HBD ฮุนเซน – ลอบสังหารผู้นำ Vs เขมรทิ้งศพ
วันเกิด 73 ปี “ฮุนเซน” ผู้มีบารมีแห่งเขมร พ่อ “นายกฮุนมาเนต” ปีนี้อาจต่างจากปีที่ผ่านมา กับคำอวยพรโดยเฉพาะจาก “คนไทย” เพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์ศึกสงครามระหว่างเขมร-ไทย แบบที่มีการตายเจ็บจริงทั้งกำลังพล และพลเรือนตั้งแต่ 24 ก.ค.ที่เขมรภายใต้การบัญชาการรบของ “ฮุนเซน”
เปิดฉากยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โจมตีไทยตลอดแนวชายแดน แบบจงใจยิงเป้าหมายพลเรือน โรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนชุมชน ในพื้นที่ จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 36 ราย เสียชีวิต 15 ราย ซึ่งผู้เสียชีวิต 1 ในนั้นเป็นเด็กอายุเพียง 8 ปี ต้องอพยพ 150,000 คน
แม้จะอยู่ระหว่างพักรบเจรจา “หยุดยิงแต่ไม่หยุดยิง”ที่เจรจากันไปตั้งแต่ 28ก.ค. จนต้อง“เปิดโต๊ะเจรจา”อีกครั้งในระดับทวิภาคี ผ่านเวที GBC ที่มีสหรัฐและจีนขอเข้าร่วมสังเกตการณ์ ที่มาเลเซีย (4-7ส.ค.) หากแต่สถานการณ์ “หน้างาน”ของไทย-เขมร แม้ไม่มีการทำสงครามด้วยกำลังอาวุธ แต่ยังมีการปะทะกันด้วย“สงครามข่าวสาร” ในขณะที่ ฝ่ายความมั่นคงไทย ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวาน ฝ่ายเขมรยังคงมีการเคลื่อนย้ายกำลังอาวุธในหลายจุดยุทธศาสตร์สำคัญ
มี “โดรนเขมร” จำนวนมาก ลักลอบบินเข้ามายังฝั่งไทยในจุดยุทธศาสตร์ความมั่นคงชั้นใน เช่นคลังอาวุธ สนามบิน ที่ตั้งอยู่พื้นที่หลายจังหวัด ทำให้มีการเตือนจากทั้งกองทัพภาคที่2 และกองทัพภาคที่ 1 ให้ส่วนราชการพื้นที่ และ ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา ระวัง “โดรน”จากฝ่ายตรงข้าม รวมถึงให้กองบินพลเรือนมีการประกาศระงับการบินโดรนในประเทศไทยช่วงนี้
เรียกว่า “ฮุนเซน”ที่เมื่อวาน(4ส.ค.)เพิ่งได้รับ “ของขวัญ”เป็น “อำนาจ”สั่งการสูงสุดในศึกไทย-เขมร จาก “กษัตริย์สีหมุนี”ที่มีพระราชโองการ "มอบอำนาจ”การสั่งการร่วมกับ “ฮุนมาเนต”
ในการรบกับกองทัพไทยที่เป็นภัยคุกคามเขมร ยังไม่หยุดที่จะทำสงครามกับไทย ที่บางฝ่ายวิเคราะห์เป็นสัญญานเตือน หลังการเจรจาGBC วันที่ 7ส.ค.อาจเกิดสถานการณ์ขึ้น
อย่างที่ “วีระ สมความคิด”ที่เกาะติดสถานการณ์เขมรมา20ปี โพสFB ว่า กรณีกษัตริย์ มอบอำนาจ การสั่งการรบให้ “ฮุนเซน” อาจเป็นสัญญาน เขมรเตรียมทำสงครามแตกหักกับไทย อาจจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเจรจาวันที่ 7 ส.ค. กองทัพไทย อย่าประมาท ต้องเตรียมตัวรับศึกครั้งใหม่ เชื่อว่า “ฮุนเซน”จะเทหมดหน้าตัก เชื่อว่าการรบครั้งใหม่ จะเกิดการสูญเสียอย่างหนักด้วยกันทั้งสองฝ่าย หากเขมรเป็นฝ่ายเปิดการรบครั้งใหม่ขึ้นมาอีก กองทัพไทยก็มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะป้องกันตนเองอย่างเต็มที่
ต้องทำลายขีดความสามารถในการรบของเขมรให้หมดสิ้น อย่างน้อยอย่าให้มีศักยภาพมารังแกไทยอีก ไม่ต่ำกว่า 20 ปี ในเมื่อเขมรมันต้องการให้จบในรุ่นเรา ก็ขอให้กองทัพไทยสนองตอบความต้องการของเขมรให้สุด
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของกองทัพไทย แม้วันนี้(5ส.ค.)จะได้ “ของขวัญ”เพื่อนำมาเสริม เขี้ยวเล็บกองทัพหลังจากนี้ จาก ครม.รัฐบาลไทย ที่เพิ่งอนุมัติ ทั้งเรือฟรีเกต1ลำ 1.75 หมื่นล้าน และ เครื่องบินขับไล่ กริฟเพ่น Saab JAS 39 Gripen จำนวน 4 ลำ ในขณะที่ฝั่งเขมรกำลังรณรงค์ แคมเปญโซเชียลปลุกกระแสชาตินิยม ให้คนเขมรบริจาคคนละ 3 ดอลลาร์ ซื้อเครื่องบินรบใหม่ 8 ลำ
