โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

พ่อมาเลย์ฯ ไม่สบายใจลูกสาวเที่ยวไทย ก่อนถูกจุดไฟเผาสาหัส ผงะมือก่อเหตุไร้ที่อยู่หลักแหล่ง

Manager Online

เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

อาการล่าสุดของสองนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ที่ถูกชายคลั่งสาดทินเนอร์จุดไฟเผายังสาหัส แผลไฟไหม้ระดับ 2 พ่อเหยื่อเผยไม่สบายใจที่ลูกสาวเที่ยวเมืองไทย เหตุการณ์เลวร้ายบ่อยเกินไป แต่ลูกสาวบอกว่าปลอดภัยก่อนเกิดเหตุสลด ตำรวจค้านประกันตัว พบ "ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง" เกรงหลบหนี

จากกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เพศชาย อายุ 26 ปี และเพศหญิง อายุ 27 ปี ถูกนายวรากร พับไธสง อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดสระแก้ว ใช้ทินเนอร์บรรจุขวดพลาสติก 1.5 ลิตรสาดใส่ ก่อนจุดไฟเผาแล้ววิ่งหนี เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายวรากรวิ่งหลบหนีแต่พลเมืองดีตามจับตัวเอาไว้ได้ เหตุเกิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะความเครียด ตกงาน ไม่มีรายได้ ก่อนหน้านี้เคยเป็นนักมวย ไปสมัครงานเป็น รปภ. แต่เพิ่งถูกให้ออกจากงาน ออกมาหางานทำแต่ไม่มีใครรับเข้าทำงาน อีกทั้งยังไม่ได้กินข้าว ทำให้เครียดหนัก ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย (Wisma Putra) ออกเอกสารข่าวชี้แจงถึงความช่วยเหลือด้านกงสุลถึงชาวมาเลเซียที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในกรุงเทพฯ โดยระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย โดยสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำกรุงเทพฯ กำลังให้ความช่วยเหลือแก่พลเมืองชาวมาเลเซีย 2 รายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่ย่านราชดำริ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันผู้บาดเจ็บทั้งสองรายกำลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแยกกัน

ทั้งนี้ สถานทูตมาเลเซียฯ ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับแพทย์ผู้ทำการรักษา และอำนวยความสะดวกในการเตรียมการเดินทางให้แก่สมาชิกในครอบครัวที่ใกล้ชิดกับผู้บาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่กงสุลจากสถานทูตมาเลเซียฯ ได้เข้าเยี่ยมผู้ประสบภัยเพื่อติดตามอาการ และเพื่อให้แน่ใจว่าผู้บาดเจ็บและครอบครัวจะได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือที่จำเป็น นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ได้รับแจ้งว่าทางการไทยกำลังดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์นี้อย่างเต็มที่ ซึ่งทางการมาเลเซียให้ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ต่อทางการไทย ในการสอบสวนคดีนี้อย่างละเอียดและโปร่งใส และจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ตามความจำเป็น พร้อมขอเตือนประชาชนชาวมาเลเซียอย่าคาดเดาเหตุการณ์นี้ และให้กระบวนการสอบสวนดำเนินไปตามปกติ

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า นักท่องเที่ยวมาเลเซียทั้งสองรายรักษาพยาบาลแยกกัน โดยผู้บาดเจ็บเพศชาย รักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยวิกฤต (ICU) โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับบาดแผลไฟไหม้ระดับ 2 ที่ร่างกายส่วนบน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อาการคงที่ และไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บเพศหญิง รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้รับบาดแผลไฟไหม้ระดับ 2 ร้อยละ 36 ที่ใบหน้า หน้าอก และแขน แต่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน อาการคงที่ และสื่อสารด้วยการเขียนได้ ซึ่งแพทย์ผู้ทำการรักษาเห็นว่า อาจต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 เดือน แม้ว่าทางครอบครัวจะร้องขอให้แพทย์ส่งตัวผู้บาดเจ็บกลับไปรักษาตัวที่ประเทศมาเลเซียก็ตาม

ด้านนายบง ยิก จุย อุปทูตรักษาการสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำกรุงเทพฯ เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บทั้งสองราย และให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวแห่งชาติเบอร์นามา (BERNAMA) ว่า ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายอาการคงที่ แม้จะต้องรักษาในห้องไอซียูก็ตาม และไม่ว่าสมาชิกในครอบครัวจะอยู่ที่กรุงเทพฯ หรือกลับประเทศมาเลเซียแล้ว สถานทูตมาเลเซียฯ จะติดตามความคืบหน้าอาการของผู้บาดเจ็บกับทางโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด

ขณะที่บิดาของผู้บาดเจ็บเพศหญิง กล่าวว่า ลูกสาวเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 ส.ค.) เพื่อพักผ่อน ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน ซึ่งตนรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อลูกสาวบอกกับตนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอวางแผนที่จะมาเที่ยวประเทศไทยกับแฟนหนุ่ม เพราะปีนี้มีเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยบ่อยเกินไป เลยรู้สึกว่าช่วงนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะมาเที่ยวที่นี่ แต่ลูกสาวทำให้ตนเชื่อว่าที่นี่ปลอดภัย ซึ่งทั้งสองครอบครัวได้ขอรายงานทางการแพทย์เกี่ยวกับอาการปัจจุบันของผู้บาดเจ็บ และคาดหวังว่าผู้บาดเจ็บจะถูกส่งตัวกลับประเทศมาเลเซียโดยเร็วที่สุด เพราะข้อจำกัดเรื่องที่พัก

อีกด้านหนึ่ง พ.ต.ท.สุทวัฒน์ ศรีพรวรรณ์ สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี ควบคุมนายวรากร พับไธสง อายุ 30 ปี ไปฝากผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตั้งแต่วันที่ 9-21 ส.ค. ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เกรงว่าจะหลบหนี นายวรากรยอมรับว่า จุดไฟเผานักท่องเที่ยวทั้งสองจริง โดยเตรียมทินเนอร์และไฟแช็กไว้ก่อนแล้ว ประกอบกับมีอาการเครียดเนื่องจากตกงานไม่มีงานทำ ส่วนนักท่องเที่ยวทั้งสองไม่รู้จักกันมาก่อน และไม่ทราบว่าเป็นนักท่องเที่ยว เมื่อถามว่าอยากขอโทษผู้บาดเจ็บทั้งสองคนที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือไม่ นายวรากรพยักหน้า ก่อนถูกนำตัวขึ้นรถไปฝากขังทันที

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

เหยื่อพายุวิภายังเกลื่อนเมืองน่าน!พบยายวัย 80 ขยะ-โคลนเต็ม บ้านพังอยู่ไม่ได้ ต้องร้องผู้ว่าฯช่วย

34 นาทีที่แล้ว

"ดร.เทอดพงษ์" กระตุกรัฐ-เอกชนรวมพลังพลิกไทยจากผู้ใช้สู่ผู้สร้าง สู้ศึกเทคโนโลยีโลกยุคภาษีทรัมป์

43 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

จ่าโอ เล่าเกิดอะไร? ว่าที่ทูตสหรัฐฯ เอียงไปทางเขมร แล้วเราจะไปทางไหนต่อ?

BRIGHTTV.CO.TH

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

สำนักข่าวไทย Online

เจ้าของรถเก๋ง MG ตกเหวที่พิษณุโลก เข้าพบตำรวจ ไม่เชื่อกระดูกในรถเป็นของสาวผู้เช่า

สยามนิวส์

เปิดข้อมูล ‘หลุมระเบิด’ ที่กัมพูชาโจมตีพลเรือน พบว่า 794 หลุม

The Bangkok Insight

ฮือฮา เลขทะเบียนรถ "หลวงปู่ศิลา" ยางแตก ตรงเลขปู่วัดสายป่า

TNews

EOD พบหลุมระเบิดกว่า 794 หลุม ส่วนใหญ่พบบ้านพลเรือน-รพ.

The Better

เหยื่อพายุวิภายังเกลื่อนเมืองน่าน!พบยายวัย 80 ขยะ-โคลนเต็ม บ้านพังอยู่ไม่ได้ ต้องร้องผู้ว่าฯช่วย

Manager Online

“หลวงปู่ศิลา” เมตตามอบเงินให้ แม่ทัพภาคที่ 2 ใช้ในภารกิจทางทหาร

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

มัดรวมความจริง “ลุงตู่” ไม่ใช่เทวดา ดึงสติติ่งสายอวย

Manager Online

มามุกเดิม! เขมรปัดวางทุ่นระเบิดใหม่ โบ้ยไทยลาดตระเวนล้ำแดน “ผอ.เฮง” จี้ทำตามข้อตกลงหยุดยิง

Manager Online

“แม่บุ๋ม” ซัดกลับเขมร 1 ดอก ยันมีมงกุฎเดียว ไม่ถึง 18 มงกุฏ

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...