เศรษฐกิจซึมหนัก “แบงก์” หนืดปล่อยกู้ ธุรกิจไม่ไหว “หนี้พุ่ง”
วันนี้ (19 ส.ค.68) น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ (รวมเครือ) ไตรมาส 2 ปี 2568 โดยรวมยังหดตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอลงมาอยู่ที่ -0.9% จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่สินเชื่อธุรกิจ SMEs และสินเชื่ออุปโภคบริโภคหดตัวต่อเนื่อง ตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่ยังอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (เอ็นพีแอล) ไตรมาส 2 ปี 2568 ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 554.9 พันล้านบาท โดยหลักจากสินเชื่อธุรกิจ ขณะที่ปริมาณหนี้เสียของสินเชื่ออุปโภคบริโภคปรับลดลงทุกประเภท ส่งผลให้สัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวม ทรงตัวอยู่ที่ 2.91%
แบ่งเป็นสินเชื่อธุรกิจอยู่ที่ 2.74% เพิ่มขึ้นจาก 2.68% ในสิ้นปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจที่มีวงเงินน้อยกว่า 500 ล้านบาท มีหนี้เสีย 7.62% เพิ่มขึ้นจาก 7.28% จากสิ้นปีก่อน ขณะที่กลุ่มวงเงินสินเชื่อมากกว่า 500 ล้านบาท หนี้เสียอยู่ที่ 1.04% เพิ่มขึ้นจาก 1.01% ขณะที่ปริมาณหนี้เสียของสินเชื่ออุปโภคบริโภคปรับลดลงทุกประเภท
สำหรับสินเชื่อ Stage 2 ปรับลดลงในเกือบทุกพอร์ต โดยหลักเป็นการจัดชั้นดีขึ้นของลูกหนี้ที่สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้สัดส่วน stage 2 ลดลงอยู่ที่ 6.88%
อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์ยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริหารจัดการคุณภาพหนี้ สำหรับผลการดำเนินงานปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยหลักจากรายได้เงินปันผลตามปัจจัยฤดูกาล ยืนยันระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง
ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองปรับเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบนโยบายการค้าโลกขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและปริมาณสินเชื่อที่ลดลง รวมทั้งจากมาตรการคุณสู้ เราช่วย ที่มีการลดดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามภาวะการเงินที่ยังตึงตัวและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจ และครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่รายได้ฟื้นตัวช้าและมีภาระหนี้สูง รวมถึงธุรกิจและครัวเรือนที่อาจได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมต่อฐานะการเงินจากผลกระทบมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ตลอดจนติดตามผลสำเร็จของการให้ความช่วยเหลือภายใต้โครงการคุณสู้เราช่วย
โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ไตรมาส 1 ปี 2568 ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ขยายตัวชะลอลงเป็นสำคัญ ขณะที่ภาคธุรกิจมีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP ลดลงตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่การก่อหนี้ทรงตัว ด้านความสามารถในการทำกำไรโดยรวมลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อน แม้ภาคการผลิตปรับดีขึ้นจากการเร่งผลิตเพื่อส่งออก แต่ภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการอื่น ๆ เผชิญแรงกดดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงและกำลังซื้อที่ชะลอลงในตลาดที่อยู่อาศัย