‘อลงกตการละคร’?
“ใครหว่า!!
นักร้องหญิง 1 นักร้องชาย 1 อินฟลูฯ ชาย 1 รีดเงิน ทิดอลงกตไป 20 ล้าน #เห้อออพวกเมริงไม่รู้เหรอว่านั่นคือเงินบริจาคของคนที่เค้ามีจิตศรัทธาช่วยเหลือ..ผู้ป่วยเอดส์”
นี่..พลันที่เพจ “ดาวแปดแฉก” บอกใบ้-ชี้เป้าไล่หลังที่มีผู้ปล่อยชื่ออักษรย่อ ด-พ-ส เกี่ยวพันกับเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุไม่ทันข้ามวัน
คุณสมปอง นครไธสง หรือ “อดีตพระมหาสมปอง” ที่ปัจจุบันได้ชื่อเป็น “อินฟลูเอนเซอร์” คนดัง มีผู้ติดตามเรือนแสน-เรือนล้าน ก็ได้ออกมาโพสต์..
“ยืมนะครับยืม คืนไปแล้วเกือบครึ่ง”!
ซึ่งก็เท่ากับเป็นการเผยตัว-ยืนยันไปแล้วหนึ่งอักษร-ส ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเงินของอดีตพระอลงกตจริง ส่วนจะจำนวนมากน้อยเท่าไหร่ จะเป็นการยืมหรือขออย่างไร..
สังคมสนใจก็แต่ นั่นมันเงินที่ชาวบ้านเขาทำบุญ ด้วยเจตนาเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยเอดส์ ใครก็ไม่ควรที่จะไปเบียดเบียน-หยิบยืม!
และฐานะอย่างคุณสมปองที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ดัง จะอัตคัดขัดสนเงินทองถึงขนาดต้องไปยืมเงินพระสงฆ์องคเจ้าเชียวรึ?
แล้วนักร้องหญิง 1 นักร้องชาย 1 ล่ะเป็นใคร จะเปิดเผยตัวเอง หรือจะรอให้คนเขากระชากหน้ากากก็ต้องเลือกเอา แต่อย่ามามุก “ยืมครับยืม” อีกล่ะ..คนเดียวพอ!
เอ้า..ส่วนรายนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินพระ แต่เพราะถูกพาดพิงว่ามีความสัมพันธ์กับ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ที่ตอนนี้กำลังสื่อกับวิญญาณอยู่หลังกำแพงคุก
ทำให้ “อรอุ๋ง BNK” หรือชื่อเต็ม “พัศชนันท์ เจียจิรโชติ” ต้องรีบออกมาโพสต์.. “จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น มีหลายคนพูดถึงอรในทำนองว่าอรมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพี่บี
อรอยากบอกตรงนี้ด้วยหัวใจว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลยค่ะ อรรักและเคารพพี่บีและภรรยาของพี่บี เหมือนพ่อกับแม่ที่คอยให้กำลังใจและดูแลอรเสมอมา
ข่าวบิดเบือนที่แพร่ไปทำให้อรเสียใจ และได้รับผลกระทบมากทั้งชื่อเสียงและจิตใจของอรเอง รวมถึงคนรอบข้างที่อรรัก
วันนี้อรอยากบอกตรงๆ ว่าอรอยากให้ทุกคนที่รักและเชื่อมั่นในตัวอร ได้เข้าใจและอยู่ข้างๆ อรในวันที่อรกำลังลำบาก
อรขอความกรุณาจากทุกคน ช่วยหยุดการส่งต่อหรือพูดถึงในทางที่ไม่จริงเหล่านี้ด้วยนะคะ และเพื่อปกป้องตัวเอง อรจำเป็นต้องให้ทนายดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้อรในช่วงเวลานี้จริงๆ ค่ะ”
ครับ..ก็ต้องให้เกียรติ ให้ความเชื่อมั่นในตัวเธอที่มีตำแหน่งเป็น CEOของค่ายUNEQ Entertainment ดูแลทั้งงานบริหารและงานศิลปินด้วยตัวเอง
แม้ “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว จะแง้มหมอบีมีโลก 4ใบก็เถอะ ขอให้เชื่อมั่นไว้ก่อนว่าจะไม่มี “อรอุ๋ง” รวมอยู่ในนั้นเป็นแน่!
พูดถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ยินที่ท่านพูดอยู่ประโยคหนึ่งชวนให้คิด.. “พูดตามตรงว่า เรามองเรื่องทั้งหมดบางทีน่าจะใช้คำว่า ‘อลงกตการละคร’
เพราะเป็นการแสดงละครเพื่อตบตาประชาชนเพื่อให้ได้ทรัพย์สินมา เพราะความจำเป็นในเรื่องการรักษาผู้ป่วยแทบจะไม่มี เพราะยาสามารถไปเบิกได้
แต่การบริจาคทุกครั้งจะพูดว่าไปช่วยผู้ป่วย”
ที่ชวนให้คิด..อืออ ก็เห็นมีอยู่หลายวัดที่มักอ้างว่า ต้องเลี้ยงดูสามเณรบ้างล่ะ ดูแล-อุปถัมภ์เด็กชาวเขาบ้างล่ะ แล้วก็เปิดรับบริจาคเพื่อให้ได้ทรัพย์สินมา
แต่เอาเข้าจริง เท่าที่ไปสอดรู้-สอดเห็นประสบกับตัวเองมา วัดเหล่านั้นจะมีเณรอยู่แค่ไม่กี่รูป มีเด็กชาวเขา-เด็กดอยอยู่ก็แบบหร็อมแหร็ม..
ถ้าจะพูดว่าเป็น “การละคร” เพื่อหาเหตุรับบริจาคก็เห็นจะไม่ผิดดอกกระมัง?
แล้วจะมีทางออก-ทางแก้เพื่อไม่ให้เกิด “อลงกตการละคร” ไปตามวัดวาอารามต่างๆ ได้อย่างไร ก็เห็นจะฝากเป็นภาระ-หน้าที่ “องค์กรพระพุทธศาสนา” ละกัน..
ทำงานบ้างเหอะ!.
สันต์ สะตอแมน