สภาเกษตรฯ ผวาสับปะรดราคาตก 3-4 บาท/กก. จี้รัฐรับมือด่วน
นายอานนท์ โลดทนงค์ รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คนที่ 1 และประธานกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การค้าโลกเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ที่กระทบไปทั่วโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การระบาดของโรคเหี่ยวสับปะรด ดังนั้นเกษตรกรจะผลิตแบบเดิมๆ ไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องวางแผนให้สอดรับกับตลาด ซึ่งเกษตรกร โรงงานแปรรูป และหน่วยงานภาครัฐ ต้องร่วมมือกันเพื่อเตรียมตัวไว้ก่อน ดีกว่าปล่อยให้สายเกินไป
“ในฐานะคนที่อยู่กับสับปะรดมาตลอด ผมอดคิดไม่ได้ว่าช่วงปลายปี 2568 นี้ อาจเป็นอีกหนึ่งฤดูที่เราต้องจับตาให้ดี แม้วันนี้ ตลาดสับปะรดยังดูดีแม้ผลผลิตเฉลี่ย 4,000–6,000 ตันต่อวัน ยังดูไม่มากเกินไป แต่ สภาพขอ วันนี้ ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะโรงงานบางแห่งเลิกกิจการ ส่วน โรงงานที่เหลือหลายแห่งลดกำลังผลิต ช่วงมีนาคมที่ผ่านมา แค่ผลผลิตกระจุกไม่กี่วันราคาสับปะรดตกลงฮวบ 3–4 บาท/กก. ทั้งที่ความต้องการในตลาดยังมีและราคาในปลายทางยังทรงตัวแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็สะเทือนทั้งวงการ”
คำถามคือ "ถ้ามันจะเกิดซ้ำอีก เราเตรียมรับมือไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือ?” การวางแผนล่วงหน้าไม่ใช่ “ตื่นตูม” แต่คือ “มีสติ” เพราะเมื่อเราพร้อม — เราปลอดภัยถ้าเกิดเหตุ เราก็มีทางออกถ้าไม่เกิด เราก็โล่งใจว่าระบบเราพร้อม ทางออกอยู่ที่ “ความร่วมมือ” ชาวไร่-โรงงาน – ภาครัฐ ต้องมีแผนเชิงระบบร่วมกัน วางช่วงเวลาเก็บเกี่ยว กระจายผลผลิต บริหารกำลังผลิตโรงงานให้แม่นยำและเตรียมแผนสำรองรองรับสถานการณ์เพราะ “ถ้าทุกคนเตรียมตัว” รับมือฤดูกาลเก็บเกี่ยวใกล้เข้ามาแล้วเดือนตุลาคม-ธันวาคมนี้ อย่ารอให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แล้วค่อยคิดแก้