World Bank มองจุดแข็งไทย มีโอกาสสู้เศรษฐกิจโลกผันผวน
หากตั้งคำถามว่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง? ผู้อ่านจะตอบว่าอะไร? งั้นลองจินตนาการตามง่ายๆจากโทรศัพท์ที่ตอนแรกใช้แค่เพียงโทรเข้า-โทรออก ตอนนี้กลายมาเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนหลายคนที่ขาดไม่ได้ หรืออย่าง AI ที่เมื่อ 10 ปีที่แล้วทุกคนมองเป็นเรื่องไกลตัว แต่ตอนนี้มันกลับเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก
ท่ามกลางโลกที่ก้าวหน้าด้วยนวัตกรรม แต่กลับไม่ได้ทำให้ปัญหา climate change ได้รับการแก้ไขตาม ท่ามกลางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เวลาที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแต่นโยบายของภาครัฐกลับไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจมีความมั่นคง จนหลายๆคนอาจสงสัยว่าจุดแข็งของประเทศไทยเราคืออะไร? นอกเหนือจากท่องเที่ยว มันพอมีอุตสาหกรรมไหนที่น่าสนใจอีกบ้าง?
บทความนี้ ทีม SPOTLIGHT ได้สรุปสาระสำคัญจากหัวข้อเสวนา Economic Outlook : What We Need to Do Amidst a Changing World โดยคุณ Melinda Good , Division Director for Thailand and Myanmar, World Bank จากงาน TechSauce 2025
เทคโนโลยี คือ คำตอบในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
คุณ Melinda ได้เปิดประเด็นและตั้งคำถามว่า“ทำไมเราถึงต้องมาพูดเรื่องเศรษฐกิจที่งานของเทคโนโลยี ? (งาน Tech Sauce 2025) นั่นก็เป็นเพราะว่าเทคโนโลยีจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต”
พร้อมได้เปิดเผยการเติบโตที่ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกตั้งแต่ปี 2024- 2026 ซึ่งมีการเติบโตเพียง 2.8%, 2.3% และ 2.4% ตามลำดับ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ, สงครามการค้า และ ความไม่แน่นอนการทางเมือง
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ประเทศที่ขึ้นมาอิทธิพลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกและ GDP ได้กลายมาเป็นการเปลี่ยนขั้วอำนาจอย่างชัดเจน ตั้งแต่ช่วงปี 1990s – 2020s โดย World Bank ได้มีการแบ่งประเทศออกเป็น 3 กลุ่ม
1.สหรัฐอเมริกา, โซนยุโรป และญี่ปุ่น
2.ประเทศที่กำลังพัฒนา (ยกเว้น จีน, บราซิล และอินเดีย)
3.จีน, บราซิล และอินเดีย
ซึ่งหากเราดูจากกราฟจะเห็นได้ชัดว่าจากความรุ่งเรื่องของกลุ่มประเทศลำดับ 1 กำลังค่อยๆถูกแบ่งเปอร์เซ็นต์จากประเทศกลุ่ม 2 และ 3 อย่างชัดเจน นั่นเป็นเพราะ ‘เทคโนโลยี’ ที่เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศนั้นๆ หรืออาจกล่าวได้เลยว่าประเทศไหนมีการผลักดันเทคโลยีมากเท่าไร ก็อาจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศนั้นๆได้ตามปริยาย
นอกจากนี้ คุณ Melinda ยังได้โชว์ข้อมูลการที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อเศรษฐกิจ อย่างเช่น
- การส่งออกบริการทั่วโลก 60% เป็นแบบดิจิทัล
- ดิจิทัลเติบโตเร็วกว่าการค้าสินค้าแบบดังเดิมถึง 2 เท่า
- เกือบ 20% ของ GDP ของไทยมาจากบริการส่งออก บริการดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
- การใช้ดิจิทัลสามารถประหยัดเงินได้มากถึง 40-60%
- การเติบโตของงานด้านบริการเทคโนโลยี 7% เร็วกว่าการเติบโตของการจ้างงานโดยรวมประมาณ 6 เท่า
โอกาสของประเทศไทยคืออะไร ?
คุณ Melinda ฉายภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยผ่าน GDP โดยปี 2024 มีการเติบโต 2.5% แต่ 2025 คาดการณ์ว่าอาจเติบโตเพียง 1.8% โดยหากอยากฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยต้องมีการผลักดันการท่องเที่ยว, การส่งออก และ การสร้างสรรค์อุตสาหกรรมใหม่ๆของภาคเอกชน
โดยได้ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่น่าจับตามองอย่างเช่น : บริการดิจิทัล, การผลิตขั้นสูง, ธุรกิจการเกษตรและครัวของโลก,การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและสุขภาพ, เศรษฐกิจสร้างสรรค์
1.ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเศรษฐกิจแห่งอนาคต
- โครงสร้างพื้นฐานสาธารณะดิจิทัล - บรอดแบนด์, บัตรประจำตัวดิจิทัล, ระบบการชำระเงินแบบเชื่อมต่อ
- โครงสร้างพื้นฐานสีเขียว - ระบบขนส่ง, พลังงาน, เมืองที่มีความยืดหยุ่น, การจัดการน้ำท่วม
- โลจิสติกส์การค้า - ท่าเรืออัจฉริยะ, การเชื่อมต่อรถไฟข้ามพรมแดนในภูมิภาค, แพลตฟอร์มดิจิทัล
2.สร้างกำลังแรงงานที่พร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต
- พัฒนาทักษะและยกระดับทักษะ
- ลดช่องว่างระหว่างทางเพศ
- ลงทุนเรื่องการศึกษาและ lifelong learning
3. ใช้ประโยชน์จากกฎเกณฑ์การค้าและอุตสาหกรรมใหม่
- พัฒนาตลาดและมาตรฐานคาร์บอน
- สนับสนุน SMEs และบริการดิจิทัล