เตือนคนชอบนอนดึก! งานวิจัยชี้ “นอนหลังเที่ยงคืนครึ่ง” เสี่ยงเป็นโรคตับแข็งเพิ่มกว่า 2 เท่า
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Health Data Science เผยว่า ผู้ที่มีพฤติกรรมเข้านอนหลังเวลา 00.30 น. มีความเสี่ยงเป็นโรคตับแข็งสูงกว่าผู้ที่นอนช่วง 23.00–23.30 น. ถึง 2.57 เท่า โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและมหาวิทยาลัยแพทย์ทหารของจีนได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลการนอนหลับของประชากรผู้ใหญ่จำนวน 88,461 ราย ต่อเนื่องนานถึง 6.8 ปี
ข้อมูลดังกล่าวยังชี้ว่า นอกจากโรคตับแข็งแล้ว การนอนไม่เป็นเวลา หรือเข้านอนดึกเป็นประจำ ยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น โรคพาร์กินสัน โรคหัวใจ เบาหวานชนิดที่ 2 ภาวะอ้วน และโรคของต่อมไทรอยด์
ศาสตราจารย์เซิ่งเฟิง หวัง (Shengfeng Wang) หัวหน้าทีมวิจัย ระบุว่า “การค้นพบครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของ เวลาในการเข้านอน ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อสุขภาพ ไม่ใช่แค่จำนวนชั่วโมงการนอนเท่านั้น” พร้อมชี้ว่า การนอนดึกส่งผลกระทบต่อ นาฬิกาชีวิต (Circadian rhythm) ซึ่งสัมพันธ์กับระบบภูมิคุ้มกัน การอักเสบในร่างกาย และความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
ด้าน ดร.อภินาฟ ซิงห์ (Dr. Abhinav Singh) ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับจาก Sleep Foundation (แม้จะไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัย) เสริมว่า ช่วงเวลาเข้านอนที่เหมาะสมที่สุดคือ ระหว่าง 22.00 – 23.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาทองของ “การนอนหลับแบบ non-REM” ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นฟูร่างกายและการซ่อมแซมเซลล์
นอกจากนี้ ดร.ซิงห์ยังแนะนำให้ทุกคนพยายามเข้านอนและตื่นในเวลาที่ใกล้เคียงกันทุกวัน เพื่อคงจังหวะชีวภาพของร่างกายให้สมดุล ซึ่งจะช่วยส่งเสริมสุขภาพในระยะยาวได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา สำนักข่าวSoha