ให้กองทัพเขมร สู้ศึกสยาม นอกจากนี้ ครม.ไทย ยังมีข้อสั่งการจาก “รักษาการนายกอ้วน ภูมิธรรม” เตรียม เอาคืนเขมร ด้วยการ ฟ้องอาญา-แพ่ง ต่อศาลอาญาระดับโลก ฐานยิงพลเรือนไทย
โดยเอาผิดไปยังผู้สั่งการอย่าง “ฮุนเซน” ด้วย
ขณะที่แล้วเดียวกัน กองทัพไทยได้ปฏิบัติการ “สงครามข่าวสาร”การแยก “ผู้นำเขมร” อย่าง “2พ่อลูกตระกูลฮุน”จาก “ประชาชน”อย่างที่ “เพจกองทัพไทย”พร้อมใจ โพสต์ ข้อความ ระบุว่ากองทัพไทย ประณาม กัมพูชาปล่อยทิ้งศพทหารเน่าคาพื้นที่การรบ ไร้ซึ่งมนุษยธรรม และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ศพของผู้กล้าที่ควรได้รับเกียรติกลับถูกทอดทิ้ง อย่างน่าเวทนา
ครอบครัวต้องเผชิญความเจ็บปวด โดยไร้แม้แต่โอกาสกล่าวอำลาครั้งสุดท้าย “เกียรติศักดิ์ของทหาร คือเกียรติยศ และความภูมิใจของชาติและแผ่นดิน” เราจึงขอเรียกร้อง ให้รัฐบาลและกองทัพกัมพูชาตระหนักถึงหน้าที่ตามหลักสากล และแสดงความรับผิดชอบต่อทหารของตนเอง อย่าคิดแค่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าของผู้นำมากกว่าทหารผู้ยอมพลีชีพในสนามรบ
เช่นเดียวกับคณะที่ไปเจรจาทวิภาคีที่มาเลเซีย ที่ฝ่ายไทยได้แสดงจุดยืนชัดเจน ต่อประเด็นด้านมนุษยธรรม โดย “พล.อ.ณัฐพล”ได้ยกข้อเรียกร้องสำคัญ ให้รัฐบาลกัมพูชา เก็บศพทหารเขมรที่เสียชีวิตในแนวหน้ากลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างสมเกียรติ ในขณะที่ฝ่ายไทยยังดูแลเชลยศึกเขมรอย่างดี มีน้ำใจแม้แต่กับศพ ยังส่งคืนอย่างสมเกียรติ แต่ฝ่ายเขมรกลับนิ่งเฉยและทอดทิ้งร่างทหารของตนให้ไร้ค่า การกระทำเช่นนี้ สะท้อนถึงความไม่รับผิดชอบและไม่ให้เกียรติคนของตัวเองอย่างร้ายแรง
ส่วนฝั่งเขมรในวันเกิด “ฮุนเซน”วันนี้ ก็มีการปฏิบัติการสงครามข่าวเกิดขึ้นเช่นกัน โดย สำนักข่าว FRESH NEWS ของกัมพูชา สื่อกัมพูชา มีการรายงาน อ้างแหล่งข่าวกรองต่างประเทศ ว่าไทยวางแผนลอบสังหาร “ฮุน เซน-ฮุน มาเนต” ใช้ระเบิดนำวิถี-เครื่องบิน AT-6 TH โดยอ้างว่า ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. กองทัพไทยประเมิน หากไม่สามารถเข้าควบคุม8พื้นที่พิพาทได้ กองทัพอากาศไทย
จะปฏิบัติการลอบสังหารผู้นำเขมร จากฐานทัพอากาศในจังหวัดตราด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
โดยระบบป้องกันภัยทางทะเลของกัมพูชา การปฏิบัติการดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับข้อมูลข่าวกรองที่รวบรวมได้ จากภายในประเทศกัมพูชา รวมถึงพิกัดที่อยู่อาศัยที่แม่นยำของทั้ง สมเด็จเดโช ฮุน เซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ระเบิดนำวิถีด้วยระบบ GPS เพื่อกำจัดผู้นำทั้งสองโดยตรง อย่างไรก็ตามสำนักข่าวเขมรแห่งนี้ได้อ้างถึง “นายนิกรเดช พลางกูร”
อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ที่ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
เช่นเดียว กับ “กองทัพอากาศ”ที่ออกมาโพสFB วันนี้ ยืนยันเรื่องนี้ เป็นข่าวปลอมจากเขมร โดยยืนยัน กองทัพอากาศยึดมั่นในหลักคุณธรรมและกฎหมายสากล ทุกปฏิบัติการทางอากาศดำเนินการ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเอง ตามกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรา (51) และเป็นไปตามกฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดย ยึดหลักความชอบธรรมในการป้องกันตนเอง.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews