ร้องเรียนอื้อเลื่อนถกโผตร. ‘บิ๊กเต่า’เดินหน้าพึ่งกมธ.

วงประชุม ก.ตร.ล่ม! เลื่อนถกโผแต่งตั้งรอง ผบ.ตร.-ผบก. ออกไปเป็น 31 ส.ค. หลัง "ภูมิธรรม" ปิดห้องคุย "ผบ.ตร." ก่อนเริ่มนานกว่า 2 ชม. อ้างเหตุมีเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก "บิ๊กเต่า" เดินหน้ายื่นหนังสือต่อ กมธ.ตำรวจ สภาฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรม "มท.อ้วน" นำทีมฝ่ายปกครองทลายบ่อนพนันกลางดอนเมือง "ผบก.น.2" เชือด 5 เสือโรงพักดอนเมืองทันที

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 28 ส.ค. เวลา 15.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2568 โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. ลงมาถึง ผบก. วาระประจำปี 2568 ภายหลังจากกรรมการพิจารณาแต่งตั้งระดับ ตร. หรือบอร์ดกลั่นกรอง ที่มี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เป็นประธานประชุมไปเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา

การแต่งตั้งปีนี้มีตำแหน่งว่างระดับ รอง ผบ.ตร. 2 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง, ผบช. 16 ตำแหน่ง, รอง ผบช. 40 ตำแหน่ง และ ผบก. 71 ตำแหน่ง รวม 136 ตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุม นายภูมิธรรมได้หารือนอกรอบกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐที่ห้องรับรอง เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง คาดว่าน่าจะมีเรื่องที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมในการแต่งตั้งด้วย ทำให้ ก.ตร.เริ่มประชุมกันได้ในเวลา 17.20 น.

นอกจากนี้ บริเวณด้านนอกห้องประชุม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มาเตรียมพร้อมชี้แจงบัญชีรายชื่อแต่งตั้งในส่วน บช.ก.ด้วย หากวงประชุม ก.ตร.ซักถาม

กระทั่งเวลา 18.00 น. นายภูมิธรรมได้เดินทางกลับภายหลังเข้าร่วมประชุม ก.ตร. ซึ่งประชุมไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบว่าการประชุมในวันนี้เรียบร้อยดีหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวเพียงว่า ปิดประชุมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ถามว่า การแต่งตั้งในวันนี้มีการเลื่อนหรือไม่ นายภูมิธรรมพยักหน้ายอมรับว่ามีการเลื่อนไปในวันที่ 31 ส.ค.2568 เวลา 15.00 น.

ซักว่า เหตุผลในการเลื่อนการพิจารณา เป็นเพราะมีเรื่องของหนังสือร้องเรียนเข้ามา โดยเฉพาะเรื่อง พล.ต.ต.จรูญเกียรติหรือไม่ นายภูมิธรรมย้ำว่า ก็มีหลายเรื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องประชุมขณะเข้าวาระที่ 4 เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ นายภูมิธรรมได้พูดสั้นๆ ขึ้นว่า "เลื่อน" ก่อนที่จะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และเดินออกจากห้องประชุมทันที โดยที่คณะกรรมการฯ ในที่ประชุมตั้งตัวไม่ทัน

ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า นายภูมิธรรมได้เดินออกจากห้องประชุมชั้นบนลงมาบันไดชั้นล่างอย่างรวดเร็ว โดยที่ข้าราชการตำรวจที่ดูแลสถานที่จัดเตรียมการไม่ทัน โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด อีกทั้งจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่ารถที่นายภูมิธรรมใช้เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเคลื่อนรถออกมารับนายภูมิธรรมไม่ทัน และขบวนกองเกียรติยศยังบรรเลงเพลงไม่ทันอีกด้วย

ก่อนหน้านั้น เวลา 13.15 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติได้เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอความเป็นธรรมในการพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งและการโยกย้ายเปลี่ยนตำแหน่ง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ได้ยื่นร้องเรียนไปยังนายภูมิธรรมก่อนหน้านี้แล้ว วันนี้มายื่น กมธ.การตำรวจ เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนกระบวนการตำรวจด้วยความถูกต้องชอบธรรม ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาสร้างความแตกแยกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่มองว่าน่าจะเป็นตัวแทนของผู้ที่ได้รับสิทธิ์แต่ถูกลิดรอนสิทธิ์อีกหลายคน ที่ไม่ได้มาร้องด้วยตนเอง เพื่อให้ ก.ตร.กลับไปทบทวน

"ช่วงการปฏิวัติไม่มี พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการพิจารณา การทำอะไรในขณะนั้นทำได้ด้วยดุลยพินิจและใช้ระบบอุปถัมภ์ แต่เมื่อมี พ.ร.บ.ตำรวจแล้ว ก็ต้องกลับมาดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อความเป็นธรรมกับคนที่ทำงานโดยตรง ซึ่ง พ.ร.บ.ตำรวจมีจุดมุ่งหมายในการแบ่งส่วนของผู้ที่มีคุณสมบัติอาวุโส 50% อีก 50% ให้คิดอาวุโสประกอบความรู้ความสามารถ เจตนารมณ์ต้องการให้คนทำงานได้รับขวัญกำลังในการได้พิจารณาความรู้ความสามารถ แต่การที่มีกฎเกณฑ์กติกาแล้วไม่ปฏิบัติหรือเลือกปฏิบัติ เมื่อผลสัมฤทธิ์ออกมาบ่งบอกถึงการใช้ดุลยพินิจ ซึ่งอาจเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

ถามว่า การมายื่นร้องต่อ กมธ.การตำรวจครั้งนี้ เพราะไม่เชื่อมั่น ก.ตร.หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ก่อนที่จะดำเนินการทุกอย่าง ตนได้เห็นข้อมูลข้อเท็จจริงในการพิจารณาของบอร์ดกลั่นกรองชุดเล็ก เห็นแล้วว่าคนที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคนใกล้ชิดผู้มีอำนาจ เพราะก่อนที่มีการประชุม ก.ตร. 3 วัน จะมีการส่งรายชื่อผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ ก.ตร.ทุกท่าน เราดูแล้วว่าผลที่ออกมาคือผลสัมฤทธิ์คือมีการชะลอคำสั่ง และคนที่ได้กลับไม่ได้เป็นคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถในสายตาของพี่น้องตำรวจทั่วไป

ซักว่าจะนำเรื่องนี้ร้องต่อศาลปกครองหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า เอาไว้ทีหลัง แต่ตนดูไปถึงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย การที่จะเข้าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องดูผลสัมฤทธิ์ของรายชื่อที่ออกมา อันนี้จะครบองค์ประกอบ ซึ่งเราจะพิจารณาอย่างไรขอดูก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 27 ส.ค. นายภูมิธรรมเดินทางไปแถลงผลการปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการสิงห์ปราบพยศ บุกจับกุมทลายบ่อนการพนันทำผิดซ้ำซากในซอยสรงประภา 1 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. พื้นที่ สน.ดอนเมือง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า กรมการปกครองได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ มีบ่อนการพนันที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึง 06.00 น. จึงสั่งการให้เข้าจับกุม พบนักพนันกว่า 200 คน เงินหมุนเวียนกว่า 5 ล้านบาทต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน อีกทั้งยังตรวจยึดสมุดบัญชีจำนวน 17 เล่ม ซึ่งมีบันทึกการหมุนเวียนเงินเข้า-ออกในแต่ละวัน ด้านกายภาพสถานที่นี้มีห้องเล่นพนันรวม 5 ห้อง แยกเป็นห้องวีไอพีและห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งจากหลักฐานพบว่ามีเงินหมุนเวียนในแต่ละห้องสูงถึง 3-4 ล้านบาท ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

ต่อมาหลังการทลายบ่อนดังกล่าว พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 มีคำสั่งให้ 5 เสือ สน.ดอนเมือง ไปปฏิบัติราชการ ศปก.บก.น.2 โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.ดอนเมือง 2.พ.ต.ท.คณิณ ค้ำคูณ รอง ผกก.ป.สน.ดอนเมือง 3.พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง 4.พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ จันทจิต สวป.สน.ดอนเมือง และ 5.พ.ต.ท.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ว่า การจับบ่อนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจ เพราะเรื่องนี้เป็นนโยบายอยู่แล้วในเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล บ่อนการพนัน คอลเซ็นเตอร์ และสถานบันเทิงที่มั่วสุมยาเสพติด เป็นนโยบายที่ต้องทำอยู่แล้ว

ถามว่า การบุกจับบ่อนครั้งนี้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีการเมือง เมื่อถามถึงกระแสข่าวเตรียมจะมีคำสั่งย้าย ผบก.น.2 ให้มาช่วยราชการหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ทราบ เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการที่ตำรวจมีวิธีในการปฏิบัติอยู่แล้ว.