"ทนายเกิดผล" อธิบายสาเหตุถอนตัวจากคดี "วัดพระบาทน้ำพุ" ย้ำไม่ทราบเรื่อง "หมอบี"
"ทนายเกิดผล" อธิบายสาเหตุถอนตัวจากคดี "วัดพระบาทน้ำพุ" ย้ำไม่ทราบเรื่อง"หมอบี" ขณะที่ "กองปราบ" ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับใคร
วันที่ 11 ส.ค. 2568 รายการ "เปิดปากกับภาคภูมิ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ดำเนินรายการโดย นายภาคภูมิ พันธุ์สถิตย์ ได้พูดคุยกับแขกรับเชิญ ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม กับ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ประเด็นหมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ ปมยักยอกเงินวัด
ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับวัดพระบาทน้ำพุ ตอนนี้แยกเป็น 2 ส่วน คือ 1.หมอบี 2. หลวงพ่ออลงกต สำหรับเรื่องของหมอบีที่เข้ามาช่วยงานจิตอาสาให้กับหลวงพ่ออลงกต แล้วเปิดโครงการบัญชีมีเงินเข้าออกถวายเงิน ตรงนี้เรามองว่ามันค่อนข้างชัดเจนในสิ่งที่ตำรวจกำลังตรวจสอบกันอยู่
แต่ในส่วนของหลวงพ่ออลงกต อันนี้ยังไม่ชัด เนื่องจากการที่จะไปดำเนินคดีเอาผิดกับวัด เจ้าอาวาสวัด คณะกรรมการวัดนั้น พระราชบัญญัติคณะสงฆ์มาตรา 31 บอกว่าวัดเป็นนิติบุคคล คือเหมือนเป็นบริษัทหนึ่ง ในวรรคสามเขาบอกว่าเจ้าอาวาสเป็นผู้แทนในกิจการทั่วไปของนิติบุคคลที่เรียกว่าวัด ฉะนั้นเจ้าอาวาสมีหน้าที่ตามมาตรา 37 (1) คือบำรุงรักษาวัด จัดกิจการและรักษาศาสนสมบัติวัดให้เป็นไปด้วยดี
สำหรับกิจการวัด คือกิจการในการดูแลคนป่วย, มูลนิธิ ส่วนศาสนสมบัติวัด คือที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ ทรัพย์ที่จับต้องไม่ได้ก็คือตัวเงิน เป็นหน้าที่เจ้าอาวาสทั้งหมด ในการดำเนินกิจการของเจ้าอาวาส ท่านไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินตัวเงิน ก็ตั้งไวยาวัจกร ถ้าไวยาวัจกรดูแลไม่ทั่วถึง ก็ตั้งไวยาวัจกรคนที่ 2, 3, 4 ถ้ายังดูแลไม่ทั่วถึงอีกก็อาจจะตั้งคณะกรรมการวัด หรือ ผู้จัดประโยชน์วัด อันนี้คือในระบบของเจ้าอาวาส
ฉะนั้นบุคคลเหล่านี้ โดยเฉพาะเจ้าอาวาสกับไวยาวัจกร เป็นเจ้าพนักงานตาม พรบ.สงฆ์ ตามมาตรา 45 ที่ระบุไว้ชัดว่า ภิกษุที่ได้รับตำแหน่งการปกครองกับไวยาวัจกรเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา คือ เจ้าอาวาสกับไวยาวัจกรเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ถ้ากระทำถูกต้องก็แล้วไป แต่ถ้ากระทำไม่ถูกต้องก็จะมีความผิดฐานเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติ ซึ่งประเด็นสำคัญคือในการบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัดที่เป็นเงินหรือที่ดิน ชอบหรือไม่เท่านั้นเอง
ประเด็นเรื่องการซื้อที่ดินเป็นชื่อบุคคลนั้น หลักการก็คือวัด พอได้เงินมาจากเงินบริจาคประชาชน ต้องการขยายเขตวัดหรือต้องการที่จะได้ที่ธรณีสงฆ์มาเพื่อกิจการของวัด ซึ่งหลวงพ่ออลงกตคงอยากได้ที่มาเพื่องานสาธารณะสงเคราะห์ตามหน้าที่ของท่าน ซึ่งหลักในการซื้อต้องเป็นชื่อของวัด แต่เนื่องจากมีข่าวอ้างว่าท่านจะซื้อเป็นชื่อมูลนิธิ แต่ช่วงนั้นมูลนิธิยังไม่มีการจัดตั้ง
เมื่อถามว่า ทำไมต้องเป็นชื่อมูลนิธิ เพราะมีประโยชน์ 2 อย่าง คือ 1.ถ้าโอนเป็นชื่อมูลนิธิบริหารจัดการโดยคณะบุคคลมันไม่ยุ่งยาก เนื่องจากที่ดินตรงนั้นมันเป็นของบริษัทหนึ่งที่ชื่อเป็นมูลนิธิ แต่ถ้าเป็นของวัดการจะทำอะไรก็แล้วแต่มันจะยุ่งยาก 2. ในการขยายที่วัดหรือที่ธรณีสงฆ์ของวัด ถ้าเกินกว่า 50 ไร่ ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 84 เขาไม่ให้ เขาให้แค่ 50 ไร่ ยกเว้นครอบครองมาก่อนปี 2497 ก่อนประมวลกฎหมายที่ดินบังคับใช้ หรือถ้าจะครอบครองเกิน 50 ไร่ได้ ต้องไปขอรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย
