จีนเบรก ‘สงครามราคา’ คุมซัพพลายทองแดงในประเทศ
“สงครามราคา” เป็นหนึ่งปัจจัยที่กดดันอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจจีนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตล้นเกินอย่างเห็นได้ชัด โดยในการจับตากำลังการผลิตในอุตสาหกรรมดังกล่าวของจีน นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งใช้ “ราคาทองแดง” เป็นดัชนีฯ ทางอ้อมที่วิเคราะห์กำลังการผลิตของจีนเพราะทองเเดงเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์อีวี
อธิบายให้เห็นภาพอย่างชัดเจนคือหากความต้องการทองแดงในจีนสูงจากความต้องการในการผลิตขยายตัวก็จะดันให้ราคาแร่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น และในช่วงที่ผ่านมาสินค้าอุตสาหกรรมที่มีทองแดงเป็นส่วนประกอบจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดตามจากความต้องการในการผลิตของบรรดาผู้ผลิตในประเทศ หากแต่อุปทานที่ล้นเกินนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของจีน เพราะนอกจากจะทำให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาด เกิดการแข่งขันตัดราคาในหลายภาคอุตสาหกรรม ยังทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอีกด้วย
ล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานบทวิเคราะห์ของ Shanghai Metals Markets และ Mysteel ว่า มีสัญญาณจากรัฐบาลในการควบคุมการแข่งขันด้านราคาในประเทศ (Price War) หลายด้านหนึ่งในนั้นคือการควบคุมซัพพลายเศษทองแดง (Copper Scrap) ในประเทศ ผ่านการลดเงินสนับสนุนในอุตสาหกรรมการถลุงเศษทองแดง
เซี่ยว จิง นักวิเคราะห์ตลาดด้านโลหะที่ไม่ได้มีส่วนประกอบของเหล็ก (Non-ferro metals) จาก SDIC Futures Co. ระบุว่า การระงับหรือชะลอการผลิตแร่ทองแดงแท่ง (Copper rod) และวัสดุที่ผลิตมาจากทองแดง (Copper materials) ของรัฐบาล ส่งผลให้ในหลายมนฑลของจีนต้องหันไปใช้แร่ทองแดงบริสุทธิ์(refined Copper) ซึ่งมีราคาสูงกว่าแทน
นอกจากนี้ จากการสำรวจของนักวิจัยของ Shanghai Metals Market ซึ่งเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า การผลิตทองแดงแบบแท่งภายในจีนจากกระบวนการรีไซเคิลอาจหดตัวลงอย่างน้อย 30% ในเดือนส.ค.
"ทองแดง" มาตรวัดสงครามราคาในจีน
ก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลจีนจะมีสัญญาณคุมเข้มออกมา มีสัญญาณชัดเจนว่า จีนพยายามนำเข้าเศษทองแดงจากหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อเร่งกำลังการผลิตในประเทศให้เพิ่มสูงขึ้นในหลายอุตสาหกรรมซึ่งเป็นสัญญาณของสงครามราคาในประเทศ
บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จีนเร่งซื้อเศษทองแดงจำนวนมากเพราะโรงงานในประเทศพยายามเร่งการผลิตในประเทศและซัพพลายของแร่ทองแดงบริสุทธิ์ในประเทศมีราคาสูงและเริ่มที่จะขาดแคลน โดยในปีนี้จีนพยายามหาแหล่งซื้อเศษทองแดงจากประเทศอื่นมากขึ้น หลังจากคู่ค้าเก่าอย่างสหรัฐซึ่งเป็นผู้ผลิตเศษทองแดงขนาดใหญ่ที่สุดปรับเปลี่ยนนโยบายทางการค้า
นอกจากนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จีนซื้อเศษทองแดงจากอียู 204,000 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.5% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการนำเข้าก็ยังมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับยอดการนำเข้าของจีนทั้งหมดที่15%
ท่าทีจีนกระทบราคาทองแดงโลกแน่นอน
ท้ายที่สุด นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่ง ระบุว่า การเปลี่ยนท่าทีของจีนจากที่เคยเป็นผู้นำเข้าทองแดงมากที่สุดในโลก มาเริ่มควบคุมการนำเข้าซัพพลายเศษทองแดงในประเทศมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อราคาทองแดงโลกอย่างแน่นอน อย่างล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ ราคาทองแดงขยับตัวสูงขึ้น 0.1% ในการซื้อขายระหว่างวันมาอยู่ที่ 9,890 ดอลลาร์ต่อตันช่วงเวลา 2.32 ตามเวลาในนครเซี้ยงไฮ้ ขณะที่ อลูมิเนียม สังกะสี และนิกเกิล ก็ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน