงถึง 6 เท่าในไม่กี่ปีข้างหน้า แต่คำถามสำคัญคือ "จะทำให้ยั่งยืนได้อย่างไร?"
"ดร. พิมพา" ชี้ว่าการผลิตที่ยั่งยืนหมายถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดของเสีย, การใช้ประโยชน์จากวัสดุ พลังงาน และทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด, และการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน
ซึ่งการใช้ระบบดิจิทัล สามารถช่วยได้อย่างมาก การลดของเสียจากการผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเริ่มต้นจากเกือบ 90% ในช่วงแรก และยังคงมี 8-9% ในปีที่ห้า สามารถทำได้ผ่านการตรวจสอบไฟฟ้าในสายการผลิต, การใช้เซ็นเซอร์, การทำให้เป็นอัตโนมัติ, การตรวจสอบ, และการวัดผล
นอกจากนี้ ยังสามารถใช้การเพิ่มประสิทธิภาพในระบบไฟฟ้า เช่น การเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) อัจฉริยะ เพื่อจัดการโหลด ความต้องการ และการผลิตพลังงาน รวมถึงการจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy Management) เพื่อปรับสมดุลการใช้ระบบกักเก็บพลังงาน
ภัยพิบัติต่อชุมชน
"ดร. พิมพา" กล่าวว่า ด้วยการที่เทคโนโลยีมีราคาถูกลงและมีการติดตั้งในหลายสถานที่ โดยตู้คอนเทนเนอร์แบตเตอรี่ขนาด 20 ฟุต สามารถกักเก็บพลังงานได้เพิ่มขึ้นจาก 1-2 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh) เป็น 5-6 เมกะวัตต์ชั่วโมง ทำให้มีพลังงานจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ขนาดเล็ก ซึ่งหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม อาจกลายเป็นภัยพิบัติสำหรับชุมชนได้
ดังนั้น ความปลอดภัยจึงเป็นกุญแจสำคัญ สู่การนำระบบกักเก็บพลังงานมาใช้เพื่อเป้าหมายพลังงานสะอาดและ Net Zero มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่น มาตรฐานของจีน GB 38031-2025 ที่กำหนดว่าจะต้องไม่มีไฟไหม้ การระเบิด หรือควันจากการปล่อยแบตเตอรี่เมื่อมีการชาร์จเกิน ช็อตเซอร์กิต หรือคายประจุ การตรวจสอบอัจฉริยะ, การใช้เซ็นเซอร์, การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน ยังเป็นสิ่งสำคัญในการจัดการสุขภาพของแบตเตอรี่ใน EV หรือระบบกักเก็บพลังงาน (ESS)
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเคมีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยขึ้น เช่น แบตเตอรี่โซเดียมไอออนและแบตเตอรี่โซลิดสเตท รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์และสารเคมีดับเพลิงที่ปลอดภัยภายในชุดแบตเตอรี่
เครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่อาเซียน
เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัย สมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทยได้จัดตั้ง “เครือข่ายความปลอดภัยแบตเตอรี่อาเซียน” (ASEAN Battery Safety Network) ในปีนี้ โดยมีสมาชิกจากทั้ง 10 ประเทศในอาเซียน มุ่งเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัย การวิจัย และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน เพื่อการใช้และผลิตแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงานที่ปลอดภัยและยั่งยืนในระดับภูมิภาค