โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“รังสิมันต์” มองช้าไป เชิญทูตไปดูจุดปะทะพรุ่งนี้

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

รัฐสภา 31 ก.ค.- “รังสิมันต์” ชี้ รัฐเชิญทูตไปดูจุดปะทะ 1 ส.ค.ช้าไป บอกเหมือนไปแก้ตัว เหตุไปทีหลังกัมพูชา ทำเสียโอกาสเห็นภาพจริง ทั้งผู้อพยพและความเสียหาย ซัด รัฐบาลตัวปัญหาหมดความชอบธรรมอ่อนบริหาร แนะ รมว.กต. เคลื่อนไหวให้เร็วกว่านี้ ไม่ใช่เครมว่าอยู่นิวยอร์กก่อนเขมรแต่ไม่มีผลงาน

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีร่ยชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯ วันนี้ (31 ก.ค.) ว่า เป็นการติดตามเรื่องปัญหาชายแดนไทย -กัมพูชา ซึ่งมีหลายมิติ ตอนนี้เรื่องการหยุดยิงน่าจะเป็นผลแล้ว แต่ก็ต้องสิ่งสำคัญก็ต้องคิดถึงโจทย์ระหว่างประเทศเพราะพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นห่วง ซึ่งในเรื่องการต่อสู้การยุทธวิธีทางการทหารไม่มีใครห่วงแต่เมื่อพูดถึงแนวทางที่จะรับมือ กับวิธีการต่างๆ ที่กัมพูชาได้มีการดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการพาผู้ช่วยทูตทหาร สื่อต่างชาติ ไปลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ตรงกันข้ามประเทศไทย กลับจะพาไปลงพื้นที่ในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งหลายฝ่ายเป็นห่วงตรงกันว่าจะช้าไปหรือไม่

พร้อมยกตัวอย่างว่าทางรัฐบาลพาสื่อต่างชาติและทูตประเทศต่างๆไปลงพื้นที่ตามแนวชายแดน ถ้าลงพื้นที่วันนี้หรือก่อนหน้านี้ คิดว่าทุกคนจะได้เห็นบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นการอพยพ และได้พูดคุยกับประชาชนจำนวนมากว่ารู้สึกอย่างไรโดยผ่านล่ามไปแปลภาษาด้วย เพื่อเห็นภาพจริง แต่เมื่อจะไปวันที่ 1 สิงหาคม ตนเชื่อว่าประชาชน ที่เป็นห่วงบ้านของตนเอง ห่วงวัวควาย และสัตว์เลี้ยงอื่นๆเขาก็พยายามทยอยกลับบ้าน ดังนั้นภาพที่จะลงไปเห็นก็ต้องยอมรับว่า ความล่าช้าของเราทำให้เสียโอกาส ในการที่จะทำให้ต่างชาติได้เห็นภาพว่าการกระทำของกัมพูชา มีเป้าหมายโจมตีพลเรือนชัดเจน ดังนั้น นี่คือความเสียหายของความล่าช้าของรัฐบาล ซึ่งในที่ประชุมกมธ. จะมีการพูดคุยกันเพื่อสอบถามถึงแนวทางของรัฐบาล ว่าจะมีวิธีการดำเนินการอย่างไร ต่อวิธีการของกัมพูชา ที่ดำเนินการระหว่างประเทศในทุกรูปแบบทุกขั้นตอน แม้กระทั่งประธานสภาของกัมพูชาก็มีการไปพูดในเวทีสำคัญ ตนคิดว่านี่คือสิ่งที่เราไม่ได้มีการเตรียมการ หรือดำเนินการระหว่างประเทศยังดีไม่พอ

ส่วนที่กัมพูชาสื่อสารบิดเบือนความจริงนั้น นายรังสิมันต์ ยังกล่าวต่อว่าการที่เรารบกับกัมพูชาตามแนวชายแดนที่มีการปะทะกัน เป็นสิ่งที่ไม่มีชาติอื่นมารู้ด้วย ว่ากัมพูชาเป็นอย่างไร เขาไม่ได้มาฟังหรือเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจ ดังนั้นการที่เราจะมีความชอบธรรมในเวที ระหว่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้น การถ่ายทอดเรื่องราวข้อเท็จจริงต่างๆ โดยที่เราไม่ได้บิดเบือนเนื้อหาหรือบิดเบือนข้อเท็จจริง แต่สิ่งที่เรากำลังทำคือ ต้องการให้ประชาคมโลกได้เห็นในสิ่งที่กัมพูชาทำ มีลักษณะอย่างไร เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ากัมพูชา จะดำเนินการในลักษณะที่พูดง่ายๆว่า ทำตัวเองเป็นเหยื่อ และเมื่อเป็นแบบนี้ เราเองจึงไม่สามารถที่จะปล่อยให้กัมพูชา เล่าเรื่องของเขาเพียงลำพัง เราจึงต้องพยายามทำอย่างรวดเร็วแต่ปัญหาคือ เมื่อกัมพูชาชิงเล่าก่อนฝ่ายที่ออกมาพูดทีหลังก็อาจจะถูกกล่าวหาได้ว่า เป็นแค่การแก้ตัว

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับว่าค่อนข้างเสียหาย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วสถานทูตทั่วโลกตั้งอยู่ในประเทศไทย มากกว่า กัมพูชา ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ กับประเทศต่างๆมานาน แต่ต้องยอมรับว่าตั้งแต่รัฐบาล ปี 54 เป็นต้นมา บทบาทไทยในเวทีโลกลดลงเรื่อยๆ วันนี้เห็นผลชัดเจนว่า เผชิญเราต้องเผชิญหน้ากับประเทศที่เล็กกว่าอย่างกัมพูชา กลายเป็นว่าประเทศไทยเสียเปรียบในหลายๆด้านการสู้รบทางการทหารตนเชื่อว่าเราสู้ได้ แต่การสู้รบทางการต่างประเทศเราต้องเร่งสปีดให้มากกว่านี้” นายรังสิมันต์กล่าว

ส่วนเรื่องการสื่อสารของรัฐบาลที่มีความล่าช้านั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการก็จะมีการพูดคุยในเรื่องนี้ด้วย เพราะเราอยากเห็น การสื่อสารของรัฐบาลที่เร็วกว่านี้ไม่ใช่เร็วเฉพาะคนไทย แต่ต้องเร็วกับเวทีโลกด้วยซึ่งเราต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ยังขาดตกบกพร่อง จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ทั้งที่ เรามีเหตุการณ์หลายอย่างที่สามารถใช้โอกาสที่จะทำให้เวทีโลกได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการวางกับดักระเบิด การโจมตีเป้าหมายพลเรือน หรือแม้กระทั่งหลักฐานการปะทะกัน ที่เรามีข้อมูลและหลักฐานว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ไม่ได้เอาไปสิ่งเหล่านี้เราไม่ได้เอาไปใช้สุดท้าย ประชาคมโลกเขาก็คิดว่า เราไปโจมตีกัมพูชาก่อน

“ส่วนหนึ่งเขาคิดว่าประเทศไทยใหญ่กว่าจึงคิดว่าเราไปโจมตีกัมพูชา ซึ่งเรื่องเหล่านี้เราพูดกันมาตั้งแต่แรกๆก่อนที่จะมีการปะทะกันแต่ น่าเสียดายที่ การขยับเขยื้อนในการรับมือ แทบจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง” นายรังสิมันต์กล่าว

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่ต้องพูดคุยคือเรื่องคลอเซ็นเตอร์ เพราะวันนี้ เราต้องพยายามเปิดแนวรบใหม่ๆไม่ใช่แนวรบเฉพาะการสู้รบเท่านั้น แต่เราต้องคิดว่าเรื่อง คลอเซ็นเตอร์ เป็นหนึ่งในเรื่องที่เราสามารถ หยิบเอามาทำให้เป็นผลงานของประเทศไทยได้และ เป็นผลดีต่อประชาคมโลกโดยเราต้องทำให้ประชาคมโลกเห็นว่ากัมพูชามีรายได้หลักมาจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งส่งผลเสียต่อโลก เราจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ซึ่งจะส่งผลต่อหม้อข้าวของแกนนำหรือผู้ที่มีอำนาจของกัมพูชาด้วย แม้กระทั่งกรณีที่มีการสังหารนักการเมืองกัมพูชาในประเทศไทย เป็นกรณีที่เราสามารถหยิบ มาใช้ได้ แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลพูดเรื่องนี้น้อยมาก

ทั้งนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีรัฐบาลที่อ่อนแอหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ปัญหาของรัฐบาลอย่างหนึ่งที่มีนัยยะสำคัญเรื่อง ของความชอบธรรมต้องยอมรับว่าสังคมไม่เชื่อมั่นรัฐบาลแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคประชาชนจึงเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งแล้วมีรัฐบาลที่มีความชอบธรรมต่อไป เพราะความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลจึงมีคำถามออกมามากมาย แม้กระทั่งกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัยรักษาการนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับนายกกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซีย ก็มีคำถามจากคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ไว้ใจในเรื่องของ การเจรจาดังกล่าวซึ่ง ตนคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ต้องยอมรับว่าคนที่ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นคือรัฐบาลเอง

เมื่อถามถึงกรณีที่ว่าที่เอกอัครราชทูตของสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ว่าสู้รบกันไปก็ไม่มีประโยชน์ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐได้ ซึ่งคำพูดนี้จะทำให้ ไทยมีปัญหาในเวทีโลกหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องยอมรับและเชื่อว่าคำพูดนี้คงจะ เสียดแทง ความรู้สึกของคนไทยแน่นอน และต้องยอมรับว่าข้อเท็จจริงที่เราเห็นและข้อเท็จจริงที่นานาชาติเห็นต้องช่วยกันกระตุ้นให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่ในการสื่อสารกับทั่วโลกให้ดีกว่านี้ เราปล่อยให้แนวความคิดแบบนี้เกิดขึ้น แบบนี้ไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยแน่นอน ดังนั้นเราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสื่อสารกับโลกให้มากขึ้น เพราะถ้าทั่วโลกคิดกันแบบนี้ ประเทศไทยเราเสียหาย ดังนั้น เราจะทำงานล่าช้าแบบเช้าชามเย็นชามไม่ได้แล้ว และคิดว่าเรื่องนี้นายมาริษเสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เคลื่อนไหวล่าช้ามาก ที่ผ่านมามีการเคลมว่าไปถึงนิวยอร์ก ที่สหรัฐอเมริกาแล้วแต่ ก็ไม่ได้เห็นว่าผลลัพธ์จะเป็นรูปธรรม ในการสื่อสารหรือทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทย หรือความเข้าใจในเรื่องความขัดแย้งกับกัมพูชา ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นอย่างไร .312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

Thailand Reports Cambodian Troop Buildup, Drone Activity Near Border

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศาลสั่งจำคุก “วิรัช รัตนเศรษฐ” 4 ปี 6 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีทุจริตสนามฟุตซอล

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ภูมิธรรม” รับมอบเงินบริจาคหนุนภารกิจช่วยเหลือประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ‘อธิบดีกรมการปกครอง-อธิบดี สถ.’ คนใหม่

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

น้ำมันและทองคำขยับลง หุ้นสหรัฐฯปิดลบจับตาเส้นตายรีดภาษีใกล้เข้ามา

Manager Online

รถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์ คุณป้าวัย 68 ปีเสียชีวิต หนุ่มคนขับก้มกราบขอขมา ด้วยความเสียใจ ไม่มีใครอยากให้เกิดอุบัติเหตุ จ.ชลบุรี

สวพ.FM91

ข้อควรรู้บัตรรถไฟฟ้า Mangmoom EMV ใหม่ ใช้คู่กับแอปฯ เป๋าตัง เปิดขายที่ MRT สายสีม่วง

Manager Online

สลด พ่อห่วงลูกสาว วัย 13 ปี หายออกจากบ้าน ขับกระบะตามหา รถพุ่งชนเสาไฟ ดับ 2 ราย

Khaosod

ถ่ายทอดสดผลการออกรางวัลสลากออมสิน 1 ส.ค. 68 ตรวจหวยออมสินที่นี่

ฐานเศรษฐกิจ

เศร้า "ภูมิธรรม" เผยรัฐห่วงใยและเสียใจ มีคนในศูนย์อพยพจบชีวิต

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก คนขับถูกทับร่างแหลก เสียชีวิตกลางถนนสายมาลัยแมน จ.นครปฐม

สวพ.FM91

‘ผู้ว่าฯโคราช’ เปิดจวน-สละเงินเดือนเช่าโรงแรมช่วยผู้อพยพชายแดนเดือด

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

เดินสายแจงทูตสหภาพยุโรป-อังกฤษ ปมชายแดน

สำนักข่าวไทย Online

ยูเอ็นเรียกร้องให้ไทย-กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง

สำนักข่าวไทย Online

กห.ยัน “ไม่มีคำพูดเหยียดกัมพูชา” ตามที่ถูกแชร์ในโซเชียล

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...