ผู้นำอัปรีย์
หยามกันน่าดู
ถ้า “ฮุน เซน” เป็นพญาละแวกเวอร์ชันเขมร
“ทักษิณ” ก็คงเป็นพญาละแวกเวอร์ชันไทย
คบไม่ได้ชั่วลูกชั่วหลาน
ในสงครามย่อมๆ ระหว่างไทย-กัมพูชา เกิดความอัปยศทางการเมือง โชว์ออฟจนดูโง่ ของครอบครัวผู้นำทั้ง ๒ ประเทศ
ที่พนมเปญ “ฮุน เซน” เล่นบทผู้นำตัวจริง
ส่วน “ฮุน มาเนต” หลบอยู่หลังพ่อเสียเป็นส่วนใหญ่ ทั้งๆ ที่มิได้ถูกศาลกัมพูชาสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เหมือนนายกรัฐมนตรีไทย
“ฮุน เซน” ต่อยมวยวัด โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียล ไม่พอใจสื่อไทยหาว่าบินหนีไปต่างประเทศแล้ว
“…ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์ไทย บอกว่าออกจากกัมพูชาไปจีนแล้ว
ผมขอระบุว่า ขณะนี้ผมกําลังมีส่วนร่วมในการบัญชาการกองทัพบกผ่านวิดีโอและแพลตฟอร์มอื่นๆ กับท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการกองทัพบก และผู้บัญชาการกองทัพบกทุกระดับ ประเทศไทย ฉันไม่ได้วิ่งไปไหนทั้งนั้น
ได้โปรดเพื่อนร่วมชาติของฉัน ไม่ต้องห่วง!…”
ถูกต้องแล้วท่านผู้นำ
ใช่ครับไม่ต้องห่วง เพราะนี่คือหลักฐานในการเล่นงาน “ฮุน เซน” ข้อหาอาชญากรรมสงคราม
ทหารเขมรฆ่าพลเรือนไทย ฆ่าเด็ก ฆ่าผู้หญิง ยิงปืนใหญ่ถล่มโรงพยาบาลของไทย ยิงปืนใหญ่ไปลงในแหล่งชุมชนของไทย ซึ่งมิได้เป็นเขตทหาร
ฉะนั้นในเมื่อ “ฮุน เซน” ประกาศตัวเองว่ามีส่วนในการบัญชาการผ่านกองทัพ ก็ต้องรับผิดชอบด้วย
อนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ ๔ เกี่ยวกับการคุ้มครองบุคคลพลเรือนในเวลาสงคราม ค.ศ. ๑๙๔๙
ระบุไว้ในข้อ ๑๘ ว่า โรงพยาบาลฝ่ายพลเรือนที่ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ และป่วยไข้ ผู้ทุพพลภาพ และสตรีที่คลอดบุตรนั้น ห้ามมิให้ใช้เป็นจุดแห่งการโจมตีไม่ว่าในพฤติการณ์ใดๆ แต่จะต้องได้รับความคุ้มครอง
เรื่องนี้ต้องถึงศาลโลก!
ทาง พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย บอกว่ามีหลักฐานชัด
“….จากหลักฐานที่มีอยู่ เชื่อได้ว่ารัฐบาลกัมพูชา โดยสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีอันน่าสะเทือนใจเหล่านี้ การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขาดความเคารพต่อชีวิตมนุษย์และการไม่แยแสต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน
กองทัพไทยขอยืนหยัดเคียงข้างผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีอันโหดร้ายเหล่านี้ และขอเรียกร้องให้ยุติการกระทำที่รุนแรงต่อพลเรือนในกัมพูชาโดยทันที ประชาคมโลกต้องไม่เพิกเฉยต่อความทารุณที่เกิดขึ้น และต้องร่วมกันผลักดันให้เกิดความยุติธรรมและความรับผิดชอบ…”
นึกภาพ “ฮุน เซน” ถูกจับข้อหาอาชญากรรมสงคราม คงดูไม่จืดทีเดียวครับ
ตระกูล “ฮุน” ล้มทั้งกระดาน
อาจเข้าสู่ยุคปลดปล่อยชาวกัมพูชา
ส่วนประเทศไทย กำลังเผชิญกับการเสือกของ “ทักษิณ”
“ทักษิณ” ล้ำเส้นมากไปแล้ว
วันนี้มาเสือกเรื่องความมั่นคงของชาติที่ “ทักษิณ” ก่อขึ้นมาเอง
วันนี้เห็นด้วยกับ สส.พรรคส้ม
เรื่องคือว่า “ทักษิณ” โพสต์ข้อความในแพลตฟอร์ม X ชื่อ @ThaksinLive ระบุ
"….มีหลายประเทศเป็นห่วงสถานการณ์สู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา เสนอตัวมาช่วยไกล่เกลี่ย ผมเลยขอขอบคุณทุกคนไป แต่บอกว่าอยากจะขอเวลาหน่อย
เพราะคงต้องปล่อยให้ทางทหารไทยทำหน้าที่ช่วยสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุน เซนก่อน…”
ใครฟังก็รู้สึกไม่ต่างกัน “ทักษิณ” ทำตัวราวกับสามารถสั่งกองทัพได้ ว่าต้องทำอะไรตอนไหน
“เชตวัน เตือประโคน” สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ลากไส้ประเด็นนี้ครับ
“…ไม่มีใครไปบอกคุณทักษิณ ชินวัตร ให้ 'นั่งทับมือ'ไว้เลยหรือครับ?
เช่นเดียวกับที่ผมบอกตรงๆ ว่า ผมเองก็ทนนั่งทับมือมาตลอดทั้งวันไม่โพสต์ ไม่พิมพ์อะไร แม้แต่หลังประชุมสภาลับก็ไม่โพสต์แสดงความคิดเห็นอะไรเลย ถึงแม้ว่าจะมีส่วนร่วมอภิปรายพร้อมข้อเสนอให้รัฐบาลไปในสถานการณ์นี้
มาจนถึงตอนนี้ ได้เห็นสิ่งที่คุณทักษิณโพสต์ ซึ่งผมก็ชั่งใจมานานพอสมควรว่า จะร่วมแสดงความเห็นต่อกรณีนี้ดีหรือไม่?
จริงครับ กัมพูชาละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาเรื่องการวางทุ่นระเบิดใหม่ ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติในการโจมตีพื้นที่ไม่เกี่ยวกับการศึกสงคราม อย่างพื้นที่ทางเศรษฐกิจ โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น
แต่คำว่า 'สั่งสอน'ของคุณทักษิณในที่นี้แย่มากๆ ครับ ในช่วงเวลาสถานการณ์ที่การใช้กำลังทหารต้องเป็นไปโดยได้สัดส่วน ไม่ทำเหมือนที่กัมพูชาทำกับเรา และเราอยากให้มีการเจรจาโดยใช้กลไกของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อยุติการสู้รบในครั้งนี้
ครับ เราไม่อาจล้างไฟด้วยไฟ ไม่อาจยุติสงครามด้วยการทำสงคราม มีแต่เวทีเจรจาเท่านั้นที่จะพาชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาว อุบลราชธานี-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์-นครราชสีมา-สระแก้ว -ตราด กลับมาเป็นปกติ
ยั่วยุแบบ 'ทักษิณ'คือความแค้นส่วนตัว คือ 'สงครามของ ๒ ผู้นำประเทศ'ที่นำพาประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เป็นผู้รับกรรม นำพาประเทศชาติสู่สมรภูมิสงครามที่ไม่จบไม่สิ้น หยุด-อยู่เฉยๆ เถอะครับ…”
นั่นน่ะสิ…
ไม่มีใครบอก “ทักษิณ” ให้รู้จักหุบปากบ้างเลยหรือ
อัปรีย์พอกันครับระหว่าง “ทักษิณ” กับ “ฮุน เซน”
ทะเลาะกันผ่านโซเชียล ขณะที่ทหารต้องออกรบ ประชาชนต้องหนีกระสุน แต่คนพรรค์นี้ไม่เคยสำเหนียก
ในแง่เพื่อนที่ช่วยเหลือยามยากถือว่า “ทักษิณ” เป็นละแวกเวอร์ชันไทยเลย
คบไม่ได้จริงๆ
“ฮุน เซน” เคยช่วยเหลือยามวิกฤต ให้ข้าวให้น้ำ ให้วิมานสีชมพูซุกหัวนอน มาทรยศกันได้
ส่วน “ฮุน เซน” เป็นพญาละแวกเขมร ในสายตาคนไทยทั้งประเทศ
ยิ่งกว่าคบไม่ได้ครับ
หากตระกูลนี้ยังกุมอำนาจในกัมพูชา รัฐบาลไทยชุดถัดๆ ไปอย่าได้เข้าไปเกลือกกลั้ว คุยให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
การเจรจายุติสงครามเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกันการตอบโต้ทางทหารต่อกัมพูชา ก็ต้องทำต่อเนื่อง จนกว่า “ฮุน เซน” จะสั่งลูกชาย เข้าสู่โต๊ะเจรจา
แต่…การเจรจาจะเริ่มที่ “ทักษิณ” ไม่ได้เด็ดขาด!
ไม่ว่าจะทำในนามที่ปรึกษาประธานอาเซียนหรือตำแหน่งใดๆ ก็แล้วแต่ เพราะ “ทักษิณ” คือต้นตอปัญหา
ขอให้เริ่มที่กระทรวงการต่างประเทศ ทำในนามรัฐบาล โดยไม่ถูกครอบงำจากคนที่สร้างปัญหา
“ทักษิณ” พยายามโชว์ศักยภาพว่ามีอยู่เหลือล้น สามารถยุติปัญหานี้ได้ แต่ในข้อเท็จจริง เป็นเพราะ "ฮุน เซน" แค้น “ทักษิณ” จนลืมไปว่า ศักยภาพของกองทัพกัมพูชานั้นด้อยกว่าไทยมาก
รบร้อยครั้งก็แพ้ทั้งร้อย แต่ก็จะรบเพราะแค้น
ฉะนั้นการรบครั้งนี้จึงไม่ธรรมดา เพราะคนสร้างปัญหาคือคนเสือก ๒ คน ที่เสือกเข้าไปครอบงำรัฐบาลประเทศตัวเอง แล้วไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น
แต่มีประชาชน มีทหาร ตาย!
“ทักษิณ” เสือกจนเป็นต้นเหตุให้ประชาชนและทหารเสียชีวิต คนแบบนี้ต้องสลักชื่อบนบัญชีหนังหมา
ตายไปมีประตูเปิดต้อนรับประตูเดียว
ประตูนรก!