"ฮุน เซน" โต้ละเมิดรัฐธรรมนูญกัมพูชา เหตุบัญชาการกองทัพ
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2568 ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เปิดเผยว่า วันแรกในการประชุมฝ่ายเลขาฯ ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ซึ่งในระหว่างการประชุม ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาต่างแสดงความมุ่งมั่นที่จะยุติความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน
พร้อมทั้งระบุว่า การประชุมครั้งนี้ซึ่งฝ่ายกัมพูชาเป็นประธาน จะครอบคลุมถึงข้อตกลงเบื้องต้น สำหรับการจัดตั้งคณะผู้แทนทูตทหารอาเซียนเพื่อการตรวจสอบ ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย และคาดหวังว่าการประชุมในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จด้วยดี
ขณะที่สำนักข่าวเฟรช นิวส์ สื่อกัมพูชา รายงานว่า เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำกัมพูชา ซึ่งลงพื้นที่ดูความเสียหายใน จ.อุดรมีชัย และเสียมเรียบ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา มองว่า การประชุม GBC เป็นก้าวสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและสร้างเสถียรภาพขึ้นใหม่
ส่วนความเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความบนเฟซบุ๊ก ตอบโต้กรณีที่มีคนไทยกล่าวหาว่าทำผิดรัฐธรรมนูญเพราะร่วมบัญชาการกองทัพ ว่า ไม่ว่าตนจะเป็นผู้นำประเทศหรือเป็นแค่พลเมือง ก็มีสิทธิจะต่อสู้กับโจรที่รุกรานประเทศ
ส่วนเรื่องการบังคับบัญชากองทัพนั้น สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า พระมหากษัตริย์กัมพูชาทรงมอบหมายให้ตนทำงานด้านการทหาร พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมถึงกลัวที่ตนทำงานกับกองทัพ จนต้องเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าไม่ได้แทรกแซงงานของนายกรัฐมนตรี และในกัมพูชาไม่มีเรื่องการแข่งขันอำนาจกันระหว่างทหารกับรัฐบาล โดยขอให้ประชาชนกัมพูชาเชื่อมั่นในความสามารถของตนในการช่วยงานรัฐบาลในด้านการทหาร
ด้านสำนักข่าวแคมโบเดียเนส รายงานว่า ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดจากมูลนิธิเพื่อมนุษยธรรมโกลเดนเวสท์ และองค์การความช่วยเหลือแห่งประชาชนชาวนอร์เวย์ ตรวจสอบระเบิด MK‑84 ที่ยังไม่ระเบิดที่พบใน จ.อุดรมีชัย พบว่า ระเบิดลูกดังกล่าวถูกผลิตขึ้นในปี 1996 และอาจเป็นระเบิดที่กองทัพไทยจัดซื้อจาก Israel Military Industries (IMI) ดังนั้นจึงไม่ใช่ระเบิดเก่าจากยุคสงครามในช่วงทศวรรษ 1970 ตามที่ฝ่ายไทยกล่าวอ้าง
อ่านข่าว
เปิดข้อมูล "ใคร" เป็นแหล่งเงินหนุนกัมพูชารบไทย