“ประเสริฐ” ยัน ไทยมั่นคงไซเบอร์ ระบบไม่เสียหาย เฝ้าระวังกัมพูชาเจาะข้อมูล
“ประเสริฐ” ยัน ไทยมั่นคงไซเบอร์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมจับมือฝ่ายมั่นคงด้านการทหาร พร้อม 24 ชม.เฝ้าระวัง สู้ข่าวปลอมกัมพูชา พร้อมเผยหลังประชุมน้ำท่วมจากพายุวิภา สั่งบูรณาการรับมือน้ำตลอดฤดูฝน
เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการตอบโต้ข่าวปลอมของทางกัมพูชา ว่า ขณะนี้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมที่ดีอีได้เตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมง ในการเฝ้าระวังข่าวปลอม โดยเฉพาะข่าวปลอมกรณีปัญหาไทย-กัมพูชา เราทำงานใกล้ชิดกับฝ่ายความมั่นคงด้านการทหาร ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข้อเท็จจริงจากทางราชการเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามต่อมีรายงานหรือไม่ว่าไอโอ (IO) ของกัมพูชาเข้ามาเจาะข้อมูลของทางการไทย นายประเสริฐ ตอบว่า เท่าที่ทราบได้รวบรวมข้อมูลทีมงานแฮกเกอร์ของกัมพูชาที่มีการโจมตีประเทศไทย ขณะนี้เราได้เฝ้าระวังอยู่แล้ว และที่มีการรายงานว่าโจมตีด้านโน้นด้านนี้ เช่น การโจมตีแบบที่มีการส่งข้อความเข้ามาจำนวนมากเพื่อทำให้ระบบหน่วง เรื่องนี้ยังไม่ปรากฏว่าไทยได้รับความเสียหาย มีเพียงเฉพาะข่าวปลอมที่เกิดขึ้น ซึ่งเราได้ทำการปิดกั้นอยู่ตลอดเวลาขอยืนยันว่าในส่วนที่ทำให้ระบบเสียหายยังไม่มี ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้เฝ้าระวังตลอดและทำงานร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในการติดตามอย่างใกล้ชิดและพร้อมตอบโต้ทันที
ส่วนคำถามว่าตอนนี้ระบบไซเบอร์ของไทยยังปลอดภัยมีการเฝ้าระวังอยู่ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ ขอยืนยันว่ามีการดำเนินการปิดช่องทางที่สำคัญ โดยปิดช่องทางไม่ให้ข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ฝ่ายตรงข้ามเข้ามา เราดำเนินการอยู่ไม่ให้เขาเจาะข้อมูลได้ ซึ่งขณะนี้เรายังมีความมั่นคงและปลอดภัยอยู่ ยังไม่ได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้ ขอให้มั่นใจได้ว่ารัฐบาลมีความห่วงใย และต้องให้ประชาชนได้บริโภคข้อมูลข่าวสารที่มีความถูกต้องเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนให้สัมภาษณ์ เมื่อเวลา 08.45 น. ที่ผ่านมา นายประเสริฐ ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) แถลงข่าวหลังการประชุม ถึงกรณีที่ปัจจุบันหลายพื้นที่ของประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุวิภา ซึ่งส่งผลให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในลุ่มน้ำต่างๆ ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระหว่างวันที่ 21-28 กรกฎาคม 2568 รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานผ่านศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ทั้ง 4 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออกและลุ่มน้ำบางปะกง จ.ระยอง ลุ่มน้ำโขงเหนือ จ.เชียงราย ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย และลุ่มน้ำยม-น่าน จ.สุโขทัย เพื่อบริหารจราจรน้ำข้ามลุ่มน้ำและข้ามจังหวัด
พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังได้สั่งการให้บูรณาการบริหารจัดการในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและเขตเศรษฐกิจใน จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงให้ประสานการบริหารระดับน้ำกับพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไปจนถึงเขื่อนพระรามหก และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับน้ำฝนระลอกใหม่ในเดือนสิงหาคม-กันยายน และลดความเสี่ยงจากสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ตอนล่างของลุ่มน้ำ
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เฝ้าระวังสถานการณ์แม่น้ำโขงอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเขื่อนน้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว ได้เพิ่มการระบายน้ำอย่างฉับพลัน จาก 2,500 เป็น 4,500 ลบ.ม. ต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 0.5-1 เมตร เราเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบริหารจัดการสถานการณ์ร่วมกันอย่างเข้มแข็งตลอดช่วงฤดูฝนปีนี้
“ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในทุกพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเร็วที่สุด”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ประเสริฐ” ยัน ไทยมั่นคงไซเบอร์ ระบบไม่เสียหาย เฝ้าระวังกัมพูชาเจาะข้อมูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับสายลับกำมะลอ หนุ่มกัมพูชาแต่งทหารยศร.ท. โพสต์เฟซบุ๊กยุยง-ปั่นป่วน
- กัมพูชาดิ้น เชิญทูตต่างชาติตรวจสอบชายแดน ไทย-กัมพูชา ยันไม่ได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
- ภารกิจช่วยแนวหน้า 19 ทหารพราน เจาะเส้นทางหาที่ตั้ง BM-21 ก่อนขาดการติดต่อ
- “โรม” ยืนยันพรรคประชาชนสนับสนุนกองทัพปกป้องประเทศ ขออภัยสส. แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม
- มีข้อตกลงไม่ถึง 24 ชม. “กัมพูชา” ละเมิดอีก กต. แถลงการณ์เรียกร้องหยุดยิงทันที
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath