อดีตตัวประกันเขมร หวั่นไม่จบง่าย เพราะกัมพูชาไว้ใจไม่ได้
อดีตตัวประกันเขมร เล่าผ่านมานานกว่า 50 ปียังเป็นแผลในใจ ถูกจับเรียกค่าไถ่ แค้นมาจนถึงทุกวันนี้ หวั่นสถานการณ์ไม่จบง่าย เพราะกัมพูชาไว้ใจไม่ได้
วันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรยงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จ.สุรินทร์ ยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านที่อยู่ตามเเนวชายเเดน พบว่าบรรยากาศยังเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ขณะที่ผู้นำชุมชน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่จัดเวรยาม เฝ้าชุมชนตลอด 24 ชั่วโมง
โดยในชุมชนพบว่ายังมีชาวบ้านบางส่วนอาศัยอยู่ในบ้านเรือน หนึ่งในนั้นก็คือ คุณตาเหลือ พละหาร อายุ 84 ปี ซึ่งในอดีตเคยถูกทหารเขมรจับตัวไปเรียกค่าไถ่
คุณตา บอกว่า ในสมัยก่อน เมื่อปี 2517 ซึ่งเป็นยุคเขมรแดง ตนเองพร้อมด้วยลูกชายและลูกสะใภ้ได้พากันไปทำนาอยู่นอกชุมชน ระหว่างนั้นปรากฏว่ามีทหารเขมร 3 นาย เอาปืนมาจ่อแล้วพาตัวเข้าไปในป่า โดยทหารเขมรได้เอาตัวลูกชายกับลูกสะใภ้ไว้เป็นตัวประกัน เเล้วสั่งให้ตนไปเอาเหล้า 1 ขวด กับเงิน 5 พันบาท มาเป็นค่าไถ่ ตนเองก็ทำตามคำร้องขอ จนเขมรยอมปล่อยตัว
เเต่ปรากฎว่าขากลับ ตอนกำลังเดินออกจากป่า ลูกชายของตนได้เหยียบกับระเบิดที่ทหารเขมรเเอบวางไว้จนขาขาด ทั้งที่ก่อนหน้านี้เส้นทางดังกล่าวไม่เคยมีระเบิด นั่นหมายความว่าเขมรตั้งใจจะเอาชีวิต
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะผ่านมานานกว่า 50 ปี แต่ก็ยังเป็นแผลในใจ ที่ตนเกิดความแค้นมาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนการประชุม GBC ที่กำลังดำเนินอยู่ตอนนี้ คุณตาเหลือมองว่า จะไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนได้ เพราะเขมรไว้ใจไม่ได้ การกระทำกับคำพูด พลิกไปพลิกมาได้เสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพบเจอมาโดยตลอด และเชื่อว่าปัญหาชายแดนจะไม่จบง่าย ๆ ในอนาคตคงจะมีการปะทะกันอีกอย่างเเน่นอน