รวบ 2 เอเย่นต์รายใหญ่กลางกรุง ยึดไอซ์ 314 กก. - เคตามีน 22 กก.
สืบบก.น.8 รวบ 2 เอเย่นต์รายใหญ่กลางกรุง ยึดไอซ์ 314 กก.พร้อมเคตามีนกว่า 22 กก.
วันที่ 6 สิงหาคม 2568 เวลา 13.15 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น.8 พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี และ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 314 ถุง น้ำหนัก 314 กิโลกรัม และ เคตามีน 22 ถุง น้ำหนัก 22 กิโลกรัม, รถยนต์ที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติด ทะเบียนกรุงเทพฯ, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณกลางซอยรามคำแหง 37 ต่อเนื่องบริเวณดาดฟ้าหอพัก ภายในซอยรามคำแหง 37 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
โดย พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า “การจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลจากการดำเนินการตามนโยบาย No Drugs No Dealers จนสืบทราบว่า มีเครือข่ายลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายในเขตพื้นที่กรุงเทพฯชั้นใน และผู้ค้ารายกลางตามชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบของ บก.น.8 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม พบว่ามีการไปรับยามาจากย่านถนนเลียบด่วนรามอินทรา ประกอบกับการขยายผลจับกุมแก๊งค้ายาย่านวังทองหลางที่ถูกจับกุมไปเมื่อช่วง เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ย่านรามคำแหง เป็นเครือข่ายเดียวกัน มีพฤติกรรมซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในรถยนต์ และนำรถยนต์มาจอดไว้ภายใน ซอยรามคำแหง 37 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ และจะไปรับยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ จากนั้นจะทยอยกระจายยาเสพติดให้กับผู้ค้ารายย่อย โดยจะเก็บซุกซ่อนไว้ในรถยนต์เป็นการอำพราง โดยมีนายวศินฯ เป็นผู้ดูแลและจัดส่งยาเสพติดให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ฯจึงทำการสืบสวนติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายเอ (นามสมมุติ) พบว่าได้ขึ้นรถยนต์คันดังกล่าวและขับออกไปพร้อมกับนายบี (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเร่งสะกดรอยตามจนไปถึงลานจอดรถย่าน อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ในลักษณะมีพิรุธต้องสงสัยว่าอาจจะมีการรับ-ส่งยาเสพติด
จากนั้นได้นายเอ (นามสมมุติ) ได้ขับรถยนต์มุ่งหน้ากลับเข้าพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ และมาจอดอยู่ภายใน ซอยรามคำแหง 37 เมื่อทั้งสองคน ได้ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ยาไอซ์ 239 ถุง น้ำหนักรวม 239 กิโลกรัม และคีตามีน 22 ถุง น้ำหนักรวม 22 กิโลกรัม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่าได้ค่าจ้างในการขนยาครั้งนี้โดย นายเอ (นามสมมุติ) เป็นผู้รับค่าจ้างมาจำนวน 1 แสนบาท และจะนำไปแบ่งกับผู้ร่วมขบวนการ อีก 5-6 คนและยังรับสารภาพว่า มียาเสพติดเก็บซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณดาดฟ้าหอพักภายใน ซอยรามคำแหง 37 อยู่อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ฯจึงเข้าตรวจค้นพบของกลาง ยาไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ภายในถุงกระสอบสีรุ้ง 75 ถุง น้ำหนักรวม 75 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ฯจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และร่วมกันจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิด การแพร่กระจายในหมู่ประชาชน” จากนั้นจึงนำตัวพร้อมของกลางส่ง พงส.บช.ปส. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"
พล.ต.ท.สยามฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สืบนครบาล 8 ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว ในข้อหา สมคบ ฯ ฟอกเงิน และประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการ ตามมาตรการตรวจยึดทรัพย์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”