บสย. ขยายมาตรการค้ำประกัน หนุน SME เข้าถึงสินเชื่อซื้อกระบะมือสอง
วันที่ 2 ก.ย.2568 นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. ได้เปิดตัวมาตรการ “กระบะ (มือสอง) พี่ มีคลังค้ำ” เพื่อขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการซื้อรถกระบะเชิงพาณิชย์มือสองมาเป็นเครื่องมือในการทำธุรกิจ โดยจัดเตรียมวงเงินค้ำประกันสินเชื่อไว้เบื้องต้น 1,000 ล้านบาท เริ่มดำเนินการระยะแรก 500 ล้านบาท
มาตรการนี้ต่อยอดจากโครงการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม 2568 โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือ SMEs รายย่อย เกษตรกร และธุรกิจขนส่งขนาดเล็ก ที่มักมีปัญหาในการเข้าถึงสินเชื่อซื้อรถยนต์ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาและสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ
นายสิทธิกรกล่าวว่า ตลาดรถกระบะมือสองมีมูลค่ากว่า 17,000 ล้านบาท และมีปริมาณรถถูกยึดเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงปี 2566-2567 มาตรการของ บสย. จะเข้ามาช่วยชดเชยความเสี่ยง ทำให้สถาบันการเงินกล้าปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยคาดว่ามาตรการนี้จะช่วยให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้กว่า 7,600 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบกว่า 3,400 ล้านบาท รักษาการจ้างงานได้กว่า 153,000 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านบาท
สำหรับมาตรการ “กระบะ (มือสอง) พี่ มีคลังค้ำ” มาพร้อมสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ ได้แก่
- ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 3 ปีแรก รัฐบาลและกระทรวงการคลังเป็นผู้รับภาระให้
- ค่าธรรมเนียมค้ำประกันต่ำ ปีที่ 4-7 คิดค่าธรรมเนียมเพียง 1.5% ต่อปี ของภาระค้ำประกัน
- ค้ำประกันนานสูงสุด 7 ปี (84 งวด) วงเงินค้ำประกันสูงสุดถึง 800,000 บาทต่อราย
- มาตรการนี้เปิดให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอค้ำประกันได้จนถึงวันที่ 30 ธ.ค.2568
นอกจากนี้ สำหรับ SMEs ที่ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ต่อได้จนเกิดหนี้เสีย บสย. ยังมีมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ “บสย. พร้อมช่วย” หรือ มาตรการ 3 สี ที่สามารถช่วยยืดหนี้ยาวสูงสุด 7 ปี พร้อมตัดเงินต้นก่อนดอกเบี้ย และปลดหนี้ลดเงินต้นสูงสุดถึง 30% รวมถึงยกดอกเบี้ยให้ เพื่อให้ลูกหนี้กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง