โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เจาะอินไซต์ "ท่องเที่ยวติดแกลม" โอกาสใหม่ การท่องเที่ยวไทย

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 6 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เรื่อง : พฤฒินันท์ สุดประเสริฐ

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย กำลังเผชิญความท้าทายจากหลาย ๆ ด้าน ทั้งประเด็นความปลอดภัย และความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สะท้อนได้จากข้อมูลของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (PATA) ที่ระบุว่าทั้งในภาพรวมและตลาดหลาย ๆ ประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้ามีแนวโน้มเติบโตขึ้น สวนทางกับประเทศไทยที่มีแนวโน้มเติบโตลดลง

นอกจากนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีความมั่งคั่งสูง (High-Net-Worth Individuals : HNWI) และกลุ่มชนชั้นกลาง เป็นหนึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กำลังถูกจับตามอง เพราะกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และเป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์ที่แตกต่างจากเดิมไปอีกขั้น และนำไปสู่โอกาสของการท่องเที่ยวแบบติดแกลม หรือการท่องเที่ยวแบบลักเซอรี่

“ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสร่วมเยี่ยมชมกาแล็กซี รีสอร์ต มาเก๊า (Galaxy Resorts Macau) 1 ใน 6 รีสอร์ตครบวงจร (Integrated Resort) ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และถือโอกาสนี้ร่วมพูดคุยกับ “เควิน เคลย์ตัน (Kevin Clayton)” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายแบรนด์กาแล็กซี รีสอร์ต ประเทศไทย อีกครั้ง เพื่อมองถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ทั้งโจทย์ที่ต้องแก้ปัญหา และกลุ่มนักท่องเที่ยว “มั่งคั่งสูง” ที่เป็นโอกาสใหม่ของการท่องเที่ยวไทย

ภาพรวมการท่องเที่ยว “เอเชีย-แปซิฟิก”

ก่อนจะมองถึงโอกาสและโจทย์ต่าง ๆ สำหรับภาคการท่องเที่ยวของไทย อยากชวนผู้อ่านเข้าใจสถิติในภาคการท่องเที่ยวของพื้นที่เอเชีย-แปซิฟิกที่เกิดขึ้น

ข้อมูลเมื่อปี 2024 ระบุว่า ญี่ปุ่น มาเลเซีย จีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ มีรายได้การท่องเที่ยวจากต่างประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยญี่ปุ่นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ขณะที่สิงคโปร์สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพถึง 16.5 ล้านคน ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการพนันในรีสอร์ตแบบครบวงจร)

มีการคาดการณ์ว่าในปี 2025 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมการพนัน) จะมีมูลค่าสูงถึง 155,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้นสู่ 298,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2035

ขณะเดียวกัน รายงานจาก Mastercard ยังระบุว่า 6 ใน 10 อันดับแรกของจุดหมายปลายทางเมืองระดับโลกปี 2024 ล้วนอยู่ในเอเชีย-แปซิฟิก ได้แก่ โตเกียว โอซากา เซี่ยงไฮ้ โซล ปักกิ่ง และสิงคโปร์ และภายในปี 2027 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังเอเชีย-แปซิฟิกจะสูงถึง 801 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 692 ล้านคนในปี 2025

ขณะที่ประเทศไทย สถิตินักท่องเที่ยวช่วงมกราคม-กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา มีจำนวนอยู่ที่ 19,295,838 คน ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวจากพื้นที่เอเชีย-แปซิฟิก 13,053,502 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 15,111,488 คน

ทั้งนี้ ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 มีข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาประเทศไทยอยู่ที่ 16.6 ล้านคน ซึ่งลดลง 4.6% จากปีก่อนหน้า ส่วนตัวเลขคาดการณ์นักท่องเที่ยวปี 2568 ตามข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าจะอยู่ที่ 35.5 ล้านคน

“มั่งคั่งสูง-ชนชั้นกลาง” โอกาสใหม่ ภาคการท่องเที่ยว

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวมั่งคั่งสูงและกลุ่มชนชั้นกลาง เป็นโอกาสใหม่ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

รายงานล่าสุด ชี้ชัดว่า 72% ของนักท่องเที่ยวกลุ่ม HNWI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวแบบลักเซอรี่ในปี 2025 โดยเน้นการเดินทางระยะสั้น แต่มีความถี่สูงขึ้น และจุดหมายปลายทางหลักยังคงเป็นเอเชีย-แปซิฟิก

นอกจากนี้ มีข้อมูลว่าการขยายตัวของชนชั้นกลางชาวจีนยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่กระตุ้นการบริโภคสินค้าหรูหราในต่างประเทศถึง 47% และ 68% ของคนกลุ่มนี้มีแผนเดินทางเยือนจุดหมายปลายทางในเอเชีย-แปซิฟิกเช่นกัน

นักท่องเที่ยวเลือกประสบการณ์ Personalized มากขึ้น

นักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันมักค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางด้วยตนเอง แสวงหาประสบการณ์และแรงบันดาลใจผ่านช่องทางดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในเมือง พักผ่อนชายทะเล สำรวจธรรมชาติ หรือล่องเรือ โดยอาศัยเว็บไซต์เป็นทางการของจุดหมายปลายทางเป็นหลัก และที่น่าสนใจคือ 20% ของนักเดินทางหันมาใช้ AI เพื่อช่วยวางแผนการเดินทาง

เมื่อนักเดินทางสร้างแผนการเดินทางของตนเอง และต้องการประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร โดยผสมผสานกิจกรรมหลากหลายในการเดินทางครั้งเดียว อาทิ ที่พักหรูหรา การพักผ่อนหย่อนใจ ความบันเทิง และทัวร์ส่วนตัวที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความพอใจ

หน่วยงานการท่องเที่ยวในแต่ละประเทศจึงต้องมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับภาคเอกชน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ พร้อมลงทุนอย่างตรงจุด เพื่อให้ประเทศสามารถเติบโตในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ตั้งเป้าไว้ได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มมั่งคั่งสูง ถือเป็นกลุ่มหลักที่ทำให้เกิดการท่องเที่ยวแบบลักเซอรี่ และมีความต้องการที่จะสร้างเส้นทางการเดินทางของลูกค้าเอง (Customer Journey) โดยมีข้อพิจารณา 2 กลุ่มหลัก ๆ ทั้งการพิจารณาจากสิ่งที่อยู่บนโลกดิจิทัล ทั้งการบอกเล่าเรื่องความปลอดภัยในประเทศนั้น ๆ ความสะดวกในการเดินทาง-จองที่พักและกิจกรรมต่าง ๆ จนถึงการมีเรื่องราวน่าสนใจ หรือกิจกรรมที่น่าดึงดูดใจ

อีกส่วนหนึ่งคือ การสัมผัสประสบการณ์จริงของนักท่องเที่ยว ทั้งกิจกรรมน่าสนใจ คุณภาพในการดูแลและการบริการต่าง ๆ ที่เหนือระดับและมีเอกลักษณ์ มีการวางแผนการท่องเที่ยวที่พิเศษและเฉพาะตัว และนักท่องเที่ยวต้องรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ใช้จ่ายไป

“เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” โอกาสสร้างท่องเที่ยวติดแกลม

การเกิดขึ้นของกลุ่มการท่องเที่ยวแบบลักเซอรี่ ทำให้เกิดการท่องเที่ยวและสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ขึ้นมา หนึ่งในนั้นคือ “รีสอร์ตแบบครบวงจร” (Integrated Resort or Entertainment Complex) หรือ “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่หลาย ๆ คนได้ยินในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับนักท่องเที่ยวกลุ่มมั่งคั่งสูงและกลุ่มชนชั้นกลาง ที่เป็นโอกาสใหม่ของภาคการท่องเที่ยว

โดยเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถือเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุดในเอเชีย-แปซิฟิก โดยสถานที่ดังกล่าวไม่ได้มีแค่ “กาสิโน” ที่หลาย ๆ คนอาจจะได้ยินหรือได้เห็น แต่พื้นที่ดังกล่าวยังมีที่พักระดับหรู โชว์และการแสดง สถานที่ช็อปปิ้ง สปาเพื่อสุขภาพ พื้นที่ศูนย์การประชุมสำหรับกิจกรรม MICE และพื้นที่ศิลปะและวัฒนธรรม

สำหรับมาเก๊า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของการสร้าง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เมื่อปี 2024 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเกือบ 35 ล้านคน โดย 46% มีการพักเฉลี่ย 2.3 วัน มีรายได้จากกาสิโนรวมกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้จากการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่จากกาสิโน 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เควินยังเล่าเพิ่มเติมว่า Galaxy Resorts Macau มีผู้เยี่ยมชมจากทั่วโลกกว่า 22 ล้านครั้งต่อปี สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจมาเก๊า 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ มาเก๊ามีการกำหนดให้เก็บภาษีจากธุรกิจดังกล่าว ในอัตรา 35% โดยจัดเก็บเป็นการส่งเงิน 30% และส่วนที่เหลือ 5% เป็นการสร้างพื้นที่สาธารณประโยชน์ในมาเก๊า

อย่างไรก็ดี ผู้บริหารฝ่ายแบรนด์ กาแล็กซี่ รีสอร์ต ประเทศไทย ยังให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตการลงทุนในประเทศไทย หลังรัฐบาลตัดสินใจถอยการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาได้ศึกษาตลาดประเทศไทยมากมาย รวมทั้งยังมองเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศไทย และอยากให้ประเทศไทยมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในการลงทุนนี้

มองโจทย์เปลี่ยนท่องเที่ยวไทย

ในช่วงหลายเดือนมานี้ ภาคการท่องเที่ยวไทย เผชิญกับการปรับตัวลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งมาจากปัญหาความกังวลของนักท่องเที่ยวด้านความปลอดภัย ทั้งจากสถานการณ์ชายแดน การหลอกลวงทางโทรศัพท์ และเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเดือนมีนาคม

เควินมองว่า แคมเปญ “Amazing Thailand” ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ควรได้รับการพัฒนาให้สอดรับการการท่องเที่ยวลักเซอรี่และการท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิง

โดยภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกัน เพื่อเร่งส่งเสริมการรวมพลังกันของภาคธุรกิจต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยวหรูหราในแบบไทย รีสอร์ตหรูในภูเก็ต เมืองทางประวัติศาสตร์ โรงแรมหรูในกรุงเทพฯ แหล่งช็อปปิ้ง ภัตตาคารร้านอาหาร รวมถึงทัวร์ส่วนตัว

ขณะเดียวกัน ควรสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย เสริมสร้างประสบการณ์ทางวัฒนธรรม ความสนุกสนานบันเทิงของไทย และการจัดอีเวนต์หรือเหตุการณ์สำคัญให้มากขึ้น

เควินยังเสริมอีกว่า การพัฒนาแอปพลิเคชั่นการท่องเที่ยว เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และผลิตภัณฑ์ AI ที่ดี จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สร้างแรงบันดาลใจ โดยควรมีเนื้อหาที่เป็นการสื่อสารสองทาง และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ประเทศไทยควรดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การท่องเที่ยว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เจาะอินไซต์ “ท่องเที่ยวติดแกลม” โอกาสใหม่ การท่องเที่ยวไทย

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

ททท. ชูเสน่ห์ไทยมุมมองใหม่ผ่าน 20 อินฟลูฯไทย-เทศดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก

14 นาทีที่แล้ว

มติ สมช. ฟ้องแพ่ง-อาญา ผู้นำกัมพูชา เข้าไทยเมื่อไหร่ จับทันทึ

48 นาทีที่แล้ว

ก.ล.ต. พักงาน 2 ผู้แนะนำการลงทุน บล.ดาโอ ปมใช้รหัสลูกค้าซื้อขายแทน

59 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทยวันนี้ (18 ส.ค.) ปิดร่วง 17.11 จุด นักลงทุนขายหุ้นใหญ่ลดเสี่ยงการเมือง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ททท. ชูเสน่ห์ไทยมุมมองใหม่ผ่าน 20 อินฟลูฯไทย-เทศดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ประชาชาติธุรกิจ

ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 18ส.ค.ที่ระดับ 32.45 บาทต่อดอลลาร์

ฐานเศรษฐกิจ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยเงินบาทปิดตลาดที่ 32.45-รอติดตามสัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐฯ

Manager Online

“ต๋า เซินเซิน” หัวเรือใหญ่แห่ง เอ็มจี ร่วมทดสอบ NEW MG IM6 รุ่น Premium LONG RANGE พรีเมียมอีวีที่ชาร์จได้ไวและขับได้ไกลที่สุดในคลาส

BTimes

แอ็คมี่ วรวัฒน์ จับมือ ACT Warriors บริจาคหุ่นยนต์กวาดทุ่นระเบิดให้กองทัพไทย

sanook.com

แรงขายฉ่ำ! เทหุ้นใหญ่ถล่ม SET ร่วง 17.11 จุด กูรูชี้จุดรับ 1,230 จุด

PostToday

KBank เปิด สมัครใจลาออก จ่ายชดเชยตามอายุงาน จ่ายชดเชย-เงินพิเศษสูงสุด 12 เดือน

สยามนิวส์

เปิดกลยุทธ์ Coca-Cola น้ำอัดลมยอดนิยม เพราะอะไรถึงครองใจลูกค้ามายาวนาน

SMART SME

ข่าวและบทความยอดนิยม

ททท. ชูเสน่ห์ไทยมุมมองใหม่ผ่าน 20 อินฟลูฯไทย-เทศดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ประชาชาติธุรกิจ

มติ สมช. ฟ้องแพ่ง-อาญา ผู้นำกัมพูชา เข้าไทยเมื่อไหร่ จับทันที

ประชาชาติธุรกิจ

ก.ล.ต. พักงาน 2 ผู้แนะนำการลงทุน บล.ดาโอ ปมใช้รหัสลูกค้าซื้อขายแทน

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...