ทั้งนี้ เรื่องการซื้อที่ดินเป็นชื่อบุคคล ต้องให้หลวงพ่อกับกรรมการวัดมาแสดงเจตนาอันบริสุทธิ์ เนื่องจากการจะเอาผิดท่านฐานเอาเงินวัดไปซื้อที่ดินตรงนี้ ต้องเอาให้ชัดว่าเงินใคร ถ้าเป็นเงินท่าน ท่านก็ไม่ผิด แต่ถ้าเป็นเงินวัดต้องถามท่านว่าทำไมทำแบบนี้ ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าท่านมีเจตนาพิเศษอย่างไร ตรงนี้คือประเด็นสำคัญ
ทางด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ เผยว่า ตนเป็นโรคไตเสื่อม ปัจจุบันต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน แล้วก็ต้องไปหาหมอเดือนหนึ่งหลายครั้ง ทำให้ไม่มีเวลา ซึ่งต้องรอเปลี่ยนไต เพราะถ้าไม่ได้เปลี่ยนก็ต้องฟอกไตไปเรื่อยๆ แบบนี้
ขอท้าวความก่อนว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้วได้เป็นที่ปรึกษากฎหมายและทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ ในฐานะจิตอาสา ซึ่งช่วงที่ทำหน้าที่ก็ไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งมีเรื่องหมอบีเป็นคดีแรก ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางเลขาวัดโทรมาแจ้งว่า วันอาทิตย์จะมีคณะของสภาทนายความเข้ามาพบหลวงพ่อ เพื่อมาพูดคุยเพราะเป็นห่วงเรื่องคดี ซึ่งตนไม่สะดวกเพราะไปต่างจังหวัด
ต่อมา ตนก็ได้สอบถามเรื่องที่ดินวัดเพื่อไปตอบคำถามผู้สื่อข่าว เขาก็อธิบายให้ตนฟัง พร้อมให้เป็นตัวแทนชี้แจงข้อมูลโดยไม่มีวี่แววว่าจะมีการตั้งทนายความหรือเปลี่ยนทนายความ จนเย็นวันอาทิตย์เลขาวัดก็โทรมาแจ้งว่า ทางคณะทำงานของสภาทนายความเข้ามาพบหลวงพ่อแล้ว มีมติจะตั้งคณะทำงานเข้ามาคลี่คลายช่วยเหลือคดีนี้ แต่พอได้คุยกับหลวงพ่อท่านบอกว่า นายกสภาทนายความ เขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแล้วเป็นห่วง จึงส่งทีมมาคุยเรื่องนี้ ซึ่งหลวงพ่อบอกว่า จะให้ตนร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงานด้วย ซึ่งตนเห็นว่าหลวงพ่อมีคณะทำงานแล้ว และสุขภาพตนไม่แข็งแรง กลัวว่าจะเป็นอุปสรรคและตัวถ่วง ซึ่งไม่อยากให้ใครตำหนิ จึงบอกหลวงพ่อว่าขอถอนตัวจากการเป็นทนายความทุกคดีของวัดพระบาทน้ำพุ
ส่วนที่คนถามว่าเห็นข้อมูลอะไรหรือเปล่าที่ทำให้ถอนตัวนั้น ทนายเกิดผล เผยว่า ตนเห็นข้อมูลพอๆ กับสื่อมวลชน หรืออาจจะน้อยกว่าด้วย เพราะส่วนใหญ่เขาเห็นข้อมูลแล้วค่อยมาถามตน พูดง่ายๆ ตั้งแต่เกิดเหตุก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับหมอบี ส่วนข้อมูลอื่นๆ ยังไม่เคยเห็น
สำหรับสถานะทางคดีความ ตอนนี้กองปราบเข้ามาดูแล้ว แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับใคร ยังเป็นเรื่องของการมาตรวจสอบ.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "ทนายเกิดผล" อธิบายสาเหตุถอนตัวจากคดี "วัดพระบาทน้ำพุ" ย้ำไม่ทราบเรื่อง "หมอบี"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หลวงพ่ออลงกต ขอเคลียร์ "หมอบี" ประกาศนัดเจอแถลงต่อหน้าสื่อ ตำรวจชี้ปมบริจาคต้องมีคนผิด-ถูก
- กองปราบเผยปม หมอบี เบิกเงินสด บ่งชี้พฤติกรรมน่าสงสัย วัดพระบาทน้ำพุมีมติดำเนินคดี
- ทำความรู้จัก "นาถะคาเฟ่" คืออะไร ธุรกิจที่ "หมอบี" มอบรายได้ทั้งหมดให้วัดพระบาทน้ำพุ
- "ทนายเกิดผล" อธิบายสาเหตุถอนตัวจากคดี "วัดพระบาทน้ำพุ" ย้ำไม่ทราบเรื่อง "หมอบี"
- “พระอลงกต“ ท้อ คนแคลงใจทําบุญน้อย กระทบถึงผู้ป่วยนับพัน
